เจ้าคณะภาค 3 มอบบ้านแก่ผู้ยากไร้ ในพื้นที่อำเภอเมืองลพบุรีเป็นหลังที่ 7 ตามโครงการสังฆประชานุเคราะห์ฯ เพื่อช่วยเหลือและยกระดับความเป็นอยู่แก่ประชาชนผู้ยากไร้
เมื่อ วันที่ 27 มีนาคม 2568 พระพรหมกวี กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค 3 กรรมการมหาเถรสมาคม หัวหน้าพระธรรมทูตสายที่ 2 วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ว่าที่ร้อยตรี ทรงพล แป้นแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีมอบบ้านตามโครงการสังฆประชานุเคราะห์ฯ แก่กลุ่มเปราะบาง ณ บ้านเลขที่ 1 หมู่ 7 ตำบลท้ายตลาด อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี โดยมี พระโสภณพัฒนคุณ (ทิน สุทินฺโน) เจ้าอาวาสวัดพุน้อย ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 3 พระภาวนาวชิรมงคล วิ. รองเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี เจ้าอาวาสวัดป่าธรรมโสภณ พระวชิรจริยาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี เจ้าอาวาสวัดเสาธงทอง พร้อมด้วย คณะสงฆ์จังหวัดลพบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้
ซึ่งเจ้าคณะภาค 3 ได้มอบนโยบายให้ทุกจังหวัด ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 3 ขับเคลื่อนโครงการสังฆประชานุเคราะห์ เพื่อบรรเทาทุกข์เบื้องต้น แก่พุทธศาสนิกชนผู้ประสบภัยพิบัติ และผู้ยากไร้ สภาพบ้านมีความทรุดโทรม มีความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก เพื่อเป็นการเพิ่มขวัญ และกำลังใจ ด้วยเหตุผลว่า... วัดวาอารามบางวัดบางแห่ง และหลายๆ วัด มีสิ่งก่อสร้างใหญ่โต พรั่งพร้อมไปด้วยเสนาสนะ เป็นพุทธสถานที่สวยงาม แต่ตรงกันข้ามปรากฎว่า บ้านเรือนของประชาชนที่นับถือพระพุทธศาสนา ใส่บาตรอุปถัมภ์พระภิกษุสามเณร มีสภาพชำรุดทรุดโทรม ไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ในคราวฝนตก น้ำท่วม อากาศหนาว เป็นต้น เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงอยากให้พระสงฆ์เข้าไปดูแลแก้ไขบรรเทาทุกข์ความเดือดร้อนของประชาชน โดยยึดหลัก เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก หลักความกตัญญูรู้คุณค่า ที่ชาวบ้านได้ใส่บาตรทุกวัน โดยมอบให้เจ้าคณะปกครองที่อยู่ใกล้ชิดตรวจดูและปรึกษากับหน่วยราชการในท้องที่ ได้สร้างบ้านสงเคราะห์ประชาชนที่มีฐานะยากไร้ โดยมีคุณสมบัติพิเศษ คือ นับถือพระพุทธศาสนา มีทัศนคติที่ดีต่อคณะสงฆ์ และไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
ซึ่งการสร้างบ้านสังฆประชานุเคราะห์แก่ประชาชนผู้มีฐานะยากไร้ หลังนี้ เป็นหลังที่ 7 ของคณะสงฆ์อำเภอเมืองลพบุรี ณ บ้านเลขที่ 1 หมู่ 7 ตำบลท้ายตลาด อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี โดยได้สำรวจพบว่าบ้านของนางสาวสุรินทร์ นาคงาม บ้านเดิมมีสภาพฝาผนังผุพัง มีหลังคารั่ว เวลามีฝนตก ทำให้อาศัยกันอยู่อย่างยากลำบาก จึงได้ร้องขอความช่วยเหลือ โดยประสานความร่วมมือเป็นการร่วมกันระหว่างวัด บ้าน ราชการ ตามหลักของบวร เป็นไปตามความดำริ ความประสงค์ของพระเดชพระคุณเจ้าคณะภาค 3 ที่จะให้คณะสงฆ์ให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่มีที่อยู่อาศัย ชำรุดทรุดโทรม เป็นการช่วยเหลือเกื้อกูล ก่อให้เกิดประโยชน์แก่มหาชน และเป็นการยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 90,000 บาท นอกจากนี้ คณะสงฆ์อำเภอเมืองลพบุรี วัดพระบาทน้ำพุ มูลนิธิลพบุรีสามัคคีสงเคราะห์ ได้มอบข้าวสาร ถุงละ 5 กิโลกรัม จำนวน 400 ถุง มอบให้กับประชาชนในพื้นที่ตำบลท้ายตลาดอีกด้วย
