ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเติบโตต่อเนื่อง 13% ครองตำแหน่งผู้นำตลาดในหลายประเทศ ตลาดเอเชียแปซิฟิกเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยมียอดขายเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับปีก่อน พร้อมครองตำแหน่งผู้นำตลาดในประเทศสำคัญ ได้แก่ ออสเตรเลีย ไทย ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ และมาเลเซีย ปีแห่งความสำเร็จนี้ยังรวมถึง Hunter 350 ที่มียอดขายสะสมทะลุ 5 00,000 คันนับตั้งแต่เปิดตัว และ Super Meteor 650 ที่มียอดขายรวมแล้วกว่า 50,000 คัน

วันที่ 9 เมษายน 2568 โรยัล เอ็นฟีลด์ สร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ ด้วยยอดขายทะลุ 1 ล้านคันต่อปี ในปีงบประมาณสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2568 ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดในประวัติการณ์ของแบรนด์ โดยมาจากความต้องการที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ทั้งในตลาดภายในประเทศและตลาดต่างประเทศ ทำให้ยอดขายรวมอยู่ที่ 1.09 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2566-2567 ถึง 11% โดยในเดือนมีนาคม 2568 เพียงเดือนเดียว ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 34% และยอดส่งออกก็เติบโตถึง 37% เช่นกัน

คุณบี โกวินดาราจัน ราจัน กรรมการผู้จัดการของ Eicher Motors และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ โรยัล เอ็นฟีลด์ กล่าวว่า ปีนี้ถือเป็นปีที่พิเศษอย่างยิ่งสำหรับ โรยัล เอ็นฟีลด์ การก้าวข้ามสู่ยอดขาย 1 ล้านคันต่อปี ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดที่เคยทำได้ เป็นหลักฐานชัดเจนถึงความก้าวหน้าของเรา จากอดีตที่ยอดขาย 50,000 คันต่อปียังถือเป็นความสำเร็จใหญ่ มาจนถึงปัจจุบันที่เราสามารถสร้างมาตรฐานระดับโลกในกลุ่มมอเตอร์ไซค์ขนาดกลาง การตอบรับที่ล้นหลามจากรุ่น Bullet Battalion Black และ Classic 350 รุ่นใหม่ รวมถึงความสามารถในการตอบสนองต่อเสียงสะท้อนของผู้ขับขี่อย่างรวดเร็ว ด้วยการออกแบบรุ่นใหม่ ๆ ทำให้ปีนี้เป็นปีที่ดีที่สุดของเรา

โดยในระดับสากล เรากำลังขยายตลาดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ด้วยการเปิดโรงงานประกอบในประเทศไทย และการเข้าสู่ตลาดบังกลาเทศ ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับการเติบโตระดับโลกของเรา รถรุ่นใหม่ 4 รุ่นที่เปิดตัวในปีนี้ และการก้าวเข้าสู่โลกแห่งยานยนต์ไฟฟ้าครั้งแรกของเรากับรุ่น Flying Flea ได้แสดงให้เห็นถึงความกล้าที่จะท้าทายขีดจำกัด โรยัล เอ็นฟีลด์ ยังได้รับการจัดอันดับสูงสุดด้านคุณภาพเริ่มต้นในผลการศึกษาของ J.D. Power India Two-Wheeler Initial Quality Study ปี 2025 ซึ่งตอกย้ำถึงคุณภาพงานฝีมือระดับโลกของเรา และในขณะที่เราก้าวเข้าสู่ปีที่ 125 ของแบรนด์ เส้นทางข้างหน้ายังเต็มไปด้วยโอกาสใหม่ๆ และเราตื่นเต้นมากที่จะได้ร่วมสร้างอนาคตของการขับขี่มอเตอร์ไซค์ต่อไป ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โรยัล เอ็นฟีลด์ มียอดขายเติบโตขึ้น 13% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันแบรนด์เป็นหนึ่งในผู้นำของกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางในตลาดสำคัญต่างๆอย่างเช่น ประเทศไทย ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย และนิวซีแลนด์

คุณอนุจ ดัว หัวหน้าฝ่ายธุรกิจภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าวว่า “ที่ โรยัล เอ็นฟีลด์ การสร้างรถจักรยานยนต์ระดับโลก การสร้างชุมชนผู้ขับขี่ระดับนานาชาติ และการทำงานร่วมกับพันธมิตรตัวแทนจำหน่ายที่มีความกระตือรือร้น ถือเป็นหัวใจสำคัญของทุกสิ่งที่เราทำ เราดำเนินธุรกิจด้วยความมุ่งมั่นในการตอบโจทย์ความต้องการของผู้ขับขี่อย่างแท้จริง และทำให้รถมอเตอร์ไซค์ของเราเป็นเพื่อนร่วมทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักขี่ทุกคน เรารู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เห็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดทั่วโลก และเติบโตถึง 13% ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สิ่งนี้สะท้อนถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องและกลยุทธ์การเติบโตในตลาดสำคัญของเรา เราไม่เคยต้องการแค่เป็นผู้นำ แต่เราต้องการเติบโตไปพร้อมกับกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางในระดับโลก และความสำเร็จอันยิ่งใหญ่นี้คือผลลัพธ์ของความมุ่งมั่นที่ไม่หยุดยั้ง และเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของอีกหนึ่งปีที่ยอดเยี่ยม”

