วันที่ 10 เม.ย.68 นายพายุ เนื่องจำนงค์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า มุมมองส่วนตัว: นี่ก็อีกคน.. อย่านำเอาเหตุการณ์ล่าสุดของคุณพอลมาใช้ประโยชน์ทางการเมืองแบบนี้เลยครับ มันไม่ถูกต้องแถมจะทำลายความน่าเชื่อถือของคุณฟูอาดี้เองที่มีความรู้เรื่องระหว่างประเทศ
1. การตั้งกำแพงภาษีของสหรัฐฯไม่ใช่แค่กับประเทศไทยเพียงประเทศเดียวแต่เป็นการขึ้นภาษีกับประเทศคู่ค้าจำนวนมากโดยใช้สูตรคำนวนจากตัวเลขขาดดุลทางการค้ามาคำนวนตัวเลข
2. การตั้งกำแพงภาษีครั้งนี้ของ ปธน.ทรัมป์ ได้เกิดขึ้นก่อนที่คุณพอลจะถูกจับ เนื้อหาสาระของคดีก็ยังไม่เป็นที่กระจ่าง ไม่ควรนำมาตีความและโยงมาเกี่ยวกับการเจรจาทางการค้าเอาเองแบบนี้
3. กฎหมายไทยประเทศไทยมี มาตรา 112 มานานแล้วก่อนหน้าที่จะมีการประกาศตั้งกำแพงภาษี ซึ่งสหรัฐฯก็ไม่เคยใช้เป็นเหตุผลในการเจรจาทางการค้ากับไทยเลย.. อยู่ๆจะมาอ้างแบบนี้ไม่ถูกครับ
4. หากจะหวังว่า Macro Rubio รัฐมนตรีการต่างประเทศของสหรัฐฯ จะ “เป่าหู” ปธน.ทรัมป์ ได้คือการความหวังลมๆแร้งๆครับ เพราะขนาดเรื่องนโยบายความมั่นคงที่เกี่ยวกับยูเครนเอง ซึ่ง รมต. Rubio นั้นมีความเห็นต่างกับ ปธน.ทรัมป์ อย่างสิ้นเชิงเป็นที่ประจักษ์ก่อนหน้านี้ ก็สุดท้ายยังต้องกลับคำพูดและไปตามน้ำกับนายของเขา
5. เรื่องสิทธิมนุษยชนไม่เคยทำให้ ปธน.ทรัมป์ ปฏิเสธการค้าอาวุธให้กับประเทศที่มีปัญหาหรือข้อพิพากเรื่องนี้เลย ลองย้อนกลับไปดูซิครับว่ามีประเทศใดบ้างที่ ปธน.ทรัมป์ ได้เคยตกลงทำการค้าอาวุธด้วย.. แล้วพวกเขามีปัญหาสิทธิมนุษยชนตามที่ว่าไหม ผมเชื่อว่าคุณฟูอาดี้ทราบและรู้อยู่แก่ใจแต่ไม่พูด กลับเลือกที่จะเอาเรื่องอุยกูร์มาโยงเข้ากับกรณีนี้เฉยเลย
6. หากอยู่ดีๆทางสหรัฐฯจะเปลี่ยนนโยบายด้านความมั่นคงระหว่างประเทศและการซื้อขายอาวุธจริงตามที่คุณว่า.. ก็ยังมีประเทศอื่นที่พร้อมที่จะเจรจาขายเครื่องบินรบของเขาที่เป็น 5th generation fighter ให้กับไทย.. แทนที่เราจะต้องมานั่งซื้อ F-16 ที่เป็น 4th generation fighter ของสหรัฐฯอยู่ครับ
แต่ผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมอยู่ๆพวกคุณถึงจะมาเป็นห่วงว่ารัฐบาลอาจจะไม่สามารถซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จากสหรัฐได้ ในเมื่อพรรคพวกของคุณฟูอาดี้เองก็สนับสนุนการ down-size กองทัพและการลดจัดซื้ออาวุธไม่ใช่หรอครับ? ดังนั้นสิ่งที่คุณหยิบยกมาเช่นที่คุณไหมออกมาพูด มันทำให้ขาดน้ำหนักและดูเป็นการฉวยโอกาสโจมตีรัฐบาล