จากกรณีเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุแผ่นดินไหวโดยมีจุดศูนย์กลางที่ประเทศเมียนมา แรงสั่นสะเทือนถึงประเทศไทยและในพื้นที่กรุงเทพมหานครส่งผลทำให้อาคารก่อสร้าง สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) ทรุดตัวถล่มลงมาพบมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุและสูญหายติดอยู่ใต้ซากอาคารถล่มเป็นจำนวนมากตามที่ข่าวเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันที่ 7 เม.ย.68 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นำโดยพล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. มีคำสั่งให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติมจากคำสั่งแต่งตั้งเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา กรณีมีเหตุสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) ทรุดตัวถล่มซึ่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก มีความเสียหายที่เป็นทรัพย์สินมูลค่าสูง ประกอบกับเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนและประชาชน ดังนั้นเพื่อให้การสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวดเร็ว มีความต่อเนื่อง และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย อาศัยอำนาจ ตามความในมาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 และคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 418/2556 ลงวันที่ 1 กรกฎาคม 2556 เรื่อง การอำนวยความยุติธรรมในคดีอาญา การทำสำนวนการสอบสวน และมาตรการควบคุม ตรวจสอบเร่งรัดการสอบสวนคดีอาญา จึงแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนเพื่อรับผิดชอบทำการสืบสวนในคดีดังกล่าวดังนี้
พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ เป็นรองหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยให้เป็นพนักงานสืบสวนสอบสวนผู้รับผิดชอบ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ร่วมกันทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งปวงในคดีอาญาดังกล่าวข้างต้นให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว หากการสืบสวนสอบสวนพบว่ามีผู้อื่นร่วมกระทำความผิด หรือพบการกระทำความผิดอื่นที่เกี่ยวเนื่องกันในคดีให้มีอำนาจสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดนั้น ๆ ได้ด้วย ทั้งนี้ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง และข้อบังคับที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด โดยให้พนักงานสืบสวนสอบสวนพึงระมัดระวัง เรื่องอำนาจการสอบสวน ซึ่งจะต้องให้มีพนักงานสอบสวนผู้มีอำนาจสอบสวนร่วมทำการสอบสวนด้วยทุกกรณี
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ทางตำรวจได้มีการประชุมหารือกับผอ.เหตุการณ์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ที่รับผิดชอบพื้นที่เกิดเหตุเพื่อขอเข้าเก็บหลักฐานในวันที่ 8 เมษายน เวลาตั้งแต่ 8.00-11.00 น. เป็นต้นไป