“นายกฯอิ๊งค์” โวยกลางวงประชุมปลัดฯ ถูกบิดเบือนนโยบายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เป็น “บ่อนพนัน” ยันไม่ใช่เปิดกาสิโนทั้งประเทศ ขอหัวหน้าส่วนราชการร่วมสร้างความเชื่อมั่น ด้าน “วิปรัฐบาล” มีมติเลื่อนญัตติ “กำแพงภาษีสหรัฐฯ” ถกแทน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ชี้เร่งด่วนกระทบประชาชน ด้าน “ประเสริฐ” รับเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจ ก่อนประชุมสภาสมัยหน้า หลังหลายฝ่ายต้าน “กาสิโน”ยัน “แกนนำ พท.”ไม่หนักใจ

ที่ห้องประชุมจารุวัสตร์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 9 เม.ย.68 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 4/2568 โดยมีปลัดกระทรวงเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพียง โดยน.ส.แพทองธาร กล่าวเปิดประชุมตอนหนึ่งว่า วันนี้ดีใจมากที่ได้มาเจอทุกท่าน หนักเหตุการณ์แผ่นดินไหวก็หนักพอสมควร ขณะนี้อยู่ในช่วงเคลียร์พื้นที่ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมตัวให้ความร่วมมือกันอย่างเต็มที่ตั้งแต่นาทีแรกที่เกิดเหตุการณ์ ต่อจากนี้คงต้องช่วยกันต่อไป วันนี้มาที่ ททท. ช่วยกันเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กลับมา ให้ต่างชาติรู้ว่าเป็นเดือนแห่งความสนุกสนานมีเทศกาลสงกรานต์กระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนอื่นให้ไปต่อ 

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนการเคลียร์พื้นที่ก็ต้องทำไป การเยียวยารัฐบาลต้องดูแล ส่วนการตรวจสอบขอย้ำให้ทุกภาคส่วนสืบหาข้อเท็จจริงอย่างเต็มที่ แต่ภาคอื่นๆต้องลุยแล้วในเรื่องสงกรานต์ การสร้างความเชื่อมั่นการท่องเที่ยวที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ เราต้องขายของเดิมของเราก่อนให้เต็มพลัง เอาตัวเลขของนักท่องเที่ยวกลับมาเพื่อบูธทุกภาคส่วนด้วยสิ่งที่เรามีให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น หลังประสบภัยธรรมชาติ ต้องร่วมมือทุกภาคส่วน มีอะไรตนพร้อมสนับสนุนทุกภาคส่วนอยู่แล้ว ตอนนี้ขอให้ทุกท่านนอนให้เต็มที่พอเข้าสงกรานต์แล้วจะหนักนิดหนึ่งให้กำลังใจทุกท่าน

น.ส.แพทองธาร กล่าวด้วยว่า เรื่องเอนเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์ มีประเด็นหลายอย่างมาก ซึ่งเราถูกบิดเบือนในคำพูดว่าเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์คือกาสิโน จริงๆแล้วกาสิโนที่จะถูกกฎหมายคือถูกกฎหมายในเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ไม่ได้แปลว่าประเทศไทยเปิดบ่อนที่ไหนถูกกฎหมายทั้งหมด และในเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ก็มีกาสิโน แค่10% ของพื้นที่ ไม่ใช่ใครก็ได้เปิดกาสิโนได้หมดทุกที่เต็มไปด้วยกาสิโนทั้งหมดไม่จริงนี่เป็นเกมการเมือง เป็นการบิดเบือนความหมายและเจตนา 

นายกฯ กล่าวว่า นโยบายนี้อยู่ในคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา หวังเป็นอย่างยิ่งเราจะได้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในรูปแบบใหม่ จะเกิดการจ้างงาน จะเกิดการพัฒนาฝีมือแรงงานให้เข้าไปทำงาน ทุกคนต้องมีสกิลที่สูงขึ้น มีตำแหน่งงานเป็นร้อยเป็นพัน มีการก่อสร้างมีการจ้างงาน ประชาชนก็จะต้องผลิตสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น เพราะในนั้นต้องมีการทานอาหาร ต่างชาติที่อยากได้ของไทยมาที่นี้หมดถือเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจก้อนใหญ่ แต่ถูกบิดเบือนพูดว่ากาสิโน ทั้งหมดไม่ได้เปิดได้ทุกที่ มีแต่ในคอมเพล็กซ์ เพื่อเอาเงินเหล่านั้นมาหมุนคืนทุนในการก่อสร้างอยากให้หัวหน้าหน่วยราชการทุกท่านช่วยกันสื่อสารว่าเราไม่ได้เปลี่ยนประเทศให้เป็นประเทศกาสิโน ไม่ใช่อยู่แล้ว มันแค่หนึ่งที่หนึ่งคอมเพล็กซ์ต่อใบอนุญาติ วันนี้ใครชอบเล่นการพนันเล่นที่ไหนที่นั่นถูกกฎหมายหรือไม่ จ่ายภาษีให้รัฐหรือไม่ มันไม่ถูกกฎหมาย ไม่ได้รับการดูแลแต่มันก็มีอยู่ดี เราต้องรู้ว่าประเทศของเราจะขับเคลื่อนด้วยเศรษฐกิจไปข้างหน้าได้อย่างไรบ้าง

ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ  สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล แถลงผลการประชุมวิปรัฐบาลว่า ที่ประชุมมีมติเลื่อนระเบียบวาระร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ รวมถึงร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข และร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมทั้ง 3 ฉบับออกไปก่อน โดยเฉพาะร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์  เพื่อให้รัฐบาลมีเวลาชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน จนกว่าจะทำความเข้าใจกันได้และไปในทิศทางเดียวกันได้ จะนำมาพิจารณาอีกครั้ง โดยวันนี้ (9 เม.ย.) จะนำเป็นการพิจารณาญัตติด่วนหามาตรการรองรับกรณีสหรัฐอเมริกาขึ้นภาษี เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะสร้างผลกระทบต่อประชาชนอย่างมาก แม้ว่ารัฐบาลจะตั้งคณะทำงานไปเจรจาเรื่องภาษี เพื่อไม่ให้ไทยเสียเปรียบมากเกินไป


นายวิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลก็อยากฟังความเห็นและข้อเสนอแนะจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกฝ่ายไม่ว่าฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ว่าใครมีข้อสังเกตเพิ่มเติมอย่างไร สินค้าเกษตรจะต้องช่วยเหลือเกษตรกรอย่างไร จะได้ไม่เป็นการเข้าใจผิดกัน จึงเปิดโอกาสให้สภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณาเรื่องนี้เร่งด่วน ตามที่ทุกพรรคการเมืองต้องการ และสิ่งสำคัญที่สุดจากนี้จะส่งเรื่องกลับไปที่รัฐบาล และบางส่วนจะส่งไปที่คณะกรรมการเศรษฐกิจ เพื่อให้ศึกษาต่อในรายละเอียดต่างๆ โดยเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนอย่างที่สุด ส่วนการประชุมสภาฯ ในวันพรุ่งนี้ (10 เม.ย.) จะเป็นการพิจารณาวาระปกติกระทู้ถามสดและกระทู้ถามทั่วไป รวมถึงเรื่องที่ค้างการพิจารณาจากสัปดาห์ที่แล้ว

เมื่อถามว่าที่มีข้อเสนออยากให้มีการทำประชามติก่อน จะต้องทำหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้กฎหมายประชามติยังไม่ผ่าน ช่วง 3 เดือนจากนี้ว่ากันไป ถ้ามีเรื่องต้องชี้แจงทำความเข้าใจ ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการทำ เพื่อให้เกิดความกระจ่างชัด ส่วนจะมีแก้ไขอะไรอย่างไร มอบให้รัฐบาลไปดำเนินการชี้แจง เพราะหลายฝ่ายต้องการทราบในรายละเอียด ซึ่งเราไม่ได้รีบเร่งอะไร จึงอยากให้รอบคอบก่อน 

“ยืนยันว่าร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรไม่ได้มีการถอน แต่เลื่อนออกไปและไม่ได้ถึงขนาดว่าเมื่อเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งหน้าต้องนำเข้าพิจารณาเป็นเรื่องแรก อยู่ที่รัฐบาลจะทำความเข้าใจและเห็นเป็นทิศทางเดียวกัน ร่าง พ.ร.บ.สันติสุขอาจจะมาก่อนร่างเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ก็ได้” นายวิสุทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่ามีความเห็นต่างของพรรคร่วมรัฐบาล นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (8 เม.ย.) หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลออกมายืนแถลงร่วมกับนายกรัฐมนตรี เห็นอยู่แล้วว่าเป็นทิศทางเดียวกัน แต่สิ่งสำคัญที่สุด ต้องทำความเข้าใจกับประชาชน และหากมีหน่วยงานใดอยากศึกษาเพิ่มเติมตรงไหน ที่ผ่านมามีคนไปปั่น ต้องการเป็นบ่อนอย่างเดียว ซึ่งไม่ใช่ จึงเป็นหน้าที่รัฐบาลชี้แจง เพราะเป็นเรื่องปกติที่คนไม่เห็นด้วย เป็นความเห็นต่างทางประชาธิปไตย เป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจกับประชาชน

