ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคจังหวัดอ่างทอง นำโดยนายสุธี ประเสริฐศรี ประธานศูนย์ฯ ร่วมกับเทศบาลตำบลท่าช้าง โดยนายกเทศมนตรีตำบลท่าช้าง นายพุทธิธร  ฉัตรบริรักษ์ ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคตำบลทางพระ  นายวันชัย สมบุญ  ประธานศูนย์ฯ เข้าร่วมเวทีลงนามบันทึกความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อพัฒนากลไกและขับเคลื่อนงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพในระดับตำบล ณ ห้องประชาสโมสร 1 โรงแรมอวานี ขอนแก่น โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์
กิจกรรมในเวที กล่าวต้อนรับ ชี้แจงวัตถุประสงค์การประชุม

โดย นางสาวบุญยืน ศิริธรรม ประธานสภาต่อมานำเสนอเรื่อง “องค์กรของผู้บริโภค บทบาทของสภาผู้บริโภคในการทำงานการคุ้มครองผู้บริโภคกับองค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น” โดย นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภค ช่วงต่อมาได้มีการเล่าถึง “สถานการณ์ข้อมูลความปลอดภัย ด้านอาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพ และความร่วมมือระหว่างสภาผู้บริโภคกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องในการเฝ้าระวัง แหล่งผลิตอาหารที่ไม่ปลอดภัย” โดย ภก.ภาณุโชติ ทองยัง ประธานคณะอนุกรรมการด้านอาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพ สภาองค์กรของผู้บริโภค และช่วงต่อมาเป็นการถ่ายทอด “บทเรียนความสำเร็จในการผลักดันการทำงานคุ้มครองผู้บริโภคขององค์การบริหารส่วนตำบล ด่านช้าง” โดย นางสาวนันทนา นาคำ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลด่านช้าง และ “บทเรียนความสำเร็จในการผลักดันการทำงานด้านอาหารปลอดภัยขององค์การบริหาร ส่วนตำบลหนองกุงใหญ่ อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น” โดย นายนาท มนตรีชน นักทรัพยากรบุคคลชำนาญการ 

ขณะที่ไฮไลท์ของงานวันนี้นี้คือ   เวทีเสวนา “บทบาทการทำงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการทำงาน คุ้มครองผู้บริโภคตามระเบียบ มาตรการ หรือนโยบายของรัฐ” ผู้ร่วมเสวนา • องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 13 แห่ง ในพื้นที่ 10 จังหวัด  โดยในเวทีเสวนา  นายพุทธิธร ฉัตรบริรักษ์ นายกเทศมนตรีตำบลท่าช้าง ได้กล่าวว่า  งานคุ้มครองผู้บริโภคคืองานที่เทศบาลต้องดำเนินการอยู่แล้วเพราะเป็นงานที่พัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน    

ซึ่งนโยบายมีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว เมื่อได้มีโอกาสมาสร้างความร่วมมือกับสภาองค์กรของผู้บริโภคก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี  ทั้งนี้การดำเนินงานร่วมกันทั้งกับสภาองค์กรของผู้บริโภค ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคจังหวัดอ่างทองจะทำให้สามารถหนุนเสริมและสร้างความร่วมมือในการดูแลผู้บริโภคคือประชาชนในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น