กลุ่ม สว.สำรอง สู้ไม่ถอย! งัดไพ่ตาย ล้มขบวนการฮั้ว สว. พาพยานปากสำคัญอดีตผู้ร่วมขบวนการ ให้ปากคำตำรวจ ปปป. ยืนยันหลักฐานโพยฮั้ว มีจริง โต้ “แสวง” เลขา กกต. ให้ข้อมูลเท็จ ยันไม่เคยให้ปากคำคณะไต่สวนตามที่กล่าวอ้าง
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 8 เม.ย.68 นายอัครวัฒน์ พงศ์ธนาชลิตกุล พร้อมด้วย นายธนวัฒน์ ศรีสุข ตัวแทนกลุ่มคณะ สว.สำรอง พาพยานบุคคลปากสำคัญมาเข้าให้ปากคำกับ พ.ต.ท.ธีรภพ ล้วนเส้ง รอง ผกก.(สอบสวน) กก.2 บก.ปปป. ในคดีที่เคยแจ้งความเอาผิด นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จากกรณีปล่อยปละละเลยไม่ตรวจสอบการเลือกตั้ง สว. ครั้งที่ผ่านมา
นายอัครวัฒน์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยมาแจ้งดำเนินคดีกับ นายแสวง ไว้แล้วเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา จากกรณีปล่อยปละละเลยให้นำโพยเข้าไปในคูหาเลือกตั้ง สว. ซ้ำยังอ้างว่าไม่ผิด แต่เนื่องจากคดีดังกล่าวมีพยานหลักฐานและพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องพามาร้องเพิ่มเติม วันนี้ตนจึงพาผู้เสียหายรายใหม่มาแจ้งความเอาผิด นายแสวง เพิ่มเติมอีก 4 คน เพื่อให้หลักฐานมีความแน่นหนามากขึ้น
“โพยดังกล่าว ถูกทำขึ้นโดยขบวนการ เป็นโพยใบสั่ง หรือ โพยฮั้ว ไม่ใช่เพื่อความจำ พยานบุคคลปากสำคัญที่เราพามาในวันนี้ เคยอยู่ในขบวนการ และ รู้เรื่องราวเป็นอย่างดีว่าจะมีการนำโพยเข้ามาในคูหาวันเลือกตั้ง” นายอัครวัฒน์ ระบุ
นายอัครวัฒน์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ทาง กกต. เคยทำหนังสือชี้แจงว่า เคยเรียกพยานบุคคลปากสำคัญรายนี้ไปให้ปากคำกับคณะไต่สวนข้อเท็จจริงแล้ว แต่ในความเป็นจริงพยานบุคคลปากสำคัญคนดังกล่าวยังไม่เคยเข้าให้ปากคำกับคณะไต่สวนของ กกต. แต่อย่างใด ดังนั้นคำชี้แจงของทาง กกต.ที่ออกมาจึงเป็นเท็จ ไม่เป็นความจริง ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้เองทางตัวพยานปากสำคัญคนดังกล่าว ได้นำเรื่องเข้าลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานไว้ที่ สภ.บางแก้ว เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา นอกจากนี้ตนยังมาทราบภายหลังอีกว่าคณะกรรมไต่สวนชุดดังกล่าวนั้นก็เป็นคนที่ นายแสวง ตั้งขึ้นมา จึงมองว่าไม่เป็นโปร่งใส
นายอัครวัฒน์ กล่าวอีกด้วยว่า สำหรับคดีฮั้วเลือกตั้ง สว. เป็นคดีที่คนไทยให้ความสำคัญ เพราะการกระทำของขบวนการนี้ถือเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตย ทำลายบ้านเมือง และเป็นต้นตอของการทุจริตคอรับชั่น เราจึงต้องออกมาเคลื่อนไหวเพื่อให้สังคมได้รับรู้ เพราะก่อนหน้านี้เคยร้องไป กกต. แต่ผ่านมา 10 เดือน กลับไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ตอนนี้จึงต้องฝากความหวังไว้ที่ ดีเอสไอ และ ตำรวจ ปปป. ที่กำลังดำเนินการอยู่
“หากไม่เอาข้อเท็จจริงออกมาเปิดเผย ปัญหาก็จะไม่ได้รับการแก้ไข ส่วนตัวตนเชื่อว่า การเลือกตั้งจนได้มาซึ่ง สว.สีน้ำเงิน ครั้ง หากไม่มีข้าราชการประพฤติชั่วให้ความร่วมมือ ขบวนการนี้ย่อมเกิดขึ้นไม่ได้แน่นอน ดังนั้นจึงอยากให้หน่วยงานต่างๆ สื่อมวลชน ช่วยกันกดดัน เพื่อให้เป็นคดีตัวอย่าง” นายอัครวัฒน์ กล่าว