“รมว.นฤมล-รมช.อิทธิ” ลุย จ.ชัยภูมิ “ศูนย์ข้าวชุมชน" เป็นรากฐานในการส่งเสริมและพัฒนาการผลิตข้าว มุ่งเพิ่มศักยภาพผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี ลั่น! ดูแลผลประโยชน์ของพี่น้องเกษตรกรไทย ย้ำต้องพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนเจรจาภาษีสหรัฐฯ
วันที่ 10 เม.ย.68 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อขยายศักยภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวและข้าวคุณภาพดีแบบยั่งยืน ภายใต้โครงการสนับสนุนการลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตรสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โดยมี นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอนันต์ นาคนิยม ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ หัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วม ณ โรงเรียนหนองบัวแดงวิทยา ต.หนองบัวแดง อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ
ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า การจัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีฯ ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวให้มีความเข้มแข็งยั่งยืน อีกทั้งให้มีการลดต้นทุนการผลิตข้าว เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขันข้าวในตลาดโลก ซึ่งจะทำให้รายได้ของเกษตรกรเพิ่มขึ้น พึ่งพาตนเองได้แบบยั่งยืน ซึ่งที่ผ่านมาภาครัฐพยายามให้การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวมาโดยตลอด แต่การสร้างความเข้มแข็งของเกษตรกรในพื้นที่ จะก่อให้เกิดความยั่งยืนในการขับเคลื่อนระบบการผลิตข้าว ในระยะยาว การร่วมกันแก้ปัญหาด้านการพัฒนาการผลิตข้าวที่จะทำให้เกษตรกรมีรายได้ และอยู่ด้วยตนเองอย่างยั่งยืน ต้องเริ่มจากการพัฒนากลุ่มเกษตรกรให้เข้มแข็งอย่างจริงจัง จึงมอบหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ดูแลพี่น้องเกษตรกรอย่างใกล้ชิด
รมว.นฤมล กล่าวอีกว่า “ศูนย์ข้าวชุมชน" เป็นรากฐานในการส่งเสริมและพัฒนาการผลิตข้าว โดยมุ่งเน้นการผลิตและการกระจายเมล็ดพันธุ์ดี เปิดโอกาสให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการเกี่ยวกับการพัฒนาข้าวด้วยตนเอง ช่วยให้ชุมชนและองค์กรชาวนาเกิดความเข้มแข็ง ปัจจุบัน มีศูนย์ข้าวชุมชน 5,704 แห่ง และในปี 2568 มีเป้าหมายจัดตั้งศูนย์ข้าวชุมชนเพิ่ม รวมเป็น 7,485 ศูนย์ และจะขยายเพิ่มอย่างต่อเนื่องให้มากที่สุด เพื่อกระจายเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีให้กับชาวนาอย่างทั่วถึง
“สำหรับประเด็นมาตรการการค้าสหรัฐอเมริกาที่มีการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้านั้น ดิฉันได้เข้าร่วมประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ที่ผ่านมา ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อนำเสนอข้อมูลก่อนที่คณะของประเทศไทยจะเดินทางไปเจรจา ซึ่งได้แสดงจุดยืนของกระทรวงเกษตรฯ ในที่ประชุมไปว่า จะต้องดูแลพี่น้องเกษตรกรเป็นหลักก่อน ต้องคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นทั้งกับเกษตรกร และสินค้าเกษตรส่งออกให้มากที่สุด” รมว.นฤมล กล่าว
รมว.นฤมล เปิดเผยอีกว่า หากมีการนำเข้าสินค้าเกษตร อาทิ ข้าวโพด จะต้องมีเงื่อนไข เช่น ต้องซื้อข้าวโพดของเกษตรกรไทยตามสัดส่วนให้หมดก่อน จึงจะสามารถนำเข้าได้ ส่วนสินค้าปศุสัตว์หมู จะต้องพิจารณาให้รอบด้าน เนื่องจากสหรัฐฯ อนุญาตให้มีการใช้สารเร่งเนื้อแดง หากนำเข้าจะขัดต่อกฎหมายของไทย ซึ่งหากให้มีการแก้กฎหมายจะเกิดผลกระทบตามมา ทำให้ผู้เลี้ยงสุกรในประเทศมีข้อเสียเปรียบ ราคาตกต่ำ กระทบต่ออาชีพเกษตรกรไทย และเกิดผลเสียต่อสุขภาพของประชาชนตามมาอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 9 เม.ย.68 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ได้โพสต์ข้อความผ่านสื่อออนไลน์ ชะลอการเก็บภาษีนำเข้า 75 ประเทศ เป็นเวลา 90 วัน จึงเป็นโอกาสดีที่คณะเจรจาของไทยจะได้พิจารณาทบทวนอย่างรอบคอบอีกครั้ง
ด้านนายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า กรมการข้าวมีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวรวมตัวกันจัดตั้งศูนย์ข้าวชุมชนเพื่อเป็นรากฐานในการส่งเสริมและพัฒนาการผลิตข้าว โดยวัตถุประสงค์เพื่อผลิต และกระจายเมล็ดพันธุ์ข้าวให้เพียงพอต่อความต้องการของชุมชนและประเทศ และสร้างความเข้มแข็งของเกษตรในพื้นที่ ตลอดจนลดต้นทุนการผลิตข้าว โดยสนับสนุนเครื่องจักรกลการเกษตร ที่ศูนย์ข้าวชุมชนขาดแคลน เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวให้มีความเข้มแข็งยั่งยืน กรมการข้าวจึงจัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีฯ ขึ้น ซึ่งภายในงานมีเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ศูนย์ข้าวชุมชนในพื้นที่ เข้าร่วมงานกว่า 2,000 คน
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดนิทรรศการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงการบรรยายให้ความรู้ ที่สนับสนุนการดำเนินงานของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และยกระดับคุณภาพข้าวในครัวเรือน โดยกรมการข้าวสนับสนุนปัจจัยการผลิตให้แก่เกษตรกร ดังนี้ 1. เครื่องคัดเมล็ดพันธุ์ข้าว จำนวน 10 เครื่อง 2. โดรนสำรวจ จำนวน 100 ลำ 3. เมล็ดพันธุ์ดี จำนวน 3,000 ตัน ภายใต้โครงการส่งเสริมการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าว ปี 2568 4. เมล็ดพันธุ์ข้าว จำนวน 270,796 กก. ภายใต้โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัย 5. สารชีวภัณฑ์ จำนวน 5,413,800 กรัม ภายใต้โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัย 6. ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ จำนวน 5,413,800 มิลลิลิตร ภายใต้โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัย และ 7. ปุ๋ยเคมี จำนวน 902,501 กิโลกรัม ภายใต้โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัย
จากนั้นในช่วงบ่าย รมว.นฤมล และคณะ เดินทางไปยังโรงเรียนแก้งคร้อวิทยา ต.หนองไผ่ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ติดตามการดำเนินโครงการสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านหนองสามขา ต.หนองไผ่ อ.แก้งคร้อ ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ โดย กรมชลประทาน มีแผนงานพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ ประกอบไปด้วย เครื่องสูบน้ำ อัตราการสูบ 0.30 ลบ.ม./ วินาที และท่อส่งน้ำด้วยแรงดันความยาว 6,400 เมตร หากโครงการฯแล้วเสร็จ จะสามารถเพิ่มพื้นที่รับประโยชน์ได้ประมาณ 2,000 ไร่ เป็นอีกหนึ่งโครงการ ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน