สลดใจ นายดาบปืนโหดก่อเหตุยิงเมียในวันเกิด เพื่อนเดินทางมาจากกาฬสินธุ์ช็อค เตรียมมาเซอร์ไพรซ์จัดงานวันเกิดกลับกลายเป็นจัดงานศพแทน โดยยายของผู้ตายที่อยู่ในเหตุการณ์ บอกว่ามือยิงไม่ได้เมามากมีสติแต่ทำไมถึงแสดงความรุนแรงยิงเมียตัวเองต่อหน้ายายและลูกเลี้ยงได้อย่างโหดร้าย วอนตำรวจดำเนินคดีขั้นหนัก ส่วนเพื่อนบอกว่าทุกคนในกลุ่มระอากับพฤติกรรมขี้หึงของดาบตำรวจนายนี้ พร้อมเคยล้มโต๊ะเพราะหูแว่วจากการดื่มเหล้ามาแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุสะเทือนขวัญกับเพื่อนในการฉลองงานวันเกิด ซึ่งผู้ตายกำลังอยู่ในช่วงโชติช่วงของชีวิตเพราะทำธุรกิจส่งหมูออกสร้างรายได้หลายล้านบาท และกำลังไปได้สวยแต่ต้องประจบชีวิตเสียก่อน

วันที่ 26 มีนาคม 68 ศาลาแม่ประยูร โชติกะเสถียร วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศพิธีรดน้ำศพของ น.ส.คณิตา อายุ 30 ปี หรือเน๊ต ซึ่งถูก  ด.ต.อานนท์ อายุ 38 ปี ผบ.หมู่ (สส.) สน.ทุ่งสองห้อง หรือโจ๊ก สามี ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงดับคาเตียงในบ้านพัก พื้นที่ตำบลสามควายเผือก จ.นครปฐม เมื่อเวลาประมาณ 03.30 น. ที่ผ่านมา หลังคลิบวงจรปิดในห้องนอนจับภาพและเสียงนาทีมีปากเสียงกันก่อนที่จะเกิดเหตุสลดต่อหน้ายายและลูกชาย ซึ่งเป็นลูกติดของสามีเก่า วัย 9 ขวบ ซึ่งเป็นความสะเทือนขวัญกับความรุนแรงในครอบครัว 

โดยบรรยากาศในพิธีเตรียมรดน้ำศพเป็นไปด้วยความโศกเศร้าและเงียบเฉยของญาติและเพื่อนของ น.ส.คณิตา หรือเน๊ต มารวมตัวกันพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งน้องเอ๋ (นามสมมติ) วัย 9 ขวบ ลูกชายนั่งอยู่ในงานด้วยความนิ่งเฉยและยังไม่รู้ว่าอนาคตจะมีสถานการณ์อย่างไร ซึ่งมีเจ้าหน้าที่จากศูนย์ประชาบดี จังหวัดนครปฐม เข้ามาสอบถามถึงความรู้สึกของน้องเอ๋ (นามสมมติ) และอาการทางจิดใจว่าเป็นอย่างไร สำหรับการช่วยเหลือในอนาคตหากเกิดปัญหาทางจิตใจหลังจากที่มีพิธีการจัดงานศพเสร็จสิ้นแล้ว โดยมีสื่อมวลชนเข้ามาเกาะติดสถานการณ์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว 

นางจอมแพง อายุ 71 ปี ยายของ น.ส.คณิตา หรือเน๊ต บอกว่าช่วงอยู่ในเหตุการณ์ตอนยิงก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ซึ่งช่วงเกิดเหตุตนเองนอนอยู่บนโซฟาส่วนหลานคือน้องเน็ทนอนอยู่ที่ปลายเท้าและน้องเอ๋(นามสมมติ) หลานชายนอนอยู่เตียงอีกฝั่งนึงโดยเมื่อ ด.ต.อานนท์ หรือโจ๊ก สามีของหลานกลับที่บ้านก็ดูยังจะไม่เกิดเหตุการณ์อะไรเพียงแต่หลานสาวได้ถามไปว่าไปไหนมาเขาก็ตอบกลับมาว่าไปช่วยพี่กูมาแล้วก็มีเรื่องถกเถียงกันแล้วก็เป็นการพูดสั้นๆ ไม่ได้มีข้อความอะไรที่ยาวมากนักแต่จู่จู่ ด.ต.อานนท์ หรือโจ๊ก ก็ชักฟืนขึ้นมายิงหลายนัด ขณะตนเองเข้าไปแล้วยังผลักตนเองออกมา จากนั้นตนเองได้อุ้มหลานแล้วโทรไปหาแฟน ซึ่งกำลังไปส่งหมูอยู่ให้โทรศัพท์บอกตำรวจ 191 ให้ช่วยมาตรวจสอบ 

" ช่วงเช้าก่อนจะเกิดเหตุก็ยังเห็นเค้าคุยกันดีอยู่แล้วก็ดังมานั่งกินข้าวด้วยกัน ซึ่งช่วงที่มีการยิงได้กลิ่นเหล้ามาบ้างแต่ก็ไม่ได้มากถึงขนาดที่จะควบคุมสติตัวเองไม่ได้ เพราะเขาขับรถมาจากกรุงเทพฯก็ยังขับกลับมาถึง ซึ่งที่ผ่านมาเค้าดื่มก็ไม่เคยเกรี้ยวกราดหรือมีปัญหาหรือแม้จะกินที่บ้านก็ไม่เคยเห็นมีท่าทีโกรธอะไร ส่วนตัวก็คิดว่าอยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและทางกฎหมายเอา ทำคดีให้หนักที่สุด เพราะสิ่งที่สะเทือนใจคือเหลนของตนเองได้ตะโกนออกมาหลังจากที่ ด.ต.อานนท์ หรือโจ๊ก ยิงแม่ของเขาว่ายิงแม่หนูทำไม"

