เมื่อวันที่ 9 เม.ย.68 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมโพสต์เฟซบุ๊ก "Phumtham Wechayachai" หัวข้อ "ทหารเกณฑ์สมัครใจ คือ โอกาสของชีวิต" มีเนื้อหาดังนี้

เมื่อวานนี้ (7 เม.ย.) ผมมีโอกาสลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ประจำปี 2568 ที่จังหวัดอุดรธานี
และในวันนี้ (8 เม.ย) ยังได้ไปตรวจเยี่ยมการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ กรมการสื่อสารทหาร กรุงเทพฯ
ซึ่งเป็นวันแรกในการคัดเลือกฯ ของเขตดอนเมือง
จากการตรวจเยี่ยมผมได้เห็นพลังของคนหนุ่มจำนวนไม่น้อย ที่มาด้วยความสมัครใจ
ทำให้ผมมั่นใจว่า นโยบาย “เปลี่ยนผ่านระบบการเกณฑ์ทหารแบบบังคับ ไปสู่ระบบสมัครใจ” กำลังเดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรม
ปีนี้ จังหวัดอุดรธานี มีผู้สมัครใจเข้ารับราชการทหารแล้วกว่า 300 ราย จากยอดที่ต้องการ 946 นาย ถือเป็นสัญญาณที่ดีว่า เมื่อเราเปลี่ยนมุมคิด ปรับมุมมอง
และปรับระบบให้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่มากขึ้น
ความสมัครใจก็จะเกิดขึ้นได้จริง
อาทิเช่น…
ให้ผู้สมัครสามารถเลือกเหล่าทัพและพื้นที่ประจำการให้ใกล้ภูมิลำเนาของตนเอง
มีการจัดอบรมพัฒนาทักษะความรู้ร่วมกับสถาบันการศึกษาชั้นนำ เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อเตรียมทักษะใหม่ที่สอดคล้องกับโลกปัจจุบันให้กับทหารเกณฑ์
มีแต้มต่อในการสอบเข้าโรงเรียนนายสิบ เช่น เมื่อปลดประจำการแล้วต้องการสมัครเข้ารับราชการทหาร ก็สามารถสมัครเข้าเรียนต่อในร.ร.นายสิบทหาร โดยได้คะแนนพิเศษเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าร.ร.ทหารได้มากขึ้น
ได้รับโอกาสในการศึกษานอกระบบอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการอบรมเพิ่มเติมทักษะวิชาชีพที่สามารถนำไปพัฒนาต่อเป็นอาชีพได้เมื่อปลดประจำการ
กระทรวงกลาโหมมีความร่วมมือกับกระทรวงแรงงานในการจัดหาสถานประกอบการที่ดี เพื่อรองรับการทำงานหลังปลดประจำการ
สิ่งต่างๆที่ดำเนินการทั้งหมดนี้ไม่ใช่แค่ "ลดแรงบังคับ" แต่คือ "เพิ่มคุณค่า" ให้กับการเป็นทหารเกณฑ์
เพราะในโลกยุคใหม่ ความมั่นคงของชาติ ไม่ได้หมายถึงแค่การสู้รบแต่หมายถึงการรับมือกับ
ภัยธรรมชาติ ภัยไซเบอร์
ภัยทางด้านสาธารณสุข ที่ต้องการ “คนที่พร้อมทำงานเพื่อส่วนรวม”
แม้ว่าเรายังไม่สามารถยกเลิกการเกณฑ์ทหารได้ทันที แต่เราสามารถปรับมุมมอง เพิ่มคุณค่าใหม่ให้กับทหารเกณฑ์ เพิ่มบทบาทการทำงานเพื่อส่วนรวม
"ทำให้การเป็นทหารเกณฑ์ คือ การสร้างโอกาสของชีวิต ไม่ใช่การเสียโอกาส"
เพราะวันนี้ประเทศยังต้องมีกำลังพลที่เพียงพอเพื่อรองรับภารกิจที่หลากหลาย
โดยเฉพาะในสถานการณ์โลกปัจจุบัน ซึ่งมีความผันผวนและเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดฝันขึ้นได้
ตลอดเวลา
เราจึงยังต้องเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่างๆให้ทันท่วงที
ผมเชื่อว่า ถ้าเราทำให้การเข้ารับราชการทหารเป็นเส้นทางที่สร้างคุณค่า สร้างอนาคต และสร้างความภาคภูมิใจได้จริง คนรุ่นใหม่ก็พร้อมจะสมัครใจเข้ามามีส่วนร่วมอย่างเต็มใจ
ผมจะเดินหน้านโยบายนี้ต่อไป
ด้วยความมุ่งมั่นและจริงใจครับ