ออกมาโชว์แบบขู่กันกลายๆ

สำหรับ ทางการอิหร่านที่ออกมากล่าวถึงบังเกอร์ลับใต้ดินแห่งใหม่ ซึ่งระบุว่า เป็น “ฐานยิงขีปนาวุธที่อยู่ใต้ดิน” แห่งใหม่ แต่ไม่มีการเปิดเผยสถานที่แน่ชัด ด้วยเหตุผลทางยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงทางการทหาร

โดยเจ้าหน้าที่ของทางการอิหร่าน ที่เป็นผู้กล่าวถึงนั้น ก็กล่าวด้วยความภาคภูมิใจ ถึงความที่ประเทศของเขามีฐานยิงขีปนาวุธใต้ดินในลักษณะเช่นนี้อยู่เป็นจำนวนมากว่า

หากให้มีการโชว์บังเกอร์ลับใต้ดิน ซึ่งใช้เป็นฐานยิงขีปนาวุธใต้ดินของอิหร่าน แบบสัปดาห์ละครั้ง โดยเริ่มนับจากวันนี้แล้วหล่ะก็ ต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 2 ปีเลยที่เดียว กว่าจะโชว์ฐานยิงขีปนาวุธใต้ดินของอิหร่านได้หมด ทุกหนทุกแห่ง

พร้อมกันนี้ ทางการอิหร่าน เรียก “ฐานยิงขีปนาวุธใต้ดิน” ที่มีเป็นจำนวนมากเหล่านี้ว่า “เมืองขีปนาวุธ (Missile Cities)”

พื้นบริเวณหน้าประตูทางเข้าเมืองขีปนาวุธ ทำเป็นรูปธงชาติสหรัฐฯ และธงชาติอิสราเอล ซึ่งเป็นสองชาติคู่ปรปักษ์สำคัญ ให้เจ้าหน้าที่ได้เดินเหยียบย่ำเข้าไป (Photo : AFP)

ไม่ผิดอะไรกับการบ่งบอกว่า อิหร่านมีฐานยิงขีปนาวุธใต้ดินจำนวนมากมหาศาลเพียงใด แถมมิหนำซ้ำ ยังเสมือนหนึ่งว่า เป็นการแจ้งเตือนแบบ “ฝากบอก” ออกไปยังบรรดาประเทศที่เป็นปฏิปักษ์ต่ออิหร่าน อันหมายถึง สหรัฐอเมริกา และอิสราเอล นั่นเองว่า อิหร่านมิใช่ประเทศที่บรรดาชาติศัตรูเหล่านี้ จะมาข่มเหงคุกคามได้ง่ายๆ แต่อาจจะถูกตอบโต้กลับด้วยฐานยิงขีปนาวุธใต้ดิน ซึ่งอิหร่านมีเป็นจำนวนมากมายมหาศาล

ส่งผลให้บรรดานักวิเคราะห์ พากันออกมาแสดงทรรศนะว่า เพราะเหตุใดอิหร่าน ถึงได้ออกมาโชว์พาว แบบไม่ผิดอะไรกับการข่มขวัญต่อบรรดาชาติศัตรู ด้วยเรื่องฐานยิงขีปนาวุธใต้ดิน อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เฉกเช่น ณ ชั่วโมงนี้

ส่วนหนึ่งของขีปนาวุธพิสัยทำการต่างๆ ที่ประจำการอยู่ในเมืองขีปนาวุธของอิหร่าน (Photo : AFP)

เริ่มจากการที่สหรัฐฯ ภายใต้การนำของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งการให้กองทัพ ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเข้าใส่เป้าหมายเป็นกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน ถึง 2 ระลอก เมื่อช่วงกลางเดือนที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวมแล้วไม่น้อย 84 ราย และบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก จนถือเป็นปฏิบัติการทางทหารครั้งแรกของประธานาธิบดีทรัมป์ นับตั้งแต่เข้าสู่ทำเนียบขาวในฐานะผู้นำสหรัฐฯ แถมมิหนำซ้ำ ปฏิบัติการโจมตีทางทหารครั้งนี้ ก็นับว่ามีความรุนแรงเป็นอย่างมากอีกต่างหาก เพราะทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บตามที่กล่าวแล้วข้างต้น

ทั้งนี้ เมื่อกล่าวถึงกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนแล้ว ก็เป็นกลุ่มมุสลิมนิกายชีอะห์ ที่อิหร่านให้การสนับสนุนเป็นประการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเงินทุน อาวุธ และการฝึกสู้รบทางการทหาร ถึงขนาดที่สามารถเขย่าความมั่นคงของรัฐบาลกลางของประเทศเยเมน จนต้องสูญเสียอำนาจการบริหารปกครองให้แก่กลุ่มกบฏฮูตีแบบหมดสภาพกันไปเลยก็ว่าได้

เมื่ออกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน ถูกสหรัฐฯ ถล่ม จนตายเจ็บเป็นจำนวนมากเช่นนี้ ก็ย่อมสะเทือนมาถึงลูกพี่ใหญ่ของกลุ่มกบฏฮูตี นั่นคือ อิหร่าน นั่นเอง

นอกจากนี้ ภายหลังจากสหรัฐฯ ได้มีปฏิบัติการโจมตีทาอากาศเข้าใส่เป้าหมายเป็นกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน จนละเลงเลือดได้ไม่กี่วัน ทางประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ก็ได้ออกมาข่มขู่ด้วยท่าทีที่แข็งกร้าวว่า จะมีปฏิบัติการทิ้งระเบิด หรือทิ้งบอมบ์ โจมตีอิหร่าน อย่างชนิดที่ไม่เคยเห็นกันมาก่อน แล้วหลังจากนั้น ก็จะใช้มาตรการภาษีเล่นงานอิหร่านตามมาอีกระลอก หากอิหร่านปฏิเสธที่จะเข้าร่วมเจรจากับสหรัฐฯ แบบโดยตรง เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ไม่ใช่แบบการคุยกันโดยอ้อม เหมือนเฉกเช่นที่เป็นมา

