เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ทั้งหมด ยกเว้นประเทศฮังการี ลงมติเห็นชอบต่อข้อเสนอเรียกเก็บภาษีสินค้าบางรายการของสหรัฐอเมริกา โดยจะเริ่มบังคับใช้ในสัปดาห์หน้า เพื่อตอบโต้การขึ้นภาษีนำเข้าจากฝั่งสหรัฐฯ
การลงมติครั้งนี้มีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะโพสต์บนโซเชียลมีเดียว่า สหรัฐฯ จะระงับการเก็บภาษีกับประเทศส่วนใหญ่เป็นเวลา 90 วัน ยกเว้น “จีน” ที่จะถูกขึ้นภาษีทันทีเป็น 125%
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารด้านนโยบายการค้าของ EU ได้เสนอร่างมาตรการภาษีตอบโต้ดังกล่าว และได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการในการประชุมที่กรุงบรัสเซลส์เมื่อวันพุธ หลังจากที่มาตรการภาษี 20% ของสหรัฐฯ ที่มีผลต่อสินค้าจากยุโรปเกือบทั้งหมดเพิ่งมีผลบังคับใช้
* ภาษีใหม่ของยุโรปเน้นตีเป้าสินค้าอเมริกัน
โฆษกคณะกรรมาธิการยุโรปเปิดเผยว่า รายละเอียดของภาษีตอบโต้จะถูกเผยแพร่ภายในต้นสัปดาห์หน้า โดยมีเป้าหมายหลักคือ รถจักรยานยนต์ สัตว์ปีก ผลไม้ และไม้จากสหรัฐฯ ทั้งนี้ หากไม่มีการยกเลิกมาตรการ ภาษีจะเริ่มบังคับใช้ในวันอังคารหน้า ตามด้วยรอบถัดไปในเดือนพฤษภาคม และรอบสุดท้ายในเดือนธันวาคม
มาตรการใหม่นี้เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลทรัมป์ได้เก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมจากยุโรปในอัตรา 25% และมีแผนจะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากยุโรปอีก 20% ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความตึงเครียดด้านการค้า
* สหรัฐฯ ยืนยัน: ภาษีเดิมยังคงอยู่
แม้การตอบโต้ของยุโรปจะยังไม่เริ่มมีผลอย่างเป็นทางการ แต่อัตราภาษีพื้นฐานจากสหรัฐฯ ที่เรียกเก็บกับสินค้าจากยุโรปในระดับ 10% ก็มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายนแล้ว ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว
ด้านเจ้าหน้าที่ EU ระบุว่า มาตรการภาษีตอบโต้สามารถ “ระงับได้ทุกเมื่อ” หากรัฐบาลสหรัฐฯ ยอมเจรจาและหาข้อยุติที่ “ยุติธรรมและสมดุล” แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าประเทศใน EU จะถอยจากมาตรการคว่ำบาตรหรือไม่ หลังคำประกาศล่าสุดของทรัมป์