เมื่อถามว่ามีข้อเรียกร้องให้ถอนร่างออกไป นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ฟังทั้งหมด ต้องทำความเข้าใจ ถ้าไม่พอใจต้องมาว่ากัน ไม่ใช่เอะอะก็จะถอน ทั้งหมด ต้องถามว่าฟังหรือยัง ได้เห็นเนื้อหาสาระหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่เป็นกฎหมาย วาระที่ 1 ยังไม่ได้รับหลักการ ต้องฟังทุกฝ่ายให้รอบคอบ ถ้าจะทำอะไรค่อยว่าในอนาคต ขอให้ใจเย็นๆ ส่วนเมื่อปิดสมัยประชุม สส.ทุกคนต้องไปพบปะประชาชนอยู่แล้ว อาจจะถือโอกาสทำความเข้าใจ หากชาวบ้านพูดคุยด้วยในเรื่องนี้ และยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องไปทำความเข้าใจ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีสมาชิกวุฒิสภา (สว.) แถลงคัดค้านร่าง พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) และเสนอให้ทำประชามติขอความเห็นจากประชาชนก่อนว่า ถือเป็นความเห็นของ สว. ตนเข้าใจว่า เมื่อวันที่ 8 เม.ย.มีการประชุมวุฒิสภา และสรุปออกมาเป็นญัตติของ สว.คนหนึ่ง แต่วันนี้รัฐบาลได้เลื่อนการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวออกไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้สภาฯ อยู่ระหว่างปิดสมัยการประชุม และร่างฯยังไม่ตกไป ยังอยู่ในระเบียบวาระ โดยสภาฯ จะปิดสมัยประชุมประมาณ 60 วัน 

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะสามารถเดินหน้าผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าวในสมัยประชุมหน้าได้หรือไม่ เนื่องจากจะมีคนคัดค้านอยู่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เมื่อตัวร่างฯ เข้าไปอยู่ในระเบียบวาระแล้ว ตนคิดว่า สภาฯ จะพิจารณาตามความเหมาะสมว่า จะดำเนินการตอนไหน เมื่อถามย้ำว่า กังวลหรือไม่ว่า กลุ่มคัดค้านจะลุกลามบานปลาย นายประเสริฐ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจ เพราะหลายกลุ่ม หลายคนยังไม่เข้าใจในสาระสำคัญ ซึ่งมีสิทธิที่จะวิพากษ์วิจารณ์ได้

เมื่อถามว่า จะทำความเข้าใจกับคนเห็นต่างในช่วงปิดสมัยการประชุมสภาฯ ได้หรือไม่ นายประเสริฐ ย้ำว่า เป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจ เมื่อถามอีกว่า แสดงว่าในช่วงที่ผ่านมา ไม่สามารถทำความเข้าใจกับประชาชนได้ใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการสื่อสารไประดับหนึ่งแล้ว เช่น สภาฯ มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษา โดยผลการศึกษาพบว่า เห็นด้วย และหลังจากนั้นมีการทำความคิดเห็นจากประชาชน ซึ่งผ่านขั้นตอนเหล่านั้นมาแล้ว เมื่อถามถึงนายกรัฐมนตรี  ระบุว่า จะใช้เวลา 2 เดือนในการชี้แจงประชาชน พรรคเพื่อไทยจะต้องชี้แจงประชาชนด้วยหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า กฎหมายทุกฉบับต้องชี้แจงกับประชาชน หากเข้าใจคงไม่มีอะไร 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การพบกับแกนนำพรรคเพื่อไทยในการประชุมใหญ่วิสามัญเมื่อวันที่ 8 เม.ย. คิดว่ากฎหมายดังกล่าว จะสะดุดหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า ไม่มีอะไร เพียงแต่ต้องรอจังหวะที่เหมาะสม และทางแกนนำพรรคไม่ได้หนักใจอะไร เรื่องนี้ไม่มีอะไร ยังมีเรื่องเร่งด่วนอีกหลายเรื่อง