กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ยกระดับความสามารถในการจัดทำบัญชีคนรุ่นใหม่ให้กับสหกรณ์ภายใต้โครงการบ้านมั่นคง
วันที่ 11 เม.ย.68 นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลตระหนักถึงบทบาทของสหกรณ์ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มชุมชนที่มีรายได้น้อย กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ และกรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ภายใต้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จึงได้บูรณาการความร่วมมือ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของสหกรณ์ภายใต้โครงการบ้านมั่นคง โดยมุ่งหวังให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง ควบคู่ไปกับการพัฒนาศักยภาพของสหกรณ์ให้สามารถบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน สามารถเป็นองค์การหลักในการบริหารจัดการด้านที่อยู่อาศัยและสนับสนุนให้ชุมชนมีความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว ซึ่งกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จะเป็นหน่วยงานหลักในการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการจัดทำบัญชี เพื่อให้สหกรณ์สามารถดำเนินงานทางการเงินและบัญชีได้อย่างถูกต้องตามหลักการและระเบียบที่กำหนด
ทั้งนี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้ดำเนินการจัดอบรมหลักสูตรการจัดทำบัญชีขึ้น จำนวน 3 หลักสูตร คือ หลักสูตรที่ 1 การจัดทำเอกสารและระบบบัญชีของสหกรณ์ หลักสูตรที่ 2 การจัดทำบัญชีของสหกรณ์ และหลักสูตรที่ 3 การจัดทำงบการเงินของสหกรณ์ เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้รับความรู้ ความเข้าใจในหลักการจัดทำบัญชีที่ถูกต้อง ตั้งแต่การจัดเอกสารหลักฐานประกอบการบันทึกบัญชี การบันทึกบัญชีในสมุดบัญชีขั้นต้น สมุดบัญชีขั้นปลาย การจัดทำงบทดลอง รายละเอียดบัญชีย่อย การปรับปรุงบัญชี และการปิดบัญชีประจำปีของสหกรณ์ ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของสหกรณ์และนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน
การอบรมดังกล่าว มีเป้าหมายคือ การสร้าง “คนรุ่นใหม่” ที่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนสหกรณ์ให้เข้มแข็ง โดยมีความร่วมมือจาก 3 หน่วยงานหลัก ได้แก่ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ หน่วยงานหลักในการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการจัดทำบัญชีทั้ง 3 หลักสูตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ สนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างการบริหารของสหกรณ์ให้มีประสิทธิภาพและเป็นไปตามหลักการสหกรณ์สากล และ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) เชื่อมโยง ประสานงานระหว่างชุมชนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนเครือข่ายและทรัพยากรสำหรับการพัฒนาสหกรณ์ ซึ่งจากการดำเนินจัดอบรมตามโครงการในครั้งนี้ คาดว่าจะสามารถขยายผลสู่ 150 สหกรณ์ภายใต้โครงการบ้านมั่นคงทั่วประเทศ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับ 150 สหกรณ์ภายใต้โครงการบ้านมั่นคง โดยการพัฒนาระบบการเงินการบัญชี ให้มีการบริหารจัดการที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ ป้องกันป้องปรามการทุจริต พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของสมาชิกสหกรณ์ในชุมชน ด้วยระบบสวัสดิการและทุนเพื่อความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป