เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 เม.ย. 68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และร่าง พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมีความสำคัญทั้งสองฉบับ จะเป็นมาตรการที่สำคัญในการปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หากมีการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาแล้วจะมีผลบังคับใช้ทันที คาดว่าจะมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเร็ววันนี้ และตนอยากให้มีการประกาศก่อนสงกรานต์ อย่างไรก็ตาม ร่างที่ ครม.เห็นชอบมีการแก้ไขจากร่างเดิมในหลายประเด็น แต่ไม่ทิ้งหลักการที่สำคัญ เช่น เรื่องของการมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบของสถาบันการเงิน ของโอเปอเรเตอร์ แพลตฟอร์ม หรือเรื่องของการคืนเงินผู้เสียหาย สามารถทำได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งจะเป็นอำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) รวมถึงมีเรื่องการเพิ่มโทษผู้กระทำความผิดที่เอาข้อมูลส่วนบุคคลไปขาย ส่วนร่าง พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่...) ซึ่งกำหนดให้ผู้ประกอบการสินทรัพย์ดิจิทัลต่างประเทศแต่มาทำธุรกรรมในประเทศไทยต้องมีมาตรการกำกับดูแล จากเดิมที่ไม่มีเรื่องนี้ ต่อไปนี้เงินที่เกิดจากการกระทำความผิดที่ไหลเข้ามาในสินทรัพย์ดิจิทัลจะต้องมีการตรวจสอบ
เมื่อถามถึงกรณีที่ยังมีเหตุการณ์เยาวชนถูกหลอกให้โอนเงินเมื่อวันที่ 8 เม.ย. ธนาคารสามารถอายัดเงินได้เลยหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ถ้ากฎหมายประกาศใช้แล้ว ธนาคารสามารถอายัดได้เลย เพราะมีการเขียนกำกับไว้เลยว่า หากมีบัญชีที่ต้องสงสัยสามารถอายัดธุรกรรมทางการเงินได้เลย