หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ขายข่าวขายความจริงให้ประชาชนคนไทยได้อ่านมาอย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประเทศไทยฉบับนี้ ประจำวันพุธที่ 9 เม.ย.68 ทรัมป์ขึ้นภาษีสินค้านำเข้า ไทยเราจะเปิดคาสิโน ...*...

แล้วโลกทั้งโลกใบนี้ ก็ถูก นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปั่นป่วนลวนกันไปหมด ด้วย มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าสหรัฐฯ จาก 185 ประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯ ด้วยหลักคิดง่ายๆ แบบไร้เหตุผลรองรับ ประเทศไหนได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯมาก ก็ เก็บภาษีมาก เช่น ประเทศจีนเกินดุลการค้าอเมริกามาก ก็โดนเก็บภาษีมากถึง 74  % ประเทศไทยเรา อยู่ในอันดับที่ 11 ที่ได้เปรียบดุลการค้าอเมริกา โดนเรียกเก็บเพิ่มอีก 36  % โดยทุกประเทศ มีผลบังคับใช้กันวันนี้ ...*...

ประธานาธิบดีเวียดนาม เป็นเสือปืนไว เสนอเงื่อนไขไม่เก็บสินค้าสหรัฐฯนำเข้าเวียดนาม หรือ ศูนย์เปอร์เซ็นต์ แล้วเป็นยังไง โดนัลด์ ทรัมป์ พอใจซะที่ไหน กล่าวหาว่า ยังมีสินค้าอีกหลายตัวที่ยังโกงภาษี เป็นสินค้าจีนที่ผลิตในเวียดนาม บรรทัดนี้ บารอน เห็นด้วยกับ นายศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ไทยไม่เร่งรีบลดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ และ ไทยยังไม่มีข้อเสนอมหัศจรรย์ใดๆไปต่อรอง ที่ เหมือนกับเอาของฟรีไปให้สหรัฐฯ ตอนนี้ฝุ่นยังตลบอยู่ รอให้ฝุ่นจาง อาจจะเห็นหนทางแก้ไขได้ชัดเจนขึ้น ...*...

อันที่จริง การตั้งกำแพงภาษีแบบเหวี่ยงแหไป 185 ประเทศ ทำให้ สินค้าของทุกประเทศนำเข้าสหรัฐฯราคาแพง แล้ว จะส่งผลกระทบการแข่งขันการค้าได้อย่างไร เพราะ สินค้าราคาแพงเหมือนกันหมด ที่ ได้รับผลกระทบแท้จริง คือ คนอเมริกันต่างหาก ที่ ต้องซื้อสินค้าราคาแพง จาก การขึ้นภาษีของประธานาธิบดีอเมริกา ที่พวกอเมริกันชนต่างหากเลือกเข้ามาเอง ...*...

ที่หวังว่า เป็นการบีบให้มีการลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้น เป็นเรื่องที่ ต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 4 – 5 ปี ที่ อเมริกันชนจะได้ผลกระทบทันที คือ สินค้าราคาแพง เป็นมุมเบอแรง ค่าครองชีพคนอเมริกันจะสูง จนเป็นเหตุ ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯตกต่ำ โดยเฉพาะ จากอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น ...*...

ชะเอย อเมริกันชนคงเห็นอนาคตของตัวเอง ประสา บารอน จึงไม่แปลกใจครับ ที่อเมริกันชนทั้ง 50 รัฐทั่วประเทศ ต่างพร้อมใจกันออกจากบ้าน ชุมนุมประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ 6 เดือนที่ผ่านมาพวกเขาเลือกเข้ามาเอง บริหารประเทศแบบไร้เหตุไร้ผล สุดท้าย 185 ประเทศ จะกลายเป็นศัตรู รุมกินโต๊ะอเมริกา ...*...

เดือดร้อนก่อนใคร ก้อ อีลอน มัสก์ นักธุรกิจมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก ครอบครัวถูกคุกคาม ไปไหนมาไหน ต้องมีบอร์ดี้การ์ดคุ้มครอง 24 ชั่วโมง หน่ำซ้ำ ธุรกิจขายรถไฟฟ้าเทสล่า เจอปัญหาสารพัด สำนักงานขายรถหลายแห่งถูกป้ายแขวนโจมตี หลายแห่ง ถูกสาดสี รุนแรงสุด ถึงขั้นเผาดีลเลอร์ ส่งผลกระทบไปถึง หุ้นเทสล่า ในตลาดหุ้น ประชาชนเทขายด้วยความโกรธ ส่งผลถึง นักเล่นหุ้นก็รีบชิงขายหนีขาดทุน ถึงขนาด พวกที่ยังถือหุ้นเทสล่าอยู่ เชื่อว่า อีลอน มัสก์ เป็น อัลสไตน์แห่งยุคนี้ ไปขอร้องให้ วางมือทางการเมือง ...*...

ได้ผลครับ อีลอน มัสก์ ประกาศ ลาออกจากทุกตำแหน่งแล้ว โดย ประธานาธิบดีทรัมป์ รับใบลาออกแล้ว แต่ขอให้อยู่จนถึงเดือนกรกฎาคม โดย จะยกเลิกตำแหน่งการเมืองของอีลอน มัสก์ ทั้งหมด เพราะไม่มีกฎหมายรองรับ ...*...

ที่มา:บารอน (9/4/68)