วันที่ 28 มี.ค.68 ที่ศาลาว่าการ กทม.เสาชิงช้า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นางสาวทวิดา กมลเวชช นายวิศณุ ทรัพย์สมพล นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงผลการติดตามเหตุแผ่นดินไหวในพื้นที่กรุงเทพฯ วันนี้ว่า เมื่อเวลา 13.20 น. เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 8.2 ความลึก 10 กิโลเมตร จุดศูนย์กลางอยู่ที่ปนะเทศเมียนม่า แรงสะเทือนถึงภาคเหนือ ภาคกลาง ตลอดจนกรุงเทพมหานคร สร้างความเสียหายให้กับอาคารที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ได้แก่ จุดแรก ตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ในพื้นที่เขตจตุจักร ถล่มลงมา มีผู้ติดอยู่ภายในประมาณ 83 คน เสียชีวิต 3 คน ซึ่งเป็นจุดที่เสียหายมากที่สุดในพื้นที่กรุงเทพฯ ปัจจุบัน ผอ.เขต ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์แล้ว การรื้อซากต้องใช้เวลา ไม่ให้กระทบกับผู้ที่อาจมีชีวิตอยู่
จุดที่สองคือ เครนก่อสร้างคอนโดมิเนียมที่เขตดินแดงถล่มลงมา เข้าใจว่ามีผู้เสียชีวิต กระทบทางด่วนดินแดง ต้องปิดการจราจร ปัจจุบันเปิดการจราจรปกติแล้ว จุดที่สามคือ นั่งร้านอาคารถล่ม มีผู้เสียชีวิต 1 คน ส่วนอื่น ๆ มีรายงานเรื่องอาคารแตกร้าวทั่วไป ไม่มีเหตุผลกระทบเกี่ยวกับสะพานต่าง ๆ
นายชัชขาติ กล่าวว่า อาคารที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว คืออาคารที่อยู่ระหว่างก่อสร้างทั้งหมด ไม่มีรายงานอาคารที่สร้างเสร็จแล้วเกิดปัญหา ทั้งอาคารเก่าและอาคารใหม่ เนื่องจากกฎหมายควบคุมอาคารและการก่อสร้างอาคารได้กำหนดเกณฑ์รับแรงแผ่นดินไหวได้มากกว่าแรงที่เกิดขึ้นในวันนี้ เช่น อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการ กทม.ดินแดง สูง 32 ชั้น มีการออกแบบเผื่อไว้แล้ว รวมถึงมีการติดตั้งเครื่องวัดความสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว ทำให้ทราบความแรงซึ่งยังไม่เกินกำหนดที่อาคารสามารถรับได้ตามกฎหมายกำหนด ดังนั้นความเสียหายในวันนี้อยู่ในวงจำกัด ไม่ใช่วงกว้าง
ส่วนรอยร้าวตามผนังอาคาร ไม่ใช่ส่วนที่รับน้ำหนัก ยังไม่ส่งผลให้อาคารวิบัติ จึงไม่ต้องกังวล ให้สำรวจรอยแตกร้าวที่บริเวณคานหรือเสาว่าได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงหรือไม่ หากไม่พบสามารถกลับเข้าพื้นที่ได้ ปัจจุบันกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประกาศให้ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ เข้าบ้านและอาคาร ได้แล้ว ส่วนเรื่องอาฟเตอร์ช็อก หรือแผ่นดินไหวตามมา ไม่สามารถคาดการณ์ได้ ส่วนใหญ่จะเบากว่าแผ่นดินไหวรอบแรก
เรื่องที่กังวลคือ โรงพยาบาลต่าง ๆ สั่งการให้ทุกเขตสำรวจความเสียหายโดยเฉพาะเสาอาคาร หากไม่เสียหายรุนแรง ให้ผู้ป่วยเข้ารักษาในอาคารตามเดิม ส่วนผู้ป่วยที่ไม่เร่งด่วนจำเป็นควรกลับบ้านไปก่อน เพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น ทั้งนี้ได้รับรายงานทั้ง 50 เขต ว่าผู้ป่วยกลับเข้าอาคารโรงพยาบาลตามปกติแล้ว ไม่มีข้อกังวล
ส่วนรถไฟฟ้า BTS และ MRT หยุดให้บริการ เพื่อตรวจสอบความพร้อม ประเมินความปลอดภัย คาดว่าจะเปิดให้บริการพรุ่งนี้เช้า ขณะนี้ กทม.ประกาศเป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัยแล้ว เพื่อสามารถขอความร่วมมือช่วยเหลือจากหน่วยงานต่าง ๆ ได้ตามกฎหมายกำหนด จากการสำรวจ 50 เขต ไม่ได้รับรายงานความเสียหายรุนแรงอื่น ๆ ขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวล สถานการณ์ควบคุมได้ จากนี้จะมีมาตรการซ้อมเหตุแผ่นดินไหวและตรวจความพร้อมของอาคารและโรงพยาบาลมากขึ้น ส่วนการเตือนแผ่นดินไหวล่วงหน้ายังไม่สามารถทำได้ ยังไม่มีเครื่องมือไปถึง ต้องเน้นแผนรับมือขณะเกิดเหตุให้มีประสิทธิภาพ
"มาตรฐานการก่อสร้างอาคารในกรุงเทพมหานครอยู่ในระดับดีมาก เชื่อมั่นได้ ที่เห็นว่ามีการพังเป็นอาคารที่กำลังก่อสร้าง เพราะยังมีความเปราะบางอยู่ ระบบต่าง ๆ ยังไม่ครบถ้วน เชื่อว่าสถานการณ์ไม่ได้รุนแรงเหมือนที่เรากังวลในตอนแรก"
นายวิศณุ กล่าวว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น มีแรงต่ำกว่าที่กฎหมายควบคุมอาคารกำหนดไว้มาก จึงไม่ควรตื่นตระหนก หากประชาชนไม่มั่นใจ สามารถแจ้งทราฟฟี่ ฟองดูว์ได้ เพื่อจะจัดทีมวิศวกรอาสาเข้าไปช่วยตรวจสอบ หรือโทร 155 ปัจจุบันมีผู้แจ้งทราฟฟี่ ฟองดูว์แล้ว 169 เรื่อง ส่วนมากเกี่ยวกับรอยร้าวในอาคาร ทั้งนี้ กทม.ได้ติดตั้งเครื่องวัดแรงสะเทือนแผ่นดินไหวที่สะพานพระราม 8 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการ กทม. ดินแดง ข้อดีคือสามารถสร้างความมั่นใจได้ว่าอาคารสามารถรับแรงแผ่นดินไหวได้ที่ขนาดเท่าใด ซึ่งแรงในวันนี้ยังไม่สร้างความเสียหายกับอาคารที่สร้างเสร็จแล้วทั้งเก่าและใหม่ เพราะกฎหมายควบคุมอาคารกำหนดความแข็งแรงเผื่อแรงแผ่นดินไหวไว้แล้ว