วันที่ 31 มี.ค.2568 เวลา 11.30 น.ที่รัฐสภา ว่าที่ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นำคณะ แถลงข่าวภายหลังการตรวจสอบอาคารรัฐสภาจากเหตุแผ่นดินไหว ว่า เราได้ทำการตรวจสอบตั้งแต่วันเสาร์ (29 มี.ค. 68) เป็นการตรวจสอบโดยคณะของผู้ควบคุมงาน มีวิศวกรผู้ควบคุมงานและที่ปรึกษาโครงการ ซึ่งได้ตรวจสอบชั้น บี 1 และ บี 2  ตรวจดูฐานรากว่ามีรอยร้าวหรือไม่ โดยมีอาสาสมัคร ตำรวจสภา บริกร มาช่วยกันตรวจไล่ตามเสา ซึ่งผู้ควบคุมงานได้ให้แนวคิดในการตรวจสอบเบื้องต้น โดยมีรอยร้าวที่ไม่ได้กระทบกับโครงสร้างอาคาร ที่จะทำความเสียหายอย่างรุนแรงได้ หลังจากนั้นในวันอาทิตย์ (30 มี.ค. 68)  ก็มีการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง นำโดย ศ.การุญ จันทรางศุ อุปนายกสภาวิศวกรคนที่หนึ่ง พบว่าไม่มีข้อกังวลใจ โดยดำริของประธาน และรองประธานสภาฯ จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบอย่างเป็นทางการโดยรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อดูรายละเอียดตามหลักวิศวกร ซึ่งภาพรวมมีความมั่นคงตามที่ผู้เชี่ยวชาญที่มาตรวจสอบ

ด้านว่าที่เรือตรี ยุทธนา สำเภาเงิน รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบความปลอดภัยของอาคารรัฐสภา ซึ่งจะประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญ เช่น ศ.การุญ จันทรางศุ  อุปนายกสภาวิศวกรคนที่หนึ่ง, รศ.อเนก ศิริพานิชกร กรรมการสภาวิศวกร  รวมถึงผู้แทนผู้ตรวจสอบอาคารตัวแทนกรมโยธาธิการและผังเมือง เข้ามาร่วมทำการตรวจสอบด้วย โดยจะเชิญเข้ามาเป็นคณะกรรมการ เราพบในส่วนของรอยร้าว แต่เป็นเพียงรอยร้าวที่ไม่กระทบต่อโครงสร้างของอาคาร มีเพียงรอยกระเทาะปูนเล็กน้อย ซึ่งคณะกรรมการคงจะมีการตั้งแต่วันพุธที่ 2 เม.ย.68 โดยรอท่านประธานสภามาลงนามและจะรีบดำเนินการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ให้อาคารรัฐสภามีความมั่นคงแข็งแรงปลอดภัย และสามารถปฏิบัติงานได้ตามปกติ

เมื่อถามว่ารอยร้าวที่เจอจุดไหนบ้าง  ว่าที่เรือตรี ยุทธนา กล่าวว่า มีที่ชั้นบี 2 และชั้น 9 ที่จะเชื่อมต่อไปลานจอดเฮลิคอปเตอร์ นอกจากนี้ยังมีกระจกร้าวอยู่บานหนึ่งที่ห้องปฏิบัติการของกรรมาธิการ ทั้งนี้เราไม่ได้นิ่งนอนใจในการตรวจสอบ เมื่อวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นการตรวจสอบเบื้องต้น แต่เมื่อคณะกรรมการในการตั้งแล้ว การตรวจสอบก็จะได้มาตรฐานและปลอดภัยจริงๆ ส่วนกรอบเวลาในการตรวจสอบไม่ได้กำหนดเวลา แต่เชื่อว่าต้องเร่งด่วน เพราะเรื่องนี้รอไม่ได้ เราต้องสร้างความเชื่อมั่นสร้างความปลอดภัยให้ผู้ที่มาปฏิบัติงานที่อาคารรัฐสภาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสมาชิก ข้าราชการ หรือสื่อมวลชน

เมื่อถามว่าแบ่งกันตรวจกับฝั่งวุฒิสภาอย่างไร ว่าที่เรือตรี ยุทธนา กล่าวว่า เราแยกกันตรวจในวันเสาร์ อาทิตย์ แต่คณะกรรมการจะตั้งร่วมกัน ทั้งฝั่งวุฒิสภาและสภาฯ ซึ่งสัญญาณแจ้งเตือนมีการแจ้งเตือนอยู่แล้ว สำนักรักษาความปลอดภัยจะแจ้งเตือนในรูปแบบลักษณะอัคคีภัย

เมื่อถามว่าบันไดหนีไฟบางช่วงมืดสนิท ทำให้ยากต่อการอพยพ จะมีแผนอย่างไร ว่าที่เรือตรี ยุทธนา กล่าวว่า ต้องเร่งปรับปรุง โดยเฉพาะเรื่องแสงสว่าง และมีการกำชับให้ตรวจไฟทุกดวง ดวงไหนไม่ติดก็ต้องแก้ไขทุกชั้น ทุกอาคาร ในส่วนของบันไดหนีไฟ และต้องยอมรับว่าในบางจุดอาจจะมีไฟดับบ้าง แต่ย้ำว่าต้องเร่งปรับปรุงโดยด่วน ส่วนแผนอพยพ เราเตรียมความพร้อมอยู่แล้ว รูปแบบเดียวกันกับการหนีไฟ ทั้งทางเดิน จุดรวมพลเป็นในลักษณะเดียวกัน

เมื่อถามถึงเสียงสะท้อนว่า สว.มาปฏิบัติงานที่ฝั่ง สส. แล้วหลงทาง ว่าที่เรือตรี ยุทธนา กล่าวว่า ในอนาคตเราต้องมีการซ้อมแผนบูรณาการร่วมกันอยู่แล้ว และจะต้องมีการระวัง ป้องกัน สำคัญที่สุดคือเรื่องของการอพยพ

เมื่อถามว่าจะต้องมีการแจ้ง สส.ล่วงหน้าหรือไม่ ว่าที่เรือตรี ยุทธนา กล่าวว่า สำนักงานได้แจ้งไปที่ สส.แล้วว่าให้รับทราบเรื่องการตรวจสอบอาคาร ความมั่นคงปลอดภัยของอาคาร ในการใช้ปฏิบัติงานหรือการประชุม โดยต้องรอผลของการตรวจสอบที่มีผู้เชี่ยวชาญ

เมื่อถามถึงแผนอพยพสำหรับผู้สูงอายุ จะต้องมีแผนสำรองหรือไม่ ว่าที่เรือตรี ยุทธนา กล่าวว่า ทางสำนักรักษาความปลอดภัยได้สาธิตงานไว้แล้ว รวมถึงซักซ้อมแผนอยู่เรื่องการอพยพ ลักษณะการอพยพเป็นแบบเดียวกัน มีการเตรียมความพร้อมเรื่องการอพยพผู้สูงอายุไว้แล้ว โดยมีลิฟต์สำหรับใช้หนีไฟ เนื่องจากบางคนที่นั่งรถเข็นหรือวิลแชร์ ไม่สามารถลงมาได้