ขณะที่ นายกิ๊ฟ อายุ 31 ปี เพื่อนสนิทของน้องเน๊ต บอกว่า ตนเองเดินทางมาจากจังหวัดกาฬสินธุ์ เพราะผู้ตายเติบโตที่นั่นตนเองเป็นเพื่อนเก่าและทุกปีวันนี้จะมีการเซอร์ไพรซ์กันคือการจะชวนกันไปฉลองวันคล้ายวันเกิดของผู้ตาย ซึ่งหากวันนี้เขายังมีชีวิตคืนนี้ก็จะออกไปงานเลี้ยงด้วยกัน แต่ไม่คิดว่าจะมาพบว่าถูกแฟนของเขายิ่งเสียชีวิตในวันเกิด 

นายกิ๊ฟ อายุ 31 ปี บอกอีกว่า สำหรับด.ต.อานนท์ หรือโจ๊ก เพิ่งคบหากับผู้ตายมาได้ประมาณสองถึงสามปี และสิ่งที่พบกันอยู่ก็คือเค้าจะเป็นคนขี้หึงมาก แม้ว่ากลุ่มเพื่อนจะชวนน้องเน็ต ผู้ตายออกไปนั่งสังสรรค์ที่ร้านเหล้าก็ห้ามไปคุยกับโต๊ะอื่นรวมถึงเพื่อนเพื่อนทุกคนก็ห้ามไปยุ่งกับโต๊ะอื่นเช่นกัน ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนเกิดความอึดอัดมาตลอดว่าทำไมจะต้องมาบังคับเราให้มาเจอปัญหาเหล่านี้ด้วย และด.ต.อานนท์ หรือโจ๊ก มักจะมีอาการตาขวางและเกรี้ยวกราดบ่อยครั้งหลังจากได้ดื่มเหล้าเข้าไป และก็มีปัญหาหึงหวงกับน้องเน็ต ผู้ตายมาตั้งแต่เริ่มแรกที่คบหากันจนทำให้ผู้ตายมาบ่นกับเพื่อนว่ามีความอึดอัดแต่ก็มีมีความรู้สึกว่ายังรักผู้ชายคนนี้อยู่ซึ่งเราในฐานะเพื่อนก็ไม่สามารถจะพูดอะไรได้เพียงแต่ได้ให้กำลังใจและเตือนสติว่าอย่าเครียดและทักท้วงในสิ่งที่ไม่ถูกต้องแต่ก็เป็นสิทธิ์ของเพื่อนจึงไม่ได้พูดอะไรมาก

" สำหรับในคดีความรู้สึกคือทำไมมือยิงถึงไม่นึกถึงความดีที่ เพื่อนของเราได้ทำให้มากมาย เพียงแค่โกรธหึงหวงทำไมถึงกับต้องใช้กำลังและใช้อาวุธปืนยิงกันจนถึงตาย ส่วนน้องเอ๋(นามสมมติ) ลูกชายของเพื่อนวันนี้ยังไม่แสดงอาการอะไรมากนักเกี่ยวกับความเครียดหรือวิตกแต่ภาพที่เขาเห็นแม่ถูกยิงต่อหน้าต่อตาในอนาคตคิดว่ามันจะต้องเกิดขึ้นแน่เพราะมันเป็นปมในใจที่จะต้อง ซึ่งอยากให้มองว่าความรุนแรงในครอบครัวก็ไม่ควรเกิดขึ้นหากมีอะไรที่จะทะเลาะกันก็อย่าไปต่อเราะต่อเถียงปัญหาก็จะไม่เกิดแบบนี้" นายกิ๊ฟ อายุ 31 ปี กล่าว 

นอกจากนี้เพื่อนสนิทของน้องเน๊ต ผู้ตาย ยังให้ข้อมูลว่าพฤติกรรมของ ด.ต.อานนท์ หรือโจ๊ก เป็นที่น่ากลัวซึ่งมีครั้งหนึ่งเคยไปงานบวชด้วยกันแล้วเค้าดื่มเหล้าจู่จู่ก็มีท่าทีเครียดจัดแล้วก็ทำท่าล้มโต๊ะงานเลี้ยงก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วตนเองยังเคยจับมือผู้ตายซึ่งเป็นแฟนของเขามาบอกว่าทำไมอาการถึงเป็นแบบนี้ ซึ่งสิ่งที่เพื่อนเพื่อนเสียดายและเสียใจคือ น้องเน๊ต ผู้ตายกำลังอยู่ในช่วงรุ่งเรืองของชีวิตเพราะจากการที่เป็นพนักงานโรงงานได้ผันตัวเองมาเป็นซีอีโอของบริษัทหมูส่งออกต่างประเทศ ซึ่งกำลังไปได้ดีและมีเงินเข้ามาสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตมีรายได้และเงินในบัญชีหลายล้านบาทเป็นที่ภาคภูมิใจของเพื่อนเพื่อนแต่กลับถูกแฟนใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกายโดยหลายคนก็ยังมีความวิตกว่าคนก่อเหตุเป็นตำรวจกลัวจะมีเส้นสายหรือวิ่งเต้นเพื่อให้หลุดคดีสิ่งนี้จึงอยากฝากให้ผู้รับผิดชอบ บังคับใช้กฎหมายในสถานะเพื่อไม่ให้ออกมาเป็นปัญหาของสังคมอีกต่อไป