ตามนโยบาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดนโยบายในการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน และ “นโยบายรัฐบาลในการจัดการปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติยุค Digital Disruption” แก่ข้าราชการตำรวจระดับผู้บริหารทั่วประเทศ ในโครงการสัมมนาผู้บริหาร ระดับผู้บัญชาการหรือเทียบเท่า และผู้บังคับการหรือเทียบเท่า ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร.ในฐานะ ผอ.ศปปง.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. ในฐานะ ผอ.ศปอส./ผอ.ศตคม.ตร. และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศปอส.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. นำเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จนนำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าว

 

วันที่ 10 เม.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ บก.สอท.2  พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตร์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1, พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 และพล.ต.ต.
ศุภกร ผิวอ่อน ผบก.สอท.5 แถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์ลากไส้เครือข่ายฟอกเงิน "เอ็ม เอกชาติ" ยึดทรัพย์แม่และบรรดาภรรยากว่า 222 ล้าน

พล.ต.ท.ไตรรงค์  กล่าวว่า สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ กก.3 บก.สอท.2 ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักในพื้นที่ หมู่ที่ 3 ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี และจับกุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” อินฟลูเอนเซอร์สายแต่งรถจักรยานยนต์และคอนเทนต์ครีเอเตอร์ชื่อดัง เพื่อดำเนินคดีในความผิดชักชวนให้เล่นพนันออนไลน์โดย “เอ็ม เอกชาติ” ได้เกี่ยวพันกับกรณีการเสียชีวิต “แบงค์ เลสเตอร์” ที่ถูกจ้างดื่มเหล้าให้หมดแบนเพื่อแลกกับเงินเดิมพัน 30,000 บาท ภายในงานเลี้ยงเปิดร้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรีจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสื่อสังคมออนไลน์ในขณะนั้น

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนขยายผล พบเส้นทางการเงินและข้อมูลบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ จากตรวจสอบรายการเดินบัญชีธนาคารย้อนหลัง พบว่ามียอดเงินหมุนเวียนแต่ละบัญชีจำนวนมาก อีกทั้ง จากการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม พบว่า “เอ็ม เอกชาติ” พร้อมพวกอีก 6 คน มีความเกี่ยวข้องกับขบวนการแปลงทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดให้ดูเหมือนเป็นทรัพย์สินที่ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย 

ช่วงเย็นของวันที่ 26 มี.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.2 จึงได้นำกำลังพร้อมหมายค้น เข้าตรวจค้นเป้าหมายเพื่อจับกุมผู้ต้องหา  2 จุด ได้แก่ บ้านพักของ “เอ็ม เอกชาติ” ในพื้นที่ หมู่ 3 ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี และ บ้านพักในพื้นที่ หมู่ 1 ต.กองดิน อ.แกลง จ.ระยอง โดยในครั้งนั้น สามารถจับกุม น.ส.สุปราณี อายุ 52 ปี มารดาของ “เอ็ม เอกชาติ” พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินทั้งรถยนต์หรู รถจักรยานยนต์ ของใช้แบรนด์เนม เครื่องประดับ และของกลางอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท
ต่อมา ได้มีบุคคลที่ครอบครองรถยนต์ของ “เอ็ม เอกชาติ” ติดต่อขอนำรถยนต์ดัดแปลงสภาพและรถยนต์ที่ประกอบขึ้นเพื่อการแข่งมาส่งมอบแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจเนื่องจากเกรงกลัวความผิด จำนวน 5 คัน รวมมูลค่ากว่า 13,500,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานและสืบสวนขยายผลต่อเนื่องเรื่อยมา

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนขยายผลจนพบหลักฐานว่า มีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการเพิ่มเติมอีกคือ น.ส.อริยา อายุ 27 ปี แฟนสาวอีกคนของ “เอ็ม เอกชาติ” จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาล และได้ขออนุมัติหมายค้นเพื่อเข้าตรวจเป้าหมายอีก 3 จุด ในพื้นที่ จ.จันทบุรี ได้แก่จุดที่ 1 บ้านพักในพื้นที่ หมู่ที่ 3 ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี สามารถจับกุม น.ส.อาริยา อายุ 27 ปี แฟนสาวอีกคนของ เอ็ม เอกชาติ ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 2244/2568 พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินเพิ่มเติม ได้แก่ รถยนต์ และ ของใช้แบรนด์เนม จำนวน 18 รายการรวมมูลค่ากว่า 9,300,000 บาท จุดที่ 2 บ้านพักในพื้นที่ หมู่ที่ 4 ต.ช้างข้าม อ.นายายอาม จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักของพ่อและแม่ของ น.ส.อาริยา ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย จุดที่ 3 ร้านขายสินค้าการเกษตรแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี   ซึ่งเป็นร้านของ “เอ็ม เอกชาติ” และ น.ส.สุปราณี ผู้เป็นแม่ สามารถตรวจยึดทรัพย์สินเป็น ที่ดิน อาคารสิ่งปลูกสร้างพร้อมสินค้าเกี่ยวกับการเกษตร รวมมูลค่ากว่า

 

50,000,000 บาท    

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบหลักฐานว่า มีบุคคลในเครือข่ายเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินใน จ.จันทบุรี โดยปัจจุบันตรวจสอบพบแล้วในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.ท่าใหม่ และ อ.เมืองจันทบุรี โดยพบข้อมูล ดังนี้ 1. “เอ็ม เอกชาติ” ได้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินร่วมกับ น.ส.ปวีณา อายุ 31 ปี แฟนสาว จำนวน 13 แปลง มูลค่าประมาณ 49,500,000 บาท 2. น.ส.สุปราณี มารดาของ “เอ็ม เอกชาติ” ถือกรรมสิทธิ์ที่ดิน จำนวน 20 แปลง มูลค่าประมาณ 31,300,000 บาท ,3. น.ส.อาริยา อายุ 27 ปี แฟนสาวอีกคนของ “เอ็ม เอกชาติ” ถือกรรมสิทธิ์ที่ดิน จำนวน 13 แปลง มูลค่าประมาณ 4,500,000 บาทเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดอายัดที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดไว้เพื่อตรวจสอบและดำเนินคดี

ซึ่งตำรวจไซเบอร์สามารถตรวจยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของ“เอ็ม เอกชาติ” ได้แล้ว กว่า 222,100,000 บาท โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงอยู่ระหว่างการขยายผลเพื่อสืบสวนไปยังทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิดในเครือข่ายดังกล่าวเพิ่มเติม หากพบ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตามกฎหมายทั้งทรัพย์สินและบุคคลที่เกี่ยวข้องรู้เห็นต่อไปโดยไม่มีการละเว้น