เมื่อบุรีรัมย์จัด Colors of Buriram ขึ้นครั้งแรกปี 2567 ด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่นผ่านศิลปหัตถกรรมท้องถิ่นอย่างเป็นระบบ เพื่อนำเสนอผ้าพื้นบ้านสู่แฟชั่นระดับอินเตอร์  ตั้งเป้าให้บุรีรัมย์เป็นเมืองแห่งแฟชั่น จนเข้าสู่ปีที่ 2  ที่รวมหัวใจของคนบุรีรัมย์นำเสนอผลิตภัณฑ์ผ้าทอและหัตถศิลป์ท้องถิ่นมากกว่า 2,000 ชิ้น ด้วยรูปแบบจัดแสดงที่ทันสมัย ซึ่งคัดสรรมาจากทั้ง 23 อำเภอทั่วบุรีรัมย์ และทั่วภูมิภาคอีสาน เพื่อสืบสานและต่อยอดพระราชปณิธานโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก”  โดยมีผ้าไทยผืนเก่าหายาก และผ้าทอพื้นบ้าน ที่ สนามช้างอารีนา  จังหวัดบุรีรัมย์   

ดื่มด่ำกับประวัติศาสตร์สำคัญ

ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จทอดพระเนตรนิทรรศการ  Colors of Buriram  ครั้งที่ 2 ภายใต้แนวคิด “The Gradients” ซึ่งออกแบบมาเพื่อพาผู้เข้าชมเดินทางผ่านเรื่องราววิวัฒนาการผ้าไหมไทยกับห้องจัดแสดงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่ละโซนนำเสนอแง่มุมที่แตกต่างกัน The Traditions ดินแดนแห่งมรดกอันทรงคุณค่าของผ้าไหมไทยเผยโฉมอย่างงดงาม เปิดประสบการณ์ดื่มด่ำไปกับความสำคัญทางประวัติศาสตร์และพัฒนาการทางศิลปะผ้าไหมไทย The Cultivation in Fashion วิวัฒนาการอันพลิ้วไหวของผ้าไหมไทยในโลกแฟชั่นร่วมสมัย เน้นผสมผสานกับงานออกแบบสมัยใหม่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่และสร้างเสน่ห์ให้กับแฟชั่นยุคปัจจุบัน

 

ส่วนโซนThe Cultivation in Creative Lifestyle นวัตกรรมการนำผ้าไหมไทยมาประยุกต์ใช้กับเครื่องประดับและของใช้ในชีวิตประจำวัน ชูแนวคิด Up-cycling และสร้างสรรค์จากวัสดุเหลือใช้ ต่อยอดมรดกทางวัฒนธรรมยั่งยืน  ขณะที่ The Reclamation and Innovation เสนอการอนุรักษ์ผ้าไหมไทยโบราณ ควบคู่การค้นคว้าและพัฒนานวัตกรรมผ้าไหมในยุคปัจจุบันทั่วไทย และโซน See Now, Buy Now Section เลือกซื้อผ้าไหมลวดลายพิเศษที่จัดแสดง เมื่อลงทะเบียนสั่งซื้อเสร็จสิ้น ผลิตภัณฑ์จะถูกบรรจุและจัดส่งถึงบ้านอย่างพิถีพิถัน ได้สัมผัสมรดกแห่งงานฝีมือไทยเต็มที่

 

ทั้งนี้ นายไชยชนก ชิดชอบ ผู้จัดงาน Colors of Buriram  กล่าวว่า  งาน Colors of Buriram ปี 2567 ประสบผลสำเร็จ โดยมียอดผู้เข้าชมตลอดการจัดงาน 3 วัน กว่า 20,000 คน สร้างรายได้จากการซื้อขายผ้าไทย 7 ล้านบาท อีก 3  ล้านมาเป็นกลุ่มงานศิลปะหัตถกรรมกับอาหารท้องถิ่น จนนำมาสู่การรวมพลังส่งเสริมอุตสาหกรรมผ้าไทยให้คนบุรีรัมย์ด้วยการจัดงานในปีนี้ โดยคาดหวังว่า งานผ้าไทยจะเติบโตและมีผู้เข้าชมไม่ต่ำกว่า 1 แสนคน ด้วยการทำงานกับชุมชน ช่างฝีมือท้องถิ่น  ผู้ประกอบการ และโรงงานผู้ผลิตสิ่งทอในบุรีรัมย์ รวมถึงร่วมมือกับแบรนด์เสื้อผ้าดังที่มีเอกลักษณ์สอดคล้องไปกับอัตลักษณ์ของงานที่จัดขึ้น เพื่อไม่ให้สูญเสียเสน่ห์ของผ้าบุรีรัมย์และผ้าของภูมิภาคอีสาน และอื่นๆ  เพื่อพัฒนาทรัพยากรด้านแฟชั่น  สร้างธุรกิจ สร้างเมืองแฟชั่นดึงดูดผู้คนเดินทางมาท่องเที่ยวในบุรีรัมย์และภูมิภาคอีสานเพิ่มมากขึ้น

 

เตรียมพร้อมบุรีรัมย์สู่การเป็นฮับ

ด้าน นางสาวชิดชนก ชิดชอบ  ผู้จัดงาน Colors of Buriram   กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ บุรีรัมย์เป็นเมืองผ่าน  แต่ได้ใช้กลไกกีฬาจัดกิจกรรมระดับประเทศจนได้รับความร่วมมือของคนบุรีรัมย์เป็นเจ้าเมืองที่ดีต้อนรับผู้มาเยือน  ส่งผลให้คนตกหลุมรักบุรีรัมย์ จนปัจจุบันขยายมามิติประเพณีและวัฒนธรรมเน้นมรดกภูมิปัญญาผ้าไทย และต่อไปจะมุ่งเป้าไปที่กลุ่มงานเกษตร และอาหาร เพื่อเตรียมความพร้อมบุรีรัมย์สู่การเป็นศูนย์กลางในอุตสาหกรรมต่างๆระดับอาเซียนต่อไป

ทั้งนี้การสร้างบุรีรัมย์เมืองแฟชั่น ต้องมีความเป็นธรรมชาติ ค่อยเป็นค่อยไป บนพื้นฐานการยอมรับและปรับตัวของชุมชน  เพราะบุรีรัมย์มีศักยภาพงานผ้าไทยและคราฟท์ การเปลี่ยนแปลงต้องสร้างความเป็นคอมมิวนิตี้ เพื่อพัฒนาอย่างยั่งยืน คนเคยรู้จักบุรีรัมย์เรื่องกีฬา รถแข่งเป็นหลัก ก็มีจะเรื่องเอกลักษณ์วัฒนธรรม แฟชั่นเพิ่มขึ้นมา ตอบโจทย์สายแฟชั่น เป็นทางเลือกในการเดินทางเมื่อคิดถึงเมืองแฟชั่นต้องมาบุรีรัมย์  โดยนิทรรศการ  Colors of Buriram  ครั้งที่ 2 สอดแทรกสิ่งเหล่านี้ให้ชาวไทยและต่างชาติชื่นชมชัดเจน มาสัมผัสงานผ้าไทยได้ตั้งแต่วันนี้ – 16 เมษายน 2568 เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ สนามฟุตบอล ช้างอารีนา จ.บุรีรัมย์