วันที่ 5 เม.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าชาวบ้านหมู่ 2 บ้านไทรงาม ,หมู่ 10 บ้านนายาว และชาวบ้านหมู่ 14 บ้านนาอุดม ต.เสาเดียว อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ได้มารวมตัวกันที่สระน้ำชลประทานบ้านนายาว เพื่อประท้วงและเรียกร้องให้หน่วยงานมาแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน หลังจากก่อนหน้านี้กรมชลประทานได้มีโครงการขุดลอกสระน้ำชลประทานแห่งนี้ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา แต่ผู้รับเหมากลับทิ้งงานไม่ยอมมาทำต่อผู้นำพยายามทวงถามผู้รับเหมาแต่นิ่งเฉยไม่ยอมมาทำต่อ จึงมาร้องสื่อเพื่ออยากให้มีการแก้ไขเพราะสระน้ำดังกล่าวเป็นเส้นเลือดใหญ่ของชาวบ้านทั้ง 3 หมู่บ้าน
นายดิเรก นนทะนำ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 10 บ้านนายาว กล่าวว่าก่อนหน้านี้ชาวบ้านทั้ง 3 หมู่บ้านดีใจ หลังชลประทานบุรีรัมย์มีโครงการขุดลอกสระน้ำที่กำลังตื้นเขิน ให้กักเก็บน้ำได้มากขึ้น เพราะในแต่ละปีชาวบ้านต้องใช้น้ำกันอย่างประหยัด
ต่อมาได้มีบริษัทผู้รับเหมาเอาป้ายมาปักโครงการงานแก้มลหงหนองนายาว ปริมาณดินขุดไม่น้อยกว่า 94,000 ลูกบาศก์เมตร ผู้รับจ้างเป็น หจก.มิตรภาพสหยนต์ เริ่มนับอายุสัญญาวันที่ 17 ก.ค.68 ครบอายุสัญญา 13 พ.ย.67 ภายใต้งบประมาณ 2,020,060 บาท
บริษัทผู้รับเหมาได้เริ่มเข้ามาทำงานประมาณเดือนตุลาคม 2567 แต่ทำงานได้ประมาณเดือนเศษ บริษัทได้หยุดหายไป รถร่วมบรรทุกดินที่อยู่ในหมู่บ้านต่างไม่ได้รับเงินค่าจ้าง เพราะผู้รับเหมาหายไปพร้อมกับเครื่องมือ ผู้นำหมู่บ้านพยายามโทรหาผู้รับเหมาได้รับคำตอบว่าทำไม่ได้”ขาดทุน”และบอกว่าอาจจะมาทำงานอีกชาวบ้านก็ได้แต่ตั้งรอ เนื่องจากตั้งแต่ก่อนเริ่มงานผู้รับเหมาได้ปิดฝายกั้นน้ำทั้งหมดน้ำไม่สามารถลงมาในสระได้เพื่อเตรียมการขุดลอก ปีที่แล้วชาวบ้านก็ไม่มีน้ำใช้ แต่มาปีนี้กลับทิ้งงาน หากไม่มีหน่วยงานใดมาแก้ไขปัญหาปีนี้ชาวบ้านก็จะไม่มีน้ำใช้เหมือนเดิม
ด้านนายยุทธนา จงตั้งกลาง กำนันตำบลเสาเดียว อ.หนองหงส์ กล่าวว่าแหล่งน้ำตรงนี้มีชาวบ้าน 3 หมู่บ้าน 400 ครัวเรือน ถ้าผู้รับเหมาทิ้งงานแบบนี้จะทำให้ชาวบ้านทั้งหมดได้รับความเดือดร้อนอย่างแน่นอน จึงอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาแก้ไขปัญหาของชาวบ้านด้วย
ผู้สื่อข่าวสอบถามไปที่ชลประทานจังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับคำตอบจากวิศวกรผู้ควบคุมงานโครงการดังกล่าว ว่าโครงการนี้มีเนื้อที่กว่า 20 ไร่ราคาประเมินประมาณ 5 ล้านบาท ได้มีการประมูลตามระเบียบของทางราชการ แต่ผู้รับเหมารายนี้ยื่นซองประมูลเพียง 2 ล้านบาทเศษซึ่งมีความเป็นไปได้ยากที่จะมีกำไรจากการเหมางาน ทำให้ผู้รับเหมาต้องหาทางออกทางอื่น ดังเช่นชาวบ้านบอกว่ารถร่วมขนดินไม่ได้เงิน
ซึ่งตอนนี้งานทำไปแล้วประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือทางชลประทานได้หาแนวทางแก้ไขให้กับชาวบ้านแล้ว เบื้องต้นได้คุยกับผู้รับเหมาว่าให้มาสานต่องานโดยทางชลประทานจะหารถร่วมนอกมาเสริมเพื่อให้งานเสร็จทัน โดยชลประทานจะกันเงินให้กับรถร่วม แต่ผู้รับเหมาต้องรับสภาพว่าจะต้องขาดทุนดีกว่าจะถูกเวียนแจ้งหนังสือเป็นผู้ทิ้งงานของรัฐ มั่นใจงานขุดลอกเสร็จก่อนฤดูฝนนี้อย่างแน่นอน