น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงปิดการประชุมผู้นำบิมสเทค ครั้งที่ 6 (The 6th BIMSTEC Summit)  ระบุว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ทำหน้าที่ประธานการประชุมผู้นำบิมสเทค ครั้งที่ 6 ซึ่งครั้งสุดท้ายที่ไทยเป็นประธานฯ คือการประชุมผู้นำบิมสเทค ครั้งที่ 1 ในปี 2547 ถือเป็นการนำบิมสเทคกลับมาสู่บ้าน และเป็นโอกาสต่อยอดจากรากฐานที่วางไว้ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา

โดยแนวคิดหลักของไทยในฐานะประธานฯ มุ่งให้ “บิมสเทคมีความมั่งคั่ง ยั่งยืน ฟื้นคืน และเปิดกว้าง” (Prosperous, Resilient and Open BIMSTEC) หรือ “PRO BIMSTEC” โดยบิมสเทคจะเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือและการดำเนินการร่วมกันในระดับภูมิภาค ซึ่งรวมถึงการเตรียมความพร้อม การบรรเทาและฟื้นฟูประเทศสมาชิกที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดตั้งกลไกให้มีความเข้มแข็งมากขึ้นโดยใช้ประสบการณ์จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวล่าสุด  

นายภูมิธรรม เวชยชัย  รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม  ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านโจมตีการผลักดันร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรเข้าสภาว่า เป็นเรื่องของสภาฯ ให้สภาว่ากันไป

ส่วนการที่ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่าดูเหมือนเร่งรัดเกินไป เพราะมีกลุ่มทุนรออยู่นั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า อย่าจินตนาการมาก จินตนาการแล้วเป็นพิษเป็นภัยกับคนอื่นก็อย่าจินตนาการมาก คิดว่าเป็นแนวคิดที่อาจจะมีความแตกต่างกัน เพราะแนวคิดนี้เป็นแนวคิดในการเอาของที่อยู่ใต้ดินขึ้นมาบนดิน แต่ในทางปฏิบัติจริงๆ มันไม่ใช่ง่ายที่ใครจะเข้าไปได้ มีกระบวนการอยู่ หลังมีกฎหมายออกมาและมีกระบวนการที่ชัดเจนจะเข้าใจว่าไม่ได้เป็นอย่างนี้ง่ายๆ

#  คณะกรรมการบริหารแพทยสภา ออกประกาศ ระบุว่า ตามที่แพทยสภาได้รับเรื่องร้องเรียนให้มีการตรวจสอบจริยธรรมทางวิชาชีพเวชกรรมของแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ที่ให้การดูแลรักษา นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาสอบสวน และมีข่าวแพร่ไปว่าจะมีการพิจารณาตัดสินผลการตรวจสอบ ในวันที่ 10 เม.ย. นั้น

เนื่องจากในขณะนี้ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่จะถึงวันที่ 10 เม.ย. ทางคณะอนุกรรมการสอบสวนของแพทยสภาได้รายงานต่อคณะกรรมการบริหารแพทยสภาว่า ได้รับเอกสารข้อมูลเพิ่มเติมจาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 2 หน่วยงานดังนี้ 1. เอกสารจากโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งส่งเอกสารมาเมื่อวันที่ 28 มี.ค. และแพทยสภาได้รับเอกสารดังกล่าวในวันที่ 31 มี.ค. 

และ 2. เอกสารจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งส่งเอกสารมาเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2568 และแพทยสภา ได้รับเอกสารดังกล่าวในวันที่ 1 เม.ย.2568 ทั้งนี้ เอกสารจากทั้ง 2 หน่วยงานมีจำนวนมาก ทำให้กระบวนการพิจารณาจากข้อมูลเพิ่มเติมดังกล่าวต้องใช้เวลามากขึ้น จึงไม่สามารถสรุปผลการตัดสินได้ทันวันที่ 10 เม.ย.2568