บูรพา โชติช่วง / รายงาน

มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ถือเป็นสมบัติของชาติที่สะท้อนให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ วิถีชีวิต ความเชื่อและภูมิปัญญาที่ได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นจนหล่อหลอมเป็นอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่งดงาม

ด้านกรมส่งเสริมวัฒนธรรม(สวธ.) กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) ได้ดำเนินการประกาศขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการบันทึกองค์ความรู้และอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่า สร้างความภาคภูมิใจให้กับชุมชน และส่งเสริมความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในการอนุรักษ์และสืบทอดมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมให้คงอยู่อย่างยั่งยืน ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2568 ได้มีการประกาศขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ประจำปี พ.ศ. 2567 จำนวน 10 รายการ อย่างทางการ โดยมี นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนางยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (รักษาราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม) ผู้ว่าราชการจังหวัด คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และชุมชนผู้สืบทอดมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม เข้าร่วมงาน ณ หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

สำหรับ 10 รายการ ที่คณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมได้มีมติประกาศขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ประจำปี 2567 แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ รายการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่ต้องได้รับการส่งเสริมและรักษาอย่างเร่งด่วน สาขาวรรณกรรมพื้นบ้านและภาษา ได้แก่ ตำนานสุบินกุมาร จ.นครปฐม สาขาศิลปะการแสดง ได้แก่ เพลงทรงเครื่อง จ.ชัยนาท สาขางานช่างฝีมือดั้งเดิม ได้แก่ ผ้าเกาะโส้ จังหวัดนครพนม สาขาการเล่นพื้นบ้าน กีฬาพื้นบ้าน และศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว ได้แก่ ยิงคันกระสุน จ.อุทัยธานี รายการตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม สาขาวรรณกรรมพื้นบ้านและภาษา ได้แก่ ตำนานพระนางสร้อยดอกหมาก จ.พระนครศรีอยุธยา และตำนานเขานางหงส์ จ.พังงา สาขาศิลปะการแสดง ได้แก่ เรือมอันเร จ.สุรินทร์ สาขาแนวปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล ได้แก่ บุญเดือน 3 นมัสการพระธาตุพนม จ.นครพนม สาขางานช่างฝีมือดั้งเดิม ได้แก่ เสื่อกกจันทบูร จ.จันทบุรี และผ้าหม้อห้อม จ.แพร่

ปลัดก.วัฒนธรรม กล่าวว่า การขึ้นทะเบียนครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมและคุ้มครองมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ ซึ่งทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และส่งเสริมมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมให้คงอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน เพื่อเป็นรากฐานในการเสริมสร้างความภาคภูมิใจของชาติ และส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศไทย

ด้าน นางยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา รองปลัดฯ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวเสริมว่า การประกาศขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมในครั้งนี้ นับเป็นมาตรการสำคัญที่ช่วยบันทึกหลักฐานและสาระสำคัญของมรดกภูมิปัญญาไทย เพื่อสร้างความตระหนักรู้และความภาคภูมิใจแก่ชุมชน องค์กร และหน่วยงานที่มีบทบาทในการสืบทอดภูมิปัญญาเหล่านี้ นอกจากนี้สวธ.ยังได้จัดกิจกรรมเผยแพร่ข้อมูล อาทิ นิทรรศการ การแสดง และการสาธิตทางวัฒนธรรม ซึ่งครอบคลุมทั้งวรรณกรรมพื้นบ้าน ศิลปะการแสดง งานช่างฝีมือดั้งเดิม ตลอดจนพิธีกรรมและเทศกาลที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ อันจะเป็นการส่งเสริมให้มรดกภูมิปัญญาของชาติได้รับการอนุรักษ์และถ่ายทอดไปยังคนรุ่นต่อไปอย่างต่อเนื่อง

ขึ้นบัญชี 10 รายการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ปี 2567