วันที่ 27 มี.ค.2568 นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า กรรมาธิการได้เชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าประชุม ตัวแทนกองทัพบก-กรมป่าไม้-สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ-อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี-องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี -อบต. ในพื้นที่มาชี้แจงถึงกรณีการแก้ปัญหาข้อพิพาทที่ดิน ที่อยู่ในความครอบครองของทหาร กับประชาชนในพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี โดยเห็นว่าทหารได้ครอบครองที่ดินเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งหากให้กองทัพกับครอบครองที่ดินเกินมากจำเป็น ซึ่งต้องมีการกำหนดความจำเป็นหากครอบครองมากเกินก็จะต้องคลายที่ดินที่ครอบครองไว้ออกมาให้ประชาชนนำไปใช้ประโยชน์ เพื่อสร้างเศรษฐกิจและพัฒนาคุณภาพชีวิต และเสนอแนะให้แก้กฎหมายรัฐกลุ่มเพื่อป้องกันในทุนเข้ามาครอบครอง ผ่านการเปลี่ยนผู้ถือครอง ซึ่งหากที่ดินที่ถูกกองทัพครอบครองไว้ไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจก็ทำให้เศรษฐกิจไม่เติบโต ส่วนชาวบ้านประชาชนถูกบังคับใช้กฎหมายไร่ที่ ซึ่งเห็นว่าไม่เป็นธรรม ซึ่งจะต้องมีการทบทวนเรื่องกฎหมาย
นายวิโรจน์กล่าวต่อว่า หากสร้างกาญจนบุรีโมเดลในการแก้ไขปัญหาที่ดินได้ ก็ทำให้ปัญหาดังกล่าวนั้นหายไปมากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ ซึ่งพื้นที่หลายแปลงกลายเป็นเมืองแล้ว จะนำมาใช้เป็นสถานที่ซ้อมยิงปืนใหญ่เหมาะสมหรือไม่ แต่ประชาชนไม่มีกฎหมายที่รองรับนำที่ดินไปทำกินในพื้นที่ดังกล่าว หากปล่อยให้ความไม่มั่นคงดำเนินต่อไปขึ้น ไม่มีการขีดเส้นไม่มีการจัดสรรที่ดิน ก็จะเกิดการลุกลามที่ดินไปเรื่อยๆ ไม่ได้หมายความว่าสนับสนุนการบุกรุก แต่ต้องการการขีดเส้นการจัดสรรที่ชัดเจน จะได้ไม่ต้องมีการบุกรุกกัน ขีดเส้นชัดเจนว่าพื้นที่นี้เป็นของทหาร ส่วนพื้นที่นี้ใช้สำหรับชุมชน ใช้สำหรับเชิงพาณิชย์ เก็บภาษีเป็นรายรายได้ของแผ่นดิน ประชาชนก็มีคุณภาพชีวิตที่ดี และรัฐบาลก็จะเก็บภาษีได้ เป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วไม่เห็นใครต้องเสียอะไร” นายวิโรจน์กล่าว
ด้านนายพนม โพธิ์แก้ว สส. กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการ ว่าที่ดินดังกล่าวดังกล่าวเป็นที่ราชภัฏวัสดุที่ทหารได้ใช้อยู่จำนวน 2.5 ล้านไร่ ซึ่งเห็นว่าทหารไม่มีมีความจำเป็นใช้พื้นที่ดังกล่าว และปัจจุบันเป็นพื้นที่ในอำเภอเมืองที่มีชาวบ้านอาศัยอยู่ จึงกระทบต่อวิถีชีวิตชาวบ้าน ทำให้เข้าถึงน้ำไฟอย่างลำบาก และเห็นว่าที่ดินที่เหมาะกับการพัฒนาเป็นรีสอร์ท ควรถูกนำมาพัฒนาสร้างรายได้สร้างเศรษฐกิจให้กับประเทศ