เมื่อวันที่ 4 เม.ย.68 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า HOA Restaurant Group เจ้าของเครือร้านอาหารชื่อดัง Hooters (ฮูตเตอร์) ในสหรัฐอเมริกา ได้ยื่นขอความคุ้มครองจากการล้มละลายภายใต้มาตรา 11 (Chapter 11) เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ที่ศาลล้มละลายเขตเท็กซัสตอนเหนือ เมืองดัลลาส โดยเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ร้านอาหารเก่าแก่ที่ได้รับผลกระทบจาก ต้นทุนอาหารและค่าแรงที่พุ่งสูงขึ้น, พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป รวมถึงการแข่งขันจากเครือข่ายร้านอาหารยุคใหม่ อาทิ Shake Shack
Hooters ซึ่งเป็นที่รู้จักจากเมนู ปีกไก่ทอด และพนักงานเสิร์ฟ “Hooters Girls” ฮูตเตอร์ เกิร์ล ที่มีชุดยูนิฟอร์มเป็นเอกลักษณ์ ได้เข้าร่วมกลุ่มร้านอาหารเก่าแก่ที่เผชิญปัญหาทางการเงินในช่วงหลัง โดยก่อนหน้านี้ แบรนด์อย่าง Red Lobster, TGI Fridays, Buca di Beppo และ On the Border ต่างก็ยื่นฟ้องล้มละลายมาแล้ว
แผนฟื้นฟูกิจการ: คืน Hooters สู่มือแฟรนไชส์เดิม
ภายใต้แผนล้มละลายของบริษัท Hooters สาขาร้านอาหารจำนวน 100 แห่งในสหรัฐฯ ที่ปัจจุบันบริษัทเป็นเจ้าของโดยตรง จะถูกขายให้กับกลุ่มผู้รับสิทธิ์แฟรนไชส์ (Franchisee Group) ซึ่งรวมถึงผู้ก่อตั้ง Hooters รายเดิม
นีล คีเฟอร์ (Neil Kiefer) ซีอีโอของ Hooters Inc. ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มแฟรนไชส์ กล่าวว่า “เป็นเวลาหลายปีที่แบรนด์ Hooters ถูกบริหารโดยกลุ่มทุนเอกชนที่ขาดประสบการณ์ในธุรกิจนี้ แต่จากการโอนกิจการครั้งนี้ เราจะสามารถนำแบรนด์ที่เป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมร้านอาหารอเมริกันกลับคืนสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จอีกครั้ง”
ปัจจุบัน กลุ่มแฟรนไชส์ Hooters ดำเนินกิจการร้าน Hooters ที่มียอดขายสูงสุด 14 แห่งจากทั้งหมด 30 แห่ง ทั่วสหรัฐฯ