ไฮไลท์สำคัญในปีที่ผ่านมาของโรยัล เอ็นฟีลด์

โรยัล เอ็นฟีลด์ เปิดโรงงานประกอบแบบ CKD แห่งใหม่ในประเทศไทย 
โรงงานประกอบแบบ CKD (Completely Knocked Down) แห่งแรกนอกประเทศอินเดียที่เป็นกรรมสิทธิ์เต็มรูปแบบ ณ จังหวัดสมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร โรงงานแห่งใหม่นี้มีพื้นที่รวมกว่า 57,000 ตารางฟุต และมีกำลังการผลิตปีละ 30,000 คัน สะท้อนถึงพันธกิจระยะยาวของแบรนด์ที่มีต่อประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยนับเป็นโรงงาน CKD แห่งที่ 6 ของโรยัล เอ็นฟีลด์ทั่วโลก ต่อจากโรงงานในอาร์เจนตินา โคลอมเบีย บราซิล บังกลาเทศ และเนปาล

โรยัล เอ็นฟีลด์ เดินหน้าเปิดสายการผลิตในบังกลาเทศ 
โรยัล เอ็นฟีลด์เริ่มดำเนินงานสายการผลิต (Category 2) และเปิดโชว์รูมแฟลกชิปรูปแบบใหม่ในบังกลาเทศ โดยมุ่งเน้นการผลิตและประกอบรถรุ่น Hunter 350, Meteor 350, Classic 350 และ Bullet 350 ภายในประเทศ พร้อมกันนี้ ยังประกาศแผนการขยายธุรกิจด้วยการเปิดโรงงานประกอบแบบ CKD แห่งใหม่ในประเทศบราซิลภายในเดือนมกราคม 2568 เพื่อตอบรับการเติบโตในตลาดยานยนต์ระดับโลก

โรยัล เอ็นฟีลด์ เปิดตัวแบรนด์รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Flying Flea 
โรยัล เอ็นฟีลด์เปิดตัว Flying Flea แบรนด์รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะที่งาน EICMA 2024 และในประเทศอินเดีย โดยได้แรงบันดาลใจจากรุ่น Flying Flea ยุค 1940s นำเสนอแนวคิด City+ Mobility ผสานดีไซน์เรโทร-ฟิวเจอริสติกเข้ากับเทคโนโลยี EV ล้ำสมัย รุ่นที่เปิดตัว ได้แก่ FF-C6 และ FF-S6 ซึ่งมีสไตล์สแครมเบลอร์ เตรียมวางจำหน่ายภายในปี 2569 เพื่อเปิดประสบการณ์การเดินทางในยุคใหม่

โรยัล เอ็นฟีลด์ เปิดศักราชใหม่ด้วย Guerrilla 450 โร้ดสเตอร์สไตล์โมเดิร์นระดับพรีเมียม 
โรยัล เอ็นฟีลด์เปิดตัว Guerrilla 450 โร้ดสเตอร์สไตล์โมเดิร์นระดับพรีเมียม ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง Sherpa ขนาด 452 ซีซี ที่พัฒนาใหม่ เพื่อการขับขี่ที่เร้าใจ รุ่นนี้มีให้เลือก 3 เวอร์ชัน ได้แก่ Analogue, Dash และ Flash พร้อมสีสันสดใสถึง 5 เฉด ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้ขับขี่ยุคใหม่

โรยัล เอ็นฟีลด์ เปิดตัว Classic 350 รุ่นปี 2024 
โรยัล เอ็นฟีลด์เปิดตัว Classic 350 รุ่นใหม่ปี 2024 สานต่อตำนานความงามที่เข้าถึงได้อย่างแท้จริง ด้วย 5 รุ่น ได้แก่ Heritage, Heritage Premium, Signals, Dark และ Chrome ครอบคลุมสีสันที่โดดเด่นถึง 7 เฉด พร้อมทั้งเปิดตัวโปรแกรม Factory Custom ซึ่งเป็นโปรแกรมปรับแต่งเฉพาะบุคคลแห่งแรกของแบรนด์ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถสะท้อนตัวตนผ่านดีไซน์เฉพาะตัว

