เปิดปฏิบัติการเด็ดปีกแก๊งเวียดนาม ลอบขนคนจีนเถื่อนซุกกลางกรุง จับกุม 7 ผู้ต้องหา จ่อขยายผล

วันที่ 27 มี.ค.68 ที่ บก.ตม.1 พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข รอง ผบช.สตม. สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดยกระดับการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม โดยเฉพาะความผิดที่เกี่ยวกับคนเข้าเมือง ความผิดเกี่ยวกับการค้ามนษย์ ค้าหญิงและเด็ก การนำคนมาขอทาน รวมถึงการบังคับใช้แรงงานข้ามชาติ ซึ่งเป็นความรับผิดชอบหลักของ สตม. ว่า ผบช.สตม.ได้เน้นย้ำ และกำชับให้เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบบังคับใช้กฎหมาย โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่รับผิดชอบงานสืบสวนเน้นลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคม 2568 ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รองผู้บังคับการฯ รับผิดชอบงานตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.พลสิทธิ์ สุทธิอาจ ผกก.สืบสวน บก.ตม.1, พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รองผู้กำกับการสืบสวนฯ พร้อมชุดปฏิบัตินำโดย พ.ต.ท.ทวีทรัพย์ ชัยภูมิ และ พ.ต.ท.ธงไทย ไพเราะ สว.กก.สืบสวน บก.ตม.1 เรียกประชุมชุดสืบสวนในการลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวเป็นการด่วน เนื่องจากมีข้อมูลในทางการข่าวเกี่ยวกับกลุ่มคนจีนถูกล่อลวงเข้ามาพักในไทย ก่อนส่งไปทำงานในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน และต้องการความช่วยเหลือ เกรงว่าหากปล่อยให้เนิ่นช้าการจะไม่ทันการ

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 มี.ค.2568 มีคนต่างด้าวสัญชาติจีน ชื่อนายหลิว (นามสมมุติ) ที่พักอาศัยอยู่ในประเทศไทย แจ้งเบาะแสมายัง บก.ตม.1 ว่า ญาติของตนที่อาศัยอยู่ในประเทศจีน ได้ติดต่อขอให้ตนช่วยเหลือ เนื่องจากบุตรชายชื่อนายเฉิน (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ถูกกลุ่มมิจฉาชีพล่อลวงว่าจะพาไปทำงานยังประเทศเมียนมาซึ่งจะได้รับเงินค่าจ้างจำนวนมาก จึงหลงเชื่อและได้ติดต่อกลุ่มบุคคลดังกล่าว จากนั้นได้ถูกพาตัวลักลอบเดินทางออกจากประเทศจีนตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา โดยออกจากเมืองหนานหนิง และโดยสารเรือเล็กมาขึ้นฝั่งยังประเทศเวียดนาม จากนั้นได้เดินทางโดยรถยนต์มายังกัมพูชาและลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติในพื้นที่ จ.ตราด เมื่อเข้ามายังประเทศไทยได้แล้วจึงถูกส่งตัวมาพักอาศัยในห้องเช่าลักษณะเป็นตู้คอนเทนเนอร์ บริเวณย่านชานเมืองกรุงเทพมหานคร เพื่อรอส่งตัวไปเมียนมา ซึ่งนายเฉินรู้สึกถึงความผิดปกติในการเดินทางแต่ละครั้งกลุ่มคนดังกล่าวจะกระทำแบบลับๆ มีการเปลี่ยนรถยนต์กลางทาง 2-3 ครั้ง จึงรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยและได้แจ้งพิกัดสุดท้ายก่อนที่จะแบตเตอรี่จะหมด ไปให้กับบิดาที่ประเทศจีน เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ตม.1 นำพิกัดดังกล่าวมาประชุมทำการสืบสวนติดตามช่วยเหลือ โดยวางกำลังตำรวจสืบสวนหาที่พักต้องสงสัย บริเวณพิกัดซึ่งนายเฉินส่งให้บิดาที่ประเทศจีน ซึ่งเป็นย่านชุมชน มีหอพัก ห้องเช่า บ้านพักคนงาน หลายแห่ง

จนกระทั่ง พบห้องเช่าแห่งหนึ่งอยู่ในสถานที่ลับตา ภายในซอยย่านหัวหมาก เจ้าหน้าที่ กก.สืบสวน จึงได้นำกำลังเข้าปิดล้อมพื้นที่เพื่อพิสูจน์ทราบว่ามีคนต่างด้าวถูกพามาซุกซ่อนไว้ตามที่มีการแจ้งเบาะแสหรือไม่ ซึ่งจากการนำภาพถ่ายนายเฉิน ให้เจ้าของห้องเช่าดูพบว่าเป็นบุคคลเดียวกับที่พักอาศัยอยู่ในห้องเช่าของตน

