เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 มี.ค. 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ ว่า จะเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือน มี.ค.นี้แน่นอน ซึ่งพ.ร.ก.ฉบับนี้ จะเป็นร่างที่ออกมาเพื่อกำหนดการมีส่วนร่วมเกี่ยวกับความรับผิดชอบของสถาบันการเงิน บริษัทโทรคมนาคม และแพลตฟอร์ม โดยสิ้นเดือนมี.ค.นี้จะเรียบร้อยแน่นอน และต้นเดือน เม.ย.จะสามารถประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้ได้เลย
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีผลบังคับใช้แล้ว หน่วยงานต่างๆ เหล่านี้จะสามารถเข้ามาร่วมรับผิดชอบได้เลยใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เราเรียกค่ายโทรศัพท์มือถือ สถาบันการเงิน และแพลตฟอร์มต่างๆ มาคุยร่วมกันแล้ว เพื่อทำความเข้าใจว่าเมื่อ พ.ร.ก.ฉบับนี้มีผลบังคับใช้แล้ว ต้องปฏิบัติอย่างไร ตอนนี้มีเพียงบางประเด็นที่ยังไม่ลงตัวกัน เช่น เรามีข้อกำหนดที่บอกให้ธนาคารดำเนินการอย่างเรื่องเปิดบัญชี จะต้องมีการเปิดให้ยากขึ้น ไม่ใช่ใครมาขอก็เปิดได้หมด ไม่มีการสอบถามอะไรเลย ซึ่งต้องสอบถามถึงลักษณะของธุรกิจ และบุคคลที่ไปยื่นเปิดว่าเป็นบุคคลที่ถูกบรรจุอยู่ในบัญชีผู้ต้องสงสัยหรือไม่ ถ้าเป็นอย่างนั้นต้องห้ามเปิด แต่ถ้ายังดันทุรังไปเปิด และบัญชีนั้นเป็นบัญชีที่ก่อให้เกิดความเสียหาย หลอกลวง ก็ต้องรับผิดชอบ
เมื่อถามว่า ใน พ.ร.ก.ฉบับนี้มีกำหนดสัดส่วนหรือไม่ว่าธนาคารจะต้องรับผิดชอบเท่าไหร่ และค่ายมือถือจะต้องรับผิดชอบเท่าไหร่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับศาลจะวินิจฉัยว่า ผลของความเสียหายนั้น มีน้ำหนักอยู่ที่ฝั่งไหน
เมื่อถามอีกว่า กระบวนการตัดสินของศาลจะใช้เวลานานหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า คิดว่าไม่นานมากนัก ซึ่งที่ผ่านมาที่นานก็เพราะเมื่อผ่านศาลชั้นต้นไปแล้ว ก็ไปสู้กันในชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกาอีกมันเลยใช้เวลามาก