โรยัล เอ็นฟีลด์ เปิด Camp Kharu จุดแวะพักรักษ์โลกแห่งแรกในเลห์-มะนาลี โรยัล เอ็นฟีลด์เปิดตัว Camp Kharu จุดแวะพักรักษ์โลก (Green Pit Stop) แห่งแรกบนเส้นทางหลวงเลห์-มะนาลี เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวยั่งยืนและสร้างอาชีพให้ผู้หญิงท้องถิ่น แคมป์แห่งนี้ดำเนินงานโดยผู้หญิงท้องถิ่นที่ผ่านการอบรม 6 คน ภายในมีร้านอาหารท้องถิ่นลาดักห์ พื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ และสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะ ที่ออกแบบและสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมดินอัดแน่นซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

โรยัล เอ็นฟีลด์ไม่ใช่แค่แบรนด์ แต่คือขบวนการเคลื่อนไหวของผู้รักการขับขี่ระดับโลก ที่มาพร้อมกับผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง ชุมชนที่เข้มแข็ง และแผนการเติบโตที่ชัดเจน พร้อมก้าวสู่ทิศทางการเติบโตในระดับต่อไปอย่างมั่นใจ

Royal Enfield แบรนด์รถจักรยานยนต์ที่มีสายการผลิตต่อเนื่องยาวนานที่สุดในโลก ได้สร้างสรรค์รถจักรยานยนต์ที่สง่างามมีเอกลักษณ์มาตั้งแต่ปี 1901 จากต้นกำเนิดในประเทศอังกฤษ ได้ส่งต่อศาสตร์แห่งการสร้างสรรค์อันล้ำค่ามาสู่โรงงานผลิตในเมือง Madras เมื่อปี 1955 นับเป็นฐานการผลิตสำคัญที่ Royal Enfield สร้างการเติบโตให้กับอุตสาหกรรมรถสองล้อขนาดกลางในประเทศอินเดีย สเน่ห์และความน่าสนใจของ Royal Enfield คือความมีเอกลักษณ์ ไม่ซับซ้อน เข้าถึงได้ พร้อมมอบประสบการณ์ที่สนุกสนานในการขับขี่ นับเป็นยานพาหนะที่เหมาะในการสำรวจเปิดโลก และแสดงออกถึงบุคลิกที่มีเอกลักษณ์ของผู้ขับ ซึ่งเป็นแนวทางที่แบรนด์เรียกว่า Pure Motorcycling

กลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมของ Royal Enfield ได้แก่ รุ่นใหม่อย่าง Guerrilla 450  Hunter 350, Classic 350, Meteor 350, New Super Meteor 650, Interceptor 650, Continental GT 650 รวมถึงมอเตอร์ไซค์แนวผจญภัย The All-New Himalayan, Scram 411 ADV Crossover และ Bullet 350 ซึ่งกลุ่มนักขับขี่ผู้หลงใหลในเอกลักษณ์ของเครื่องยนต์และการตกแต่ง สามารถร่วมกิจกรรมต่างๆ มากมายได้ตลอดทั้งปี ที่มีทั้งในประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นงาน Motoverse หรือที่รู้จักในนาม Rider Mania ซึ่งเป็นการรวมตัวประจำปีของผู้ที่ชื่นชอบ Royal Enfield หลากหลายพันคน จัดขึ้นที่รัฐโกอา ประเทศอินเดีย และยังมีงาน Himalayan Odyssey ซึ่งเป็นการเดินทางประจำปีบนภูมิประเทศที่ท้าทายที่สุด ผ่านภูเขาที่สูงที่สุด และสามารถสร้างความประทับใจได้มากที่สุดเช่นกัน

Royal Enfield คือหนึ่งในกลุ่มธุรกิจของ Eicher Motors Limited ดำเนินธุรกิจผ่านตัวแทนจำหน่ายกว่า 2,000 แห่ง ทั่วเมืองใหญ่ในอินเดีย รวมถึงมีการส่งออกไปสู่ 850 สโตร์ในอีกกว่า 60 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ Royal Enfield ยังมีศูนย์ดูแลเชิงเทคนิคระดับโลกสองแห่งในเมือง Bruntingthorpe สหราชอาณาจักร และในเมือง Chennai ประเทศอินเดีย โดยโรงงานผลิตที่ทันสมัยทั้งสองแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ Oragadam และ Vallam Vadagal ใกล้กับเมือง Chennai ประเทศอินเดีย นอกจากนี้ Royal Enfield ยังมีโรงงานประกอบ CKD อันทันสมัย 5 แห่งทั่วโลก ได้แก่ เนปาล บราซิล ประเทศไทย อาร์เจนตินา และโคลัมเบีย

#โรยัลเอ็นฟีลด์ #จักรยานยนต์ #ยอดขาย #ข่าววันนี้ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์