ศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพลล์ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ได้ดำเนินโครงการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาการหลอกลวงของคอลเซ็นเตอร์ โดยเก็บจากกลุ่มตัวอย่างจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 1,179 กลุ่มตัวอย่าง เก็บข้อมูลในวันที่ 11 - 18 มีนาคม 2568
วันที่ 31 มีนาคม 2568 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. สิงห์ สิงห์ขจร ประธานคณะกรรมการศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพลล์ เผยว่า ผลการสำรวจในครั้งนี้เรื่อง ผลการสำรวจในครั้งนี้ต่อเรื่องปัญหาการหลอกลวงของคอลเซ็นเตอร์ สร้างความเสียหายต่อประเทศไทยจำนวนมหาศาลทั้งผลกระทบด้านเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยว ภัยการหลอกลวงทางโทรศัพท์ มิจฉาชีพคอลเซ็นเตอร์ หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ (Call Center) เป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศรูปแบบหนึ่งในยุคดิจิทัล ซึ่งนอกจากจะก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจต่อเหยื่อจำนวนมากแล้ว ยังก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจในภาพรวมระดับประเทศอีกด้วย การแก้ไขปัญหาแก๊งคอลล์เซ็นเตอร์ของไทย การปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สร้างสายด่วนให้ติดต่อในกรณีที่ถูกหลอกลวง หรือการสร้างความตระหนักรู้ให้ประชาชนไม่หลงเชื่อกลลวงของมิจฉาชีพ ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นอาชญากรรมข้ามชาติที่ซับซ้อนและส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตประชาชนไทย และประชาคมโลกภัยคอลเซ็นเตอร์ ถือได้ว่าเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจข้ามชาติที่เป็นภัยร้ายแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปัจจุบันซึ่งเป็นยุคข้อมูลข่าวสารที่การติดต่อในรูปแบบดิจิทัลมีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีข้อมูลที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่พบเห็นการหลอกลวงของ call center เพิ่มมากขึ้น ร้อยละ 88 และพบเห็นการหลอกลวงของ call center ผ่านการโทรเข้าเบอร์มือถือ ร้อยละ 70
เคยได้รับการติดต่อจาก call center ที่มาทำการการหลอกลวง ร้อยละ 76.4 และรู้จักบุคคลที่ได้รับความเสียหายจากการหลอกลวงของ call center ร้อยละ 50.3
คิดว่าท่านสามารถรู้เท่าทันการหลอกลวงของ call center ร้อยละ 75.5 ไม่เคยตรวจสอบการติดต่อของ call center ที่มาทำการการหลอกลวง ร้อยละ 45.9
โดยรู้สึกว่าการหลอกลวงของ call center เป็นเรื่องไม่ปกติ ร้อยละ 64.4 ไม่คิดว่าในปัจจุบันเจ้าหน้าที่ของรัฐได้เข้มงวดในการป้องกันและปราบปราบ การหลอกลวงของ call center ร้อยละ 39.7
กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่อยากให้ภาครัฐมีมาตรการในการป้องกันและปราบปราบ การหลอกลวงของ call center อย่างจริงจัง ร้อยละ 89.5