จากกรณีที่มีวัยรุ่นชายโชว์วัตถุลักษณะคล้ายอาวุธปืนในขณะเล่นน้ำสงกรานต์ เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.ของวันที่ 13 เม.ย. ปรากฏภาพในสื่อต่างๆ ขณะเล่นน้ำสงกรานต์ โดยผู้ก่อเหตุเป็นชายวัยรุ่น สวมเสื้อสีขาว กางเกงขาสั้นลายสีขาว ยืนถืออาวุธปืนเล็งไปด้านหน้าใส่กลุ่มคู่อริ ไม่สนใจสายตาของผู้คนจำนวนมาก จากนั้นได้มีวัยรุ่นชาย สวมเสื้อสีดำ เดินเข้ามาสมทบแล้วชี้มือไปยังกลุ่มคู่อริ เหมือนเป็นการท้าทาย โดยในมือชายเสื้อสีดำถือวัตถุบางอย่างคล้ายกับอาวุธมีดพก ก่อนที่ชายเสื้อสีขาวจะเก็บอาวุธปืนลงแล้วเดินหนีไป บริเวณกลางถนนจอมสุรางยาตร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ท่ามกลางความตื่นตกใจของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่กำลังเล่นน้ำสงกรานต์กันอย่างสนุกสนาน โดยมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ได้ดำเนินการสืบสวนและจับกุมผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามหมาย

ล่าสุดวันที่ 14 เมษายน 2568 เวลา 16.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา พร้อมพ.ต.อ.ณรงค์ เสวก รอง ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา พ.ต.อ.สุทธินันทน์ คงแช่มดี ผกก.สภ.เมือง นครราชสีมา แถลงผลการจับกุมนายศัสตรา วัดพะเนา หรือเติ้ล อายุ 19 ปี (หนึ่งในแก็งG5) ที่อยู่ 45 ม.6 ต.ท่าช้าง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา พร้อมของกลาง อาวุธปืนบีบีกันดัดแปลง (ไทยประดิษฐ์) บรรจุกระสุนขนขนาด 9 มม. เสื้อยืด สีครีม จำนวน 1 ตัว กางเกงขาสั้นสีขาว จำนวน 1 ตัวที่ใส่ในขณะก่อเหตุ

 



เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวได้ที่บริเวณหอพักตรงข้ามโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย โดยผู้ก่อเหตุได้นำอาวุธปืนไปทิ้งนำไปทิ้งในพื้นที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ เบื้องต้นรับสารภาพพร้อมทั้งได้ขอโทษสังคมกับเหตุการณ์ที่เกิดเหตุ จนก่อให้เกิดความตื่นตระหนกตกใจแก่ประชาชนที่มาเที่ยวในวันเทศกาลสงกรานต์ สำหรับบุคคลที่ร่วมก่อเหตุซึ่งอยู่ระหว่างหลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปเบื้องต้นแจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ และพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี

ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามผู้ก่อเหตุ ขณะที่เจ้าหน้าที่นำตัวไปสอบสวน โดยอ้างว่า “รู้สึกเสียใจและขอโทษชาวโคราชที่ทำให้ตกใจ ไม่มีเจตนาทำลายวันสงกรานต์ของทุกคน และขอโทษสังคมที่ทำให้ตกใจยอมรับว่าดื่มสุรา ทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์”