'คะน้า-ปาล์มมี่' สองเหยื่อไฮโซเก๊ หอบทองคำปลอม ข้อมูลแชทหมิ่นเหม่ มอบกองปราบ เพิ่มหลักฐานเอาผิดหมิ่นเบื้องสูง
วันที่ 9 เม.ย.68 เวลา 16.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า 'คะน้า ริญญารัตน์ วัชรโรจน์สิริ นักแสดงชื่อดัง พร้อมด้วย ปาล์มมี่ สองหญิงสาวที่เคยถูก "ไฮโซฮอต" ไฮโซกำมะลอหลอกลวง รวมตัวกันเดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. อีกครั้ง เพื่อนำพยานหลักฐาน ประกอบด้วย แชทข้อความสนทนาในลักษณะหมิ่นเหม่ วัตถุพยานจำพวกทองคำ และ แหวนเพชร หรือเครื่องประดับอื่นๆที่เป็นของปลอม มามอบให้กับทางพนักงานสอบสวน เพื่อนำไปใช้ประกอบการพิจารณาในคดีที่เคยเข้าแจ้งความดำเนินคดี "ไฮโซฮอต" ในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ไว้เมื่อวานที่ผ่านมา
โดย คะน้า ริญญารัตน์ กล่าวสั้นๆเพียงว่า การมากองปราบในวันนี้ของตนก็เพื่อต้องการนำทองคำและเครื่องประดับเพชรปลอม ที่ตัว "ไฮโซฮอต" เคยมอบให้ตน มามอบเป็นของกลางหรือพยานหลักฐานให้กับทางตำรวจนำไปใช้ประกอบการพิจารณาถึงพฤติกรรมของตัว “ไฮโซฮอท” ว่าเข้าข่ายความผิดใดบ้าง
ขณะที่ ปาล์มมี่ หญิงสาวอีกรายที่ตกเป็นเหยื่อถูกไฮโซกำมะลอรายนี้หลอกลวงด้วยเช่นกัน เผยว่า พยานหลักฐานของตนที่นำมามอบให้กับทางตำรวจในวันนี้เป็นข้อมูลแชทสนทนาที่มีเนื้อหาแอบอ้างหรือหมิ่นเหม่ ทั้งนี้ก็เพื่อให้พยานหลักฐานในคดีมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น
ด้านพ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวถึงกรณีที่มีเหยื่อหญิงสาวเข้าร้องทุกข์ขอให้ตำรวจกองปราบดำเนินคดีกับ "ไฮโซฮอต" ไฮโซกำมะลอ ในความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนยังอยู่ระหว่างสอบปากคำผู้เสียหายและพยานที่เกี่ยวข้อง และรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพราะพฤติกรรมของนายฮอต เข้าข่ายความผิดหลายข้อหา ทั้งเรื่องฉ้อโกง , แอบอ้างเบื้องสูง ม.112 , ปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม , ความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ , และความผิดเกี่ยวกับการแอบอ้างแต่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เป็นต้น จึงต้องใช้เวลาในการรวบรวมพยานหลักฐานก่อน แต่คาดว่าในส่วนของความผิดตามมาตรา 112 หลักฐานค่อนข้างชัดเจน ทั้งจากหลักฐานแชท และคำให้การของ "คะน้า" ทำให้มีมูลฟังได้ว่ากระทำผิด จึงน่าจะสามารถออกหมายจับได้ภายในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า พนักงานสอบสวนจะต้องเร่งดำเนินคดีให้เร็ว เพราะหากล่าช้า แล้วศาลเกิดให้ประกันตัวคดีหมายจับเก่าของนายฮอตขึ้นมา ก็อาจทำให้ตำรวจตามตัวนายฮอตกลับมาดำเนินคดีได้ยาก และการจะไปอายัดตัวได้ก็ต้องมีหมายจับเสียก่อน ดังนั้นตำรวจกองบังคับการปราบปรามก็จะเร่งดำเนินการในส่วนนี้ ส่วนที่วันนี้กลุ่มผู้เสียหายจะนำพยานหลักฐานแชทปลอมเกี่ยวกับการแอบอ้างเบื้องสูงไปมอบให้ตำรวจเพิ่มเติมนั้น จะจัดพนักงานสอบสวนไว้รอรับ รวมถึงหากมีผู้เสียหายรายอื่นๆ มาด้วย ก็จะขอสอบปากคำไว้เป็นพยานในคดี
