มีรายงานข่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ได้จัดทำหลักการร่างประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (ประกาศ คปภ.) เรื่อง อัตรา หลักเกณฑ์ และวิธีการวางเงินสำรองสำหรับเบี้ยประกันภัยที่ยังไม่ตกเป็นรายได้ของบริษัทประกันวินาศภัย พ.ศ. ... (หลักการร่างประกาศฯ) เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ให้กับเจ้าหนี้ซึ่งมีสิทธิได้รับชำระหนี้ที่เกิดจากการเอาประกันภัยซึ่งมีบุริมสิทธิพิเศษเหนือทรัพย์สินที่วางเป็นเงินสำรองสำหรับเบี้ยประกันภัยไว้กับ นายทะเบียนให้สอดคล้องกับระดับความเสี่ยงและความมั่นคงของบริษัท โดยมีหลักการดังนี้
1. ทรัพย์สินที่บริษัทนำมาวางเป็นเงินสำรองสำหรับเบี้ยประกันภัยที่ยังไม่ตกเป็นรายได้(Unearned Premium Reserve : UPR) กับนายทะเบียน จะต้องมีการคิดลดมูลค่า (Haircut) ก่อน เพื่อรองรับความผันผวนและสะท้อนราคาจำหน่ายของราคาทรัพย์สินที่บริษัทนำมาวางเป็น เงินสำรองสำหรับเบี้ยประกันภัยที่ยังไม่ตกเป็นรายได้(เงินสำรอง UPR) ของบริษัทไว้กับนายทะเบียนตามมาตรา 24 แห่ง พระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 และที่แกไขเพิ่มเติม สำนักงาน คปภ. จึงไดกำหนดอัตราคิดลด (Haircut) ทรัพย์สินแต่ละประเภท เพื่อให้บริษัทนำไปหักออกจากราคาประเมินทรัพยสินก่อนที่จะนำมาวางเป็นเงินสำรอง UPR ต่อไป โดยมีรายละเอียดอัตราคิดลด (Haircut) แยกตามประเภททรัพย์สิน ระยะเวลา และอันดับความนาเชื่อถือ ตามเอกสารแนบท้ายหลักการร่างประกาศฯ
2. กำหนดหลักเกณฑ์อัตราการวางเงินสำรอง UPR ของบริษัทประกันวินาศภัย สำนักงาน คปภ. ได้นำการจัดกลุ่มบริษัทตามเกณฑ์ระบบสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้า (Early Warning System: EWS) มาพิจารณารวมกับอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (Capital Adequacy Ratio: CAR) ที่รอยละ 200 สี่ไตรมาสย้อนหลัง เป็นหลักเกณฑในการพิจารณาอัตราการวางเงินสำรอง UPR ของบริษัทประกันวินาศภัย โดยแบ่งเป็น 3 หลักเกณฑ์ดังนี้
หมายเหตุ: * อัตราการวางเงินสำรอง UPR ข้างต้น คิดจากมูลค่าทรัพย์สินหลังจากหักส่วนลด (Haircut) เรียบร้อยแล้ว หลักการร่างประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง อัตรา หลักเกณฑ์และวิธีการวางเงินสำรองสำหรับเบี้ยประกันภัยที่ยังไม่ตกเป็นรายได้ของบริษัทประกันวินาศภัย พ.ศ. ...
ในกรณีที่คุณสมบัติหรือกลุมตามระดับความเสี่ยงของบริษัทเปลี่ยนแปลงไป ภายหลังจากบริษัท
วางเงินสำรองสำหรับเบี้ยประกันภัยไว้แล้ว บริษัทจะต้องวางเงินสำรองสำหรับเบี้ยประกันภัยไว้กับนายทะเบียนให้ถูกต้องและครบถ้วนภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ทราบผลการจัดกลุ่ม
3. เพิ่มประเภททรัพย์สินที่ให้บริษัทสามารถนำมาวางเป็นเงินสำรอง UPR ได้และเพิ่มการกำหนดเพดานจำกัดรวม (Aggregate Limit)สำนักงานคปภ.กำหนดให้บริษัทสามารถนำสลากออมทรัพย์มาวางเป็นเงินสำรอง UPR ได้ โดยกำหนดสัดส่วนการวางไม่เกินร้อยละ 50 ของเงินสำรอง UPR ที่ต้องวางไว้กับนายทะเบียน และเพื่อให้มั่นใจได้ว่าเงินสำรอง UPR ที่บริษัทนำมาวางไวกับนายทะเบียน จะมีทรัพย์สินที่มีความมั่นคงและมีความผันผวนของมูลค่าน้อย จึงได้มีการกำหนดเพดานรวมของสัดส่วน รายละเอียดตามตารางนี้