ภูเก็ต หนุ่มพลเมืองดี บุกช่วยนทท.สาวถูกชายปรี่ทำร้ายย่านเมืองเก่า 

เมื่อช่วงบ่ายของวันที่  4 เมษายน 2568  สื่อออนไลน์ในจังหวัดภูเก็ต ได้แชร์ภาพจากกล้องหน้ารถของพลเมืองดี ซึ่งเผยให้เห็นภาพของนักท่องเที่ยวสาวชาวต่างชาติรายหนึ่ง ขณะยืนอยู่ริมถนนเทพกระษัตรี ใกล้กับแยกแถวน้ำย่านเมืองเก่าภูเก็ต ระหว่างนั้นปรากฎว่าได้มีชายไทยไม่ทราบชื่อเดินเข้ามาทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยวสาวคนดังกล่าว ด้วยการกระชากผมและใช้กำลังทุบตี ขณะที่นักท่องเที่ยวสาวคนดังกล่าวพยายามต่อสู้แต่ทนแรงของชายคนดังกล่าวไม่ไหวเสียหลักล้มลง และถูกกระทืบซ้ำ ขณะเดียวกันได้มีพลเมืองดีทั้งชายและหญิงที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปห้ามปรามและช่วยเหลือ ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมีชายที่สวมหมวกนิรภัย ปรี่เข้าไปผลักชายคนที่ก่อเหตุออก และเดินหนีไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

หลังจากคคลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันไปในวงกว้าง กระทั่งทาง พ.ต.อ.ชาตรี ชูแก้ว ผกก. สภ.เมืองภูเก็ต ทราบเรื่องได้ลงพื้นที่ ได้สั่งการให้ชุดสายตรวจลงพื้นที่ตรวจสอบและติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย  เพราะเกรงจะไปทำร้ายคนอื่นอีก กระทั่งสามารถรวบตัวได้ในที่สุด และนำตัวไปสอบปากคำที่ สภ.เมืองภูเก็ต เบื้องต้นให้การวกวนไปมา คล้ายคนสติไม่ดี โดยอ้างว่าเมาสุรา จำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ ส่วนนักท่องเที่ยวสาวได้ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยระบุว่า ไม่ติดใจเอาความ  แต่ในส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

พ.ต.อ.ชาตรี ชูแก้ว ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต เปิดเผยถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีเหตุชายสติไม่ดีทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยวตามที่ปรากฎในโซเชียลและสื่อออนไลน์ จึงได้แจ้งสายตรวจไปตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุและติดตามจนพบผู้ที่ก่อเหตุ เบื้องต้นเป็นชายไทย อายุ 40 ปี ท่าทางสติไม่ค่อยดี จึงได้นำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.เมืองภูเก็ต จากการสอบถามเบื้องต้นผู้ก่อเหตุอ้างว่าเมาสุรา ส่วนรายละเอียดอื่นๆ อยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป ส่วนนักท่องเที่ยวสาวต่างชาติที่ถูกทำร้ายได้เข้ามาให้ปากคำ แต่ไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใด แต่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทางด้านนายชินดนัย ลีลาเศรษฐกุล อายุ 34ปี  เป็นเจ้าหน้าที่ไฟแนนซ์ของบริษัทจำหน่ายรถจักรยานยนต์ ซึ่งพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์และเข้าช่วยเหลือนักท่องเที่ยว เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้จอดรถอยู่ฝั่งตรงข้ามและเห็นมีการทะเลาะต่อยตีกัน ครั้งแรกว่าเป็นคนเร่ร่อนผู้ชายต่อยตีกัน กระทั่งตอนหลังเห็นว่าเป็นผู้หญิงถูกทำร้ายและล้มลง จึงรีบวิ่งข้ามถนนมาและเอาตัวเข้าชนชายก่อเหตุจนกระเด็นออกไป พร้อมตะโกนถามว่า ทำอะไร เขาก็ไม่ตอบและเดินหนีไป ตนจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ  จากนั้นได้บอกกับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ถูกทำร้ายและพลเมืองดีที่ช่วยกันดูแลนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวอยู่ว่า แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้แล้ว ก่อนที่ตนจะขอตัวไปทำงาน ซึ่งก็รู้สึกภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ของพลเมืองดี