"กทม." เดินหน้าแผนมาราธอน เร่งค้นหาผู้รอดชีวิต เหตุแผ่นดินไหว เชื่อมโพรงโซน B-C คาดยังมีผู้ติดค้าง

เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2568 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ โดยระบุว่า ขณะนี้ กทม. ได้ปรับแผนปฏิบัติงานจาก “การวิ่งระยะสั้น” เป็น “แผนมาราธอน” เพื่อเน้นความต่อเนื่องและความปลอดภัยในการค้นหาและกู้ชีพผู้ที่ยังติดค้างอยู่ภายในอาคารถล่ม

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ระบุว่า ทีมปฏิบัติการได้เร่งรื้อซากอาคารในโซน C ซึ่งเป็นพื้นที่คาดว่ามีผู้เสียชีวิตและผู้ติดค้างมากที่สุด โดยล่าสุดมีการนำเครื่องจักรกลหนักเข้าดำเนินการเปิดทางบริเวณด้านหน้าและด้านข้างอาคาร ซึ่งหนึ่งในจุดเข้าออกได้ถูกเจาะผ่านพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อเร่งให้การเข้าถึงโครงสร้างด้านในสะดวกยิ่งขึ้น

เมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย ซึ่งนำออกมาเรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้บรรยากาศการทำงานเต็มไปด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากพื้นที่บางส่วนยังไม่มั่นคง แต่ก็มีสัญญาณเชิงบวกเมื่อเครื่องจักรกลสามารถเข้าถึงพื้นที่ลึกได้มากขึ้น ทั้งนี้ มีการประเมินว่าโอกาสพบผู้รอดชีวิตอาจลดลง แต่ทีมกู้ภัยยังคงปฏิบัติภารกิจด้วยความหวัง

ขณะเดียวกัน มีความคืบหน้าในการเชื่อมโพรงระหว่างโซน B และ C ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่คนงานใช้เข้าออกอาคาร ทั้งในช่วงเช้า เที่ยง และเย็น โดยจุดนี้คาดว่าอาจเป็นเส้นทางหลบหนีของผู้ที่ติดอยู่ภายใน ล่าสุดร่างผู้เสียชีวิตที่พบเมื่อคืนก็อยู่ในบริเวณดังกล่าว

การปฏิบัติงานเน้นการใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย เช่น โปรแกรมวิเคราะห์ตำแหน่งผู้ติดค้าง เพื่อระบุได้ว่าแต่ละรายมาจากชั้นใด และสังกัดบริษัทใด ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทีมกู้ภัยนานาชาติ โดยเฉพาะหน่วยกู้ภัยจากแคนาดาที่เดินทางมาถึงไทยหลังไม่สามารถเข้าสู่เมียนมาร์ได้

ผู้ว่าฯ ยังกล่าวถึงภารกิจการตรวจสอบสาเหตุอาคารถล่มว่า เป็นหน้าที่ของกรมโยธาธิการและผังเมือง ร่วมกับคณะกรรมการที่นายกรัฐมนตรีสั่งการลงมา ส่วน กทม. รับหน้าที่ประสานและให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลและสนับสนุนภาคสนาม

ในส่วนของแผนการค้นหา ผู้ว่าฯ ชี้แจงว่า ยังมีทีมกู้ชีพและสุนัขดมกลิ่น (K-9) ประจำจุด พร้อมเข้าสำรวจหากพบโพรงใหญ่ โดยใช้แนวทางสลับการทำงานระหว่างเครื่องจักรและทีมกู้ภัย เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

สำหรับสถานการณ์ล่าสุด ณ เวลา 08.00 น. วันที่ 6 เมษายน 2568 พบผู้ประสบภัยรวม 103 ราย แบ่งเป็น เสียชีวิต 17 ราย (ชาย 8 ราย หญิง 7 ราย ไม่ทราบเพศ 2 ราย)รอดชีวิต 9 รายยังติดค้างภายใน 77 ราย

ทั้งนี้ การยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการจะต้องรอผลการพิสูจน์จากเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ เพื่อป้องกันการนับซ้ำ