ทหารโคราชใจดี อนุโลมให้ คสัสเตอร์ขยะมาทิ้งได้ แต่ต้องลงปริมาณคู่ขนาน ทยอยขนย้ายออก

เมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่ห้องประชุม 1 กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา พลตรีณัฎฐ์  ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมนายชัยวัฒน์  ชื่นโกสุม ผวจ.นครราชสีมา นายอนันต์  ถ้ำทอง ท้องถิ่นจังหวัดนครราชสีมา และกลุ่มคลัสเตอร์ ซึ่งเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และหน่วยงานรัฐ เอกชน รวม 42 แห่ง นำขยะมาทิ้งที่ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอย ทน.นครราชสีมา ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง ได้รับผลกระทบกรณีกองทัพภาคที่ 2 ในฐานะเจ้าของพื้นที่ราชพัสดุทะเบียนเลขที่ นม.162 ในราชการกองทัพบก มีคำสั่งงดนำขยะมาทิ้งในพื้นที่ C บ่อฝังกลบขยะมูลฝอยชั่วคราว 50 ไร่ ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย นี้ ได้ร่วมประชุมโครงการระบบกำจัดขยะมูลฝอยของเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา 



ทั้งนี้จังหวัดนครราชสีมาและกองทัพภาคที่ 2 ร่วมกันหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาโดยคำนึงถึงการดำเนินชีวิตและสภาพความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ดังนี้
1.พื้นที่ C ให้งดเว้นนำขยะมาทิ้งตั้งแต่เวลา 18.00 น. วันที่ 11 เม.ย นี้ เป็นต้นไป และต้องขนย้ายขยะออกจากพื้นที่ C ให้เป็นไปตามบันทึกข้อตกลง
2.อนุโลมให้นำมาพักในพื้นที่ B ไม่เกินวันละ 350 ตัน ได้ตั้งแต่วันที่ 12-21 เม.ย. แต่ไม่ต้องขนขยะออก เนื่องจากติดเรื่องการห้ามรถบรรทุกวิ่งช่วงสงกรานต์



จากนั้นตั้งแต่วันที่ 22-30 เม.ย. ต้องดำเนินการขนขยะออกจากพื้นที่ B รวมถึงขยะที่นำมาทิ้งในวันที่ 12-21 เม.ย. ให้หมดภายในวันที่ 30 เม.ย. ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.สามารถนำขยะมาพักในพื้นที่ B ได้ แต่ต้องดำเนินการขนย้ายขยะออกให้หมด เป็นประจำทุกวัน

พล.ต ณัฎฐ์  ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า ทภ.2 อนุโลมให้ใช้พื้นที่ทิ้งขยะแต่ต้องลงปริมาณขยะและทยอยขนขยะออกไปให้ดำเนินการทำตามบันทึกข้อตกลง ซึ่งผ่อนปรนมาหลายครั้ง ข้อสรุปจะอนุญาตให้จนถึงสิ้นปี 2568 หากไม่มีแผนงานชัดเจน จะต้องทบทวนพิจารณาอีกครั้งและอาจยกเลิกบันทึกข้อตกลงไม่ให้ทิ้งขยะอีก

นายชัยวัฒน์  ผวจ.นครราชสีมา ขอขอบคุณกองทัพภาคที่ 2 ขอบคุณองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีเป้าหมายลดขยะจาก 450 ตันต่อวัน เหลือ 300 ตันต่อวัน ทำให้ปริมาณขยะที่มาจากท้องถิ่นลดลง 100 ตัน  ต้องมีการวางแผนการขนขยะในส่วนที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่ โดยมีเงื่อนไขขยะที่เข้ามาในพื้นที่ B ต้องเท่ากันกับขยะที่ขนลำเลียงออกไป จะช่วยแก้ไขปัญหาขยะเป็นไปอย่างเรียบร้อยทั้งหมด เรื่องปัญหาขยะไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของทุกคนในการร่วมมือร่วมใจกันแก้ไขปัญหา ขอให้ประชาชนร่วมกันรณรงค์ตระหนักลดปริมาณขยะต้นทางอย่างจริงจัง เพื่อให้ปัญหาคลี่คลายและสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างปกติสุข