เจ้าของห้องเช่าให้การว่า มีชายชาวเวียดนามเป็นผู้เปิดห้องพักดังกล่าว จำนวน 3 ห้อง มีชาวจีนพักอาศัยอยู่ จำนวน 6 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน บก.ตม.1 จึงได้ ทำการเคาะประตูห้องทั้ง 3 ห้อง จนพบนายเฉินและชายชาวจีนรายอื่นๆ รวม 6 คน ซึ่งทั้ง 6 ราย ไม่มีหนังสือเดินทางและรับว่าลักลอบเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร โดยให้การว่าถูกชักชวนไปทำงานยังประเทศเมียนมาซึ่งจะได้รับเงินค่าจ้างจำนวนมาก ในระหว่างพักอาศัยที่ห้องเช่าดังกล่าวไม่มีใครบังคับหรือกักขัง แต่มีนายเหงียน ชาวเวียดนามเป็นคนคอยส่งอาหารให้วันละ 3 มื้อ และขู่ว่าห้ามออกไปไหนเพราะเข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมายและจะถูกตำรวจจับกุม จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน บก.ตม.1 ได้ตรวจสอบภาพวงจรปิดของห้องเช่าจนได้พยานหลักฐานขณะนายเหงียนกำลังมาส่งอาหารมื้อก่อนหน้า จึงได้ซุ่มวางกำลังในบริเวณห้องเช่าดังกล่าวเพื่อจับกุมจนกระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น. จึงพบนายเหงียนซึ่งรูปพรรณสัณฐานตรงตามภาพกล้องวงจรปิด ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาส่งอาหารเย็นจำนวน 6 กล่อง ให้กลุ่มชาวจีนยังห้องเช่า กก.สืบสวน บก.ตม.1 จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ และขอตรวจสอบหนังสือเดินทางของนายเหงียน พบว่า เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เมื่อช่วงเดือน ก.พ.2568 ทางจุดผ่านแดนบ้านคลองลึก ด่าน ตม.จว.สระแก้ว ได้รับการตรวจลงตราประเภท ผ.60-ม.17 การอนุญาตยังไม่สิ้นสุด

ในชั้นจับกุมนายเหงียน รับว่า ตนได้รับการว่าจ้างจากคนเวียดนามซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ถูกจับกุมรู้จักผ่านแอปพลิเคชัน Facebook โดยได้พบโพสต์เกี่ยวกับการหาคนเวียดนามที่สามารถพูดภาษาไทยและอยู่ไทย ผู้จับกุมสนใจจึงได้ติดต่อไป

จากนั้นผู้ว่าจ้างจึงได้โทรติดต่อมาให้ทำหน้าที่จัดการรับคนต่างด้าวมาพักในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยจะให้ค่าตอบแทนรอบละประมาณ 3,000 – 5,000 บาท เมื่อผู้ถูกจับกุมตกลงรับงานจ้างดังกล่าวจึงมีคนขับรถพากลุ่มคนจีนมาส่ง โดยผู้ถูกจับกุมทำหน้าที่จองห้องพัก รับกุญแจเปิดห้องพัก จ่ายเงินค่าเช่ารวมไปถึงคอยส่งข้าว น้ำ และอาหาร ให้กับคนต่างด้าวสัญชาติจีนแต่ละกลุ่ม โดยผู้ถูกจับกุม โดยได้ดำเนินลักษณะดังกล่าวมาแล้ว 3-4 ครั้ง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหานาย เหงียน ชาวเวียดนาม ในความผิดฐาน “ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย พ้นจากการจับกุม” ตามมาตรา 64 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และแจ้งข้อกล่าวหาชาวจีนทั้ง 6 รายว่า “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่ผ่านการตรวจของพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ณ ช่องทางอนุญาตตามกฎหมาย” จากนั้นนำตัวผู้ต้องหารวม 7 ราย ส่ง พงส.สน.หัวหมาก ดำเนินการตามกฎหมาย สตม. มีข้อมูลของผู้ที่เกี่ยวข้องมีความคืบหน้าในทิศทางการสืบสวนพอสมควรที่จะขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งจะได้รายงานให้สื่อมวลชนทราบผลการปฏิบัติต่อไป