เมื่อถูกข่มขู่กันเช่นนี้ ก็ส่งผลให้อิหร่าน มิอาจนิ่งเฉยต่อไปได้

บรรดาเจ้าหน้าที่กำลังพล และรถบรรทุกที่พร้อมลำเลียงขีปนาวุธภายในเมืองขีปนาวุธ เพื่อใช้ในปฏิบัติการโจมตีต่างๆ (Photo : AFP)

ใช่แต่เท่านั้น ก็ยังมีรายงานข่าวด้วยว่า สหรัฐฯ ได้นำ “เครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ “บี-2” ซึ่งเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบล่องหน คือ ยากต่อการตรวจจับจากเรดาร์ของฝ่ายป้องกันอากาศยานล้ำน่านฟ้า ให้มาประจำการในฐานทัพของสหรัฐฯ ในหมู่เกาะชาร์กอส ย่านมหาสมุทรอินเดีย ใกล้กับอิหร่านและเยเมน เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งหมู่เกาะชาร์กอสดังกล่าว สหรัฐฯ ก็เช่าจากอังกฤษ โดยมีสัญญาเช่า 99 ปีด้วยกัน เพื่อใช้เป็นฐานทัพ โดยสัญญาเช่าจะครบกำหนดในปี 2036 (พ.ศ. 2579)

นัยว่า เพื่อมาข่มขู่อิหร่าน และแถมมิหนำซ้ำ เครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ “บี-2” ที่ว่า ก็มิใช่มาเพียงลำเดียว แต่ถูกส่งมาประจำการถึง 6 ลำด้วยกัน ซึ่งจำนวนดังกล่าว นับเป็น 1 ใน 3 ของเครื่องบินทิ้งระเบิดรุ่นนี้กันเลยทีเดียว เพื่อหวังมาข่มขวัญอิหร่านกันโดยแท้

นอกจากสหรัฐฯ ที่ส่งสัญญาณท่าทีถึงการคุกคามแล้ว ปรากฏว่า ในสงครามตะวันออก ที่อิสราเอล เปิดฉากถล่มต่อกลุ่มฮามาส ในฉนวนกาซาและเขตเวสต์แบงก์ รวมถึงตะลุมบอนกลับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ในเลบานอน ก็หวนกลับมาทวีความดุเดือดเลือดพล่านยิ่งขึ้น ซึ่งทั้งกลุ่มฮามาส และกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ก็ถือเป็นกลุ่มที่อิหร่านให้การสนับสนุนเป็นประการต่างๆ เช่นเดียวกับกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน

ทั้งนี้ การสู้รบดังกล่าว มีหลายครั้งด้วยกัน ที่ลุกลามมายังในดินแดนอิหร่านอีกด้วย ถึงขนาดมีการสังหารผู้นำและแกนนำของกลุ่มฮามาส ในกรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน ก็ยังเคยมีมาแล้ว รวมถึงเปิดฉากโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนติดอาวุธเข้าใส่กันระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านในช่วงที่ผ่านมา

ทำให้ทางการอิหร่าน ต้องออกมาโชว์เมืองขีปนาวุธ หรือฐานยิงขีปนาวุธใต้ดิน ให้ฝ่ายตรงข้ามได้เห็น ได้สะพรึงกันบ้าง

เหล่านายทหารระดับผู้บังคับบัญชา เดินตราจตราความเรียบร้อยภายในเมืองขีปนาวุธ (Photo : AFP)

โดยเมื่อกล่าวถึง “ฐานยิงขีปนาวุธใต้ดิน” หรือ “เมืองขีปนาวุธ” ตามการเรียกขานของอิหร่าน เริ่มมีการสร้างเมื่อไหร่ก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่ถ้านับจากเผยแพร่ผ่านทางวิดีทัศน์ เริ่มเผยแพร่เมื่อเดือนตุลาคม 2015 (พ.ศ. 2558) กล่าวกันว่า “เมืองขีปนาวุธ” นี้ มีอยู่ในทุกจังหวัดของอิหร่าน โดยอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของ “กองทัพพิทักษ์ปฏิวัติอิสลามทางอากาศ” ซึ่งก็คือ “กองทัพอากาศของอิหร่าน” นั่นเอง ซึ่งภายในเมืองขีปนาวุธแต่ละแห่ง นอกจากมีแท่นอุปกรณ์สำหรับการยิงขีปนาวุธแล้ว ก็ยังมีขีปนาวุธพิสัยทำการต่างๆ อยู่เป็นจำนวนมาก แบบเป็นคลังแสงเลยทีเดียว อย่างไรก็ดี ก็ไม่มีการเปิดเผยสถานที่ตั้งของฐานยิงขีปนาวุธใต้ดิน หรือเมืองขีปนาวุธเหล่านี้ว่า ตั้งอยู่ตำแหน่งแห่งหนใดของทุกจังหวัดที่ว่า โดยยังปิดเป็นความลับ เพื่อมิให้บรรดาชาติคู่ปรปักษ์เข้าถึงได้โดยง่าย

การฝึกซ้อมทดสอบการยิงขีปนาวุธจากฐานยิงขีปนาวุธใต้ดิน หรือเมืองขีปนาวุธ แห่งหนึ่งของอิหร่าน ซึ่งไม่มีการเปิดเผยถึงสถานที่  (Photo : AFP)