SCB FM มองเงินบาทอาจอ่อนค่าได้อีกเล็กน้อยในระยะสั้น แม้สหรัฐฯ ขึ้นภาษีไทย 36% – จับตาปลายปี ยังมีความไม่แน่นอนสูง
วันที่ 3 เมษายน 2568 กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB Financial Markets: SCB FM) เปิดเผยมุมมองต่อแนวโน้มค่าเงินบาท หลังสหรัฐฯ ประกาศมาตรการ Reciprocal Tariffs หรือการเก็บภาษีนำเข้าตอบโต้ โดยกำหนดอัตราภาษีนำเข้าจากประเทศไทยเพิ่มขึ้น 36% ซึ่งสูงกว่าหลายประเทศในภูมิภาค แม้มาตรการดังกล่าวสร้างแรงกดดันต่อเงินบาท แต่ SCB FM ประเมินว่า ในระยะสั้น เงินบาทอาจอ่อนค่าเพิ่มเติมได้อีกไม่มาก โดยเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบประมาณ 34.15–34.65 บาทต่อดอลลาร์ และอาจได้รับแรงกดดันจากปัจจัยอื่น เช่น การจ่ายเงินปันผลของนักลงทุนต่างชาติในช่วงไตรมาส 2 ซึ่งจะมีเงินทุนไหลออกจากตลาดการเงินไทย
มาตรการภาษีสหรัฐฯ ใช้เปิดเกมเจรจา ไม่หวังทำลายเสถียรภาพ
นายวชิรวัฒน์ บานชื่น นักกลยุทธ์ตลาดการเงินอาวุโส SCB FM ระบุว่า การประกาศขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ส่งผลให้ตลาดการเงินทั่วโลกเผชิญแรงขายสินทรัพย์เสี่ยง นักลงทุนแห่เข้าถือสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ทองคำและเงินเยน โดย เงินบาทอ่อนค่าลงทันทีประมาณ 30 สตางค์ ก่อนทยอยกลับมาแข็งค่าบางส่วน ล่าสุดเคลื่อนไหวอยู่ที่ราว 34.30 บาทต่อดอลลาร์
อย่างไรก็ดี SCB FM มองว่า เป้าหมายของมาตรการ Tariffs นี้ คือการใช้เป็นเครื่องมือในการเจรจาการค้า มากกว่าจะใช้กีดกันอย่างรุนแรง หากไทยสามารถปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ในบางกลุ่ม เช่น จักรยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือสินค้าเกษตร รวมถึงเปิดตลาดการลงทุนให้กว้างขึ้น อาจนำไปสู่การปรับลดภาษีของสหรัฐฯ ในระยะถัดไป
ปลายปีเงินบาทยังมีความไม่แน่นอนสูง ขึ้นอยู่กับผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก
SCB FM ประเมินว่า แนวโน้มค่าเงินบาทในระยะกลางถึงปลายปีจะขึ้นอยู่กับผลกระทบของมาตรการภาษีต่อเศรษฐกิจโลก โดยมี 2 กรณีหลักคือ:
กรณีฐาน (Base case): หากประเทศอื่นไม่ตอบโต้รุนแรง เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่ง เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเพียง 1–2% ดัชนีเงินดอลลาร์อาจแข็งค่าในระยะสั้น ก่อนจะอ่อนค่าลงภายหลัง ส่งผลให้เงินบาท ณ ปลายปีอาจอยู่ในกรอบ 32.50–33.50 บาทต่อดอลลาร์
กรณีเลวร้าย (Worst case): หากผลกระทบรุนแรงจนนำไปสู่ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย (Recession risk) นักลงทุนจะลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยงและเข้าสู่โหมด Risk-off ส่งผลให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เงินบาทอาจอ่อนค่าลงไปถึง 34.00–35.00 บาทต่อดอลลาร์
แนะผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก เร่งบริหารความเสี่ยงค่าเงิน
SCB FM แนะนำให้ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะภาค นำเข้า-ส่งออก พิจารณา ใช้เครื่องมือบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (FX Forward) และอาจ กระจายความเสี่ยงด้วยการใช้สกุลเงินท้องถิ่น ในการทำธุรกรรม เพื่อรองรับความผันผวนจากปัจจัยภายนอกที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง
#SCBFM #ค่าเงินบาท #ReciprocalTariffs #เศรษฐกิจไทย #สงครามการค้า #ภาษีนำเข้า #เงินบาทอ่อนค่า #ดอลลาร์สหรัฐ #การบริหารความเสี่ยง #FXForward #เศรษฐกิจโลก #ส่งออกไทย