พาณิชย์เปิดตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมีนาคม 2568 สูงขึ้น 0.84% จ่อลดเป้าทั้งปี "ทรัมป์" ขึ้นภาษีกดดัน

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของไทย เดือนมีนาคม 2568 เท่ากับ 100.35 เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2567 ซึ่งเท่ากับ 99.51 ทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้นร้อยละ 0.84 (YoY) โดยปัจจัยหลักมาจากการสูงขึ้นของราคาสินค้าในกลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เนื้อสัตว์ และอาหารสำเร็จรูป ประกอบกับมีการสูงขึ้นของราคาน้ำมันดีเซล และค่าเช่าบ้าน เป็นสำคัญ สำหรับราคาสินค้าและบริการอื่นๆ ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อไม่มากนัก

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยเมื่อเทียบกับต่างประเทศ ข้อมูลล่าสุดเดือนกุมภาพันธ์ 2568 พบว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยสูงขึ้นร้อยละ 1.08 (YoY) ซึ่งยังคงอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อต่ำ โดยอยู่ระดับต่ำอันดับ 22 จาก 130 เขตเศรษฐกิจที่ประกาศตัวเลข และต่ำเป็นอันดับ 4 ในกลุ่มประเทศอาเซียนจาก 8 ประเทศที่ประกาศตัวเลข (อินโดนีเซีย บรูไน สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม สปป.ลาว) 

อัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่สูงขึ้นร้อยละ 0.84 (YoY) ในเดือนนี้ มีการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าและบริการ ดังนี้

-หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นร้อยละ 2.35 (YoY) จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ 
กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (กาแฟผงสำเร็จรูป น้ำอัดลม กาแฟ (ร้อน/เย็น)) กลุ่มเนื้อสัตว์ เป็ดไก่ และสัตว์น้ำ (เนื้อสุกร ปลานิล ปลาทู กุ้งขาว) กลุ่มอาหารสำเร็จรูป (ข้าวราดแกง กับข้าวสำเร็จรูป ก๋วยเตี๋ยว) กลุ่มผลไม้สด (ทุเรียน ฝรั่ง สับปะรด มะพร้าวอ่อน) กลุ่มเครื่องประกอบอาหาร (น้ำมันพืช มะพร้าว (ผลแห้ง/ขูด) น้ำพริกแกง) กลุ่มข้าว แป้ง และผลิตภัณฑ์จากแป้ง (ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว ขนมอบ) และกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำตาล (ขนมหวาน น้ำตาลทราย) อย่างไรก็ตาม 
มีสินค้าหลายรายการที่ราคาลดลง อาทิ ผักสดบางชนิด (มะนาว พริกสด ผักกาดขาว ขิง ผักชี ต้นหอม มะเขือ ขึ้นฉ่าย) 
ไข่ไก่ ไก่ย่าง ผลไม้บางชนิด (องุ่น มะละกอสุก) และอาหารโทรสั่ง (Delivery)

-หมวดอื่นๆที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ลดลงร้อยละ 0.18 (YoY) จากการลดลงของราคาสินค้าสำคัญ โดยเฉพาะแก๊สโซฮอล์ ของใช้ส่วนบุคคล (แชมพู ผลิตภัณฑ์ป้องกันและบำรุงผิว สบู่ถูตัว แป้งผัดหน้า) สิ่งที่เกี่ยวกับการทำความสะอาด (ผลิตภัณฑ์ซักผ้า น้ำยาล้างจาน น้ำยาถูพื้น น้ำยารีดผ้า) เครื่องรับโทรศัพท์มือถือ และเสื้อผ้า (กางเกงขายาวบุรุษ เสื้อยืดบุรุษและสตรี) ขณะที่มีสินค้าสำคัญหลายรายการที่ราคาสูงขึ้น อาทิ น้ำมันดีเซล ค่าเช่าบ้าน และค่าแต่งผมบุรุษและสตรี  

-อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออก) สูงขึ้นร้อยละ 0.86 (YoY) ชะลอตัวลงจากเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่สูงขึ้นร้อยละ 0.99 (YoY) 

-ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปเดือนมีนาคม 2568 เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ลดลงร้อยละ 0.20 (MoM) ตามการลดลงของหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ร้อยละ 0.44 (MoM) โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิง (แก๊สโซฮอล์ น้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซิน) ตามสถานการณ์ราคาพลังงานในตลาดโลกที่ลดลง และค่ากระแสไฟฟ้า จากมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าให้ประชาชนตามนโยบายรัฐบาล นอกจากนี้ ค่าของใช้ส่วนบุคคล (ผลิตภัณฑ์ป้องกันและบำรุงผิว โฟมล้างหน้า ยาสีฟัน) และสิ่งที่เกี่ยวกับการทำความสะอาด (ผลิตภัณฑ์ซักผ้า น้ำยาล้างจาน น้ำยารีดผ้า) ราคาปรับลดลงจากกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการ สำหรับสินค้าที่ราคาปรับสูงขึ้น อาทิ ค่าเช่าบ้าน ค่าโดยสารเครื่องบิน และกางเกงขายาวสตรี ขณะที่หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นร้อยละ 0.19 (MoM) ปรับสูงขึ้นตามราคาสินค้าสำคัญ กลุ่มอาหารสด โดยเฉพาะเนื้อสุกร และผักสด (ผักคะน้า มะนาว มะเขือ ผักกวางตุ้ง ผักชี) เนื่องจากปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดลดลงจากสภาวะอากาศร้อน ขณะที่ความต้องการบริโภคยังมีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับราคากาแฟผงสำเร็จรูป และน้ำมันพืช มีการปรับสูงขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตาม มีสินค้าที่ราคาปรับลดลง อาทิ อาหารโทรสั่ง (Delivery) ไข่ไก่ ผักสดบางชนิด (ชะอม แตงกวา พริกสด) และผลไม้บางชนิด (มะม่วง ฝรั่ง แตงโม)

-ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป เฉลี่ยไตรมาสแรกของปี 2568 เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2567 สูงขึ้นร้อยละ 1.08 (YoY) และเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 ลดลงร้อยละ 0.14 (QoQ)

ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ เตรียมพิจารณาปรับลดเป้าหมายเงินเฟ้อในปีนี้ลงอีกเล็กน้อย จากกรอบเดิมที่วางไว้ 0.3-1.3% ซึ่งเป็นผลจากอัตราเงินเฟ้อในไตรมาสแรก ออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย นอกจากนี้ ยังมีผลจากนโยบายที่สหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากไทยในอัตราสูงถึง 37%

“จากเงินเฟ้อไตรมาสแรกที่ออกมา 1.08% ต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 1.13% รวมทั้งมาตรการภาษีของทรัมป์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อไทย จึงทำให้แนวโน้มเงินเฟ้อทั้งปี มีโอกาสจะต่ำกว่าเป้าเดิมที่วางไว้ แต่คงไม่มาก เราขอพิจารณาข้อมูลในรายละเอียดอีกครั้ง คาดกว่าจะแถลงตัวเลขใหม่ในรอบหน้า”

อย่างไรก็ดี จากผลกระทบดังกล่าวที่เกิดขึ้น เชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อของไทยจะยังไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืด เพราะเชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อในแต่ละไตรมาสที่เหลือของปีนี้ จะไม่ลงไปถึงระดับติดลบ ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 2 คาดว่าจะชะลอตัวลงจากไตรมาสแรกเล็กน้อย

โดยแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 คาดว่าจะปรับตัวลดลงจากไตรมาสที่ 1 ปี 2568 โดยมีปัจจัยที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลง ได้แก่ (1) ภาครัฐมีแนวโน้มดำเนินมาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง (2) ฐานราคาผักสดและไข่ไก่ในปีก่อนหน้าอยู่ในระดับสูง ขณะที่ในปี 2568 สภาพอากาศเอื้ออำนวยมากกว่าปี 2567 ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตเข้าสู่ระบบมากขึ้น (3) การลดลงของราคาน้ำมันดิบดูไบในตลาดโลก โดยราคาในปีนี้ต่ำกว่าปีก่อนหน้า จึงส่งผลให้ราคาแก๊สโซฮอล์ภายในประเทศปรับตัวลดลงในทิศทางเดียวกัน และ (4) การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

-ปัจจัยสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้น ได้แก่ (1) วัตถุดิบต้นน้ำของสินค้าเกษตรบางชนิดราคายังอยู่ระดับสูง โดยเฉพาะพืชสวน เช่น มะพร้าว กาแฟ และปาล์มน้ำมัน ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปปรับตัวสูงขึ้น ทั้งกะทิ กาแฟ และน้ำมันพืช และ (2) อาหารสำเร็จรูป โดยเฉพาะอาหารพร้อมทาน ราคายังอยู่ในระดับสูง เนื่องจากมีการปรับราคาตามต้นทุนวัตถุดิบบางชนิดที่สูงขึ้น 

#กระทรวงพาณิชย์ #เงินเฟ้อ #ข่าววันนี้ #ทรัมป์ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์