วันที่ 7 เม.ย. 2568 นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “กรณ์ จาติกวณิช - Korn Chatikavanij” ระบุว่า
" หุ้นทั่วโลกถูกถล่ม จะยิ่งทำให้ Trump ได้ใจ เขาต้องการบีบให้ทุกคนวิ่งไปขอเจรจา จีนอาจกล้าท้าทายเขา แต่เขาเชื่อว่าประเทศอื่นๆไม่แข็งแรงพอ
"ทุกคน" ในที่นี้หมายถึงเหล่านักธุรกิจอเมริกันเองด้วย ที่ต้องวิ่งเข้าขอ "deal" กับทรัมป์ในการเจรจาผ่อนผันเงื่อนไข tariff ที่ทำให้ธุรกิจลำบากเพราะต้องพึ่งวัตถุดิบและชิ้นส่วนจากต่างประเทศ
นึกภาพนักธุรกิจและผู้นำจากทั่วโลกต้องวิ่งหาทรัมป์ ยืนกุมรอเข้าพบ นี่แหละคือสิ่งที่ทรัมป์ต้องการ
ทีมทรัมป์มองว่าการขาดดุลการค้าคือผลของเงื่อนไขการค้าที่อเมริกาเสียเปรียบ ในความคิดเขา เขาต้องการ ‘fair trade’ ซึ่งหมายถึงการค้าที่อเมริกาไม่ขาดดุล
นอกจากนั้นเขามองว่าอเมริกามีอุตสาหกรรมการผลิตที่อ่อนแอและเล็กเกินไป ต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้ามากเกินไป ซึ่งสุดท้ายแล้วทำให้อเมริกาขาดความมั่นคง และทำให้อเมริกามีหนี้มากเกินไป ดังนั้นเขาต้องการเพิ่มสัดส่วนการผลิตในประเทศด้วยการกีดกันการซื้อของจากต่างประเทศ
สุดท้ายคือเขาเชื่อว่าอเมริกามีความยืดหยุดทางเศรษฐกิจมากกว่าประเทศอื่น ปรับตัวเพื่อพึ่งตัวเองได้มากกว่า ดังนั้นจะเอาตัวรอดและ "ชนะ" ในสงครามนี้
วันนี้ผมเชื่อว่าเขาไม่ได้สนใจเสียงคัดค้านด่าทอจากภายในประเทศเขาเอง และไม่แคร์แน่นอนกับเสียงวิจารณ์จากต่างประเทศ
อเมริกาอาจได้ส่วนแบ่งเค็กที่มากขึ้น แต่ขนาดของเค็กจะลดลง สรุปในระยะสั้นคนอเมริกันอาจได้เปรียบชาวโลก แต่ทุกคนจนลงหมด
ซึ่งทรัมป์มองว่านั่นคือราคาที่ต้องจ่ายเพื่อความ "มั่นคง"
ไทยเราทำได้คือต้องเร่งพัฒนาตัวเอง ทุกประเทศเขาต้องดิ้นรนมากขึ้น ถ้าเราไม่เก่ง ไม่ขยัน ยังอ่อนแอเพราะทุจริตคอร์รัปชั่น เราจะยิ่งอยู่ยาก"