บล.ทรีนีตี้ ประเมินตลาดหุ้นไทยเดือนเมษายนยังมี Downside risk จำกัด คาดดัชนี SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,150-1,190 จุด แม้จะถูกกดดันจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะแนวโน้มเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และนโยบายภาษีตอบโต้ของรัฐบาล “ทรัมป์ 2.0” แต่ยังได้แรงหนุนจาก Valuation ที่อยู่ในระดับต่ำและความสัมพันธ์กับตลาดโลกที่ไม่สูงมาก
วันที่ 1 เมษายน 2568 นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า บรรยากาศการลงทุนในไตรมาส 2 มีความไม่แน่นอนสูงจากหลายปัจจัย แต่ยังสามารถคัดเลือกหุ้นที่เหมาะกับภาวะตลาดได้ โดยกลยุทธ์หลักคือ “เน้นหุ้นกลุ่ม Value และ Defensive” ที่คาดว่าจะได้รับเม็ดเงินไหลเข้าจากหุ้นกลุ่ม Growth และ Technology
10 หุ้นเด่นไตรมาส 2 ที่ทรีนีตี้แนะนำ ได้แก่: BCP, TOP, PTTGC, GPSC, CPF, BDMS, BH, TCAP, 3BBIF, LHHOTEL หุ้นกลุ่มดังกล่าวมีจุดแข็งด้าน Valuation ที่น่าสนใจ และมีคุณสมบัติป้องกันความผันผวนในภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในเดือนเมษายน 2568
1.นโยบายภาษี Reciprocal Tariff ของสหรัฐฯ – เตรียมประกาศวันที่ 2 เม.ย. และจับตาการตอบโต้จากประเทศคู่ค้า
2.แนวโน้มเศรษฐกิจโลกและ Stagflation – หากตัวเลขเศรษฐกิจยังอ่อนแอ อาจกดดันสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก
3.การประชุม ECB (17 เม.ย.) – ตลาดคาดโอกาส 85% ที่จะปรับลดดอกเบี้ยลงเหลือ 2.25%
4.การประชุม BoJ (30 เม.ย.–1 พ.ค.) – คาดคงดอกเบี้ยไว้ที่ 0.50%
5.การประชุม กนง. (30 เม.ย.) – คาดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.00% หลังเพิ่งลดในการประชุมที่ผ่านมา
6.หุ้น GULFI เตรียมเข้าซื้อขายต้นเดือนเมษายน – อาจกระทบเม็ดเงินในตลาด
7.โอกาสออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ – หนุนกลุ่มโรงแรมและบริการในประเทศ
มุมมองตลาดหุ้นไทยเมษายน
แม้เศรษฐกิจไทยเริ่มส่งสัญญาณอ่อนตัว โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยวและการลงทุนเอกชน แต่การประเมิน Downside risk ยังอยู่ในระดับจำกัด ด้วยระดับ Valuation ที่ต่ำ และสภาพคล่องจากภาครัฐยังเกื้อหนุน โดยแนะนำถือหุ้นที่ทยอยเข้าลงทุนบริเวณดัชนี 1,150–1,160 จุด
#ทรีนีตี้ #หุ้นไตรมาส2 #หุ้นเด่นเมษายน2568 #ลงทุนหุ้นไทย #หุ้นกลุ่มValue #SET