หนังคนละม้วน ทนายดังภูเก็ต ปะทะอดีตแฟนสาว ปมหึงหวง ทำร้าย ลามส่งของลับ “ต้นอ้อ” สุดทน ฟาดเดือด แมนกี่โมง?

ยังเป็นประเด็นค้างคา สำหรับกรณีผู้หญิงคนนึงร้อง “ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง” อ้างคบหาทนายความดังภูเก็ตและเลิกรากันไป แต่ฝ่ายชายไม่ยอมจบ ตามราวี ข่มขู่ต่างๆ นานา จนรับไม่ได้ แฉซ้ำถูกฝ่ายชายยืมเงิน 1.2 ล้าน ทวงเงินคืนแต่ทนายดังภูเก็ตไล่ให้ไปฟ้อง  

รายการ โหนกระแส วันที่ 25 มี.ค.68 ดำเนินรายการแทน “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมายเลข 33 สัมภาษณ์สองฝ่าย เอ้ หญิงที่เป็นผู้เสียหาย มาพร้อม ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง , วุธ - เก่ง อ้างถูกทนายจ้างให้ตามสืบเรื่องเอ้ , ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล  อีกฝั่ง ทนายรักษ์ อนันตรักษ์ เพ็ชรหิน ทนายดังภูเก็ตคู่กรณี มาพร้อม กรณ์ ทนายอีกคน

เขาไปร้องคุณแล้วนะ?

ทนายรักษ์ : ทราบจากการสืบพยานในศาล แต่ยังไม่ได้ทราบรายละเอียดของเอกสาร ยังไม่มีใครแจ้งมา

ออกรายการแล้วเป็นไงบ้าง?

เอ้ : ทุกหน่วยงานติดต่อกลับไปว่าจะมีเจ้าหน้าที่ไปคุ้มครอง ช่วยดูแล ก็มีเจ้าหน้าที่ติดต่อตลอดว่าเป็นยังไง ตกอยู่ในสภาพหวาดกลัวมั้ย มีการเข้ามาทำร้ายมั้ย

ทนายรักษ์เอาเงินน้องไป 1.2 ล้านจริงๆ ใช่มั้ย?

เอ้ : ใช่ค่ะ ครั้งแรกยืมไปเรื่องคดีความ ครั้งทีสองเรื่องทำบ้าน ตอนเลิกกันก็ทวงค่ะ เขาบอกให้ด้วยเสน่หาค่ะ ไปฟ้องเอา เราไม่ได้ให้ด้วยความเสน่หา เป็นการยืม ไทม์ไลน์เลิกราช่วงต้นๆ ปี 67 ตอนนั้นหนูไปมา ติดตามเรื่องทวงเงินตลอด

คุณใช้หนี้เขาหรือยัง?

ทนายรักษ์ : เราไม่ได้เป็นหนี้กัน ตอนนั้นเขามาชอบผม

เอ้ : ใครชอบคุณคะ เอาตรงๆ เลยค่ะ คุณแหละตาม  

ทนายรักษ์ : ปี 64 วันที่ 28 ส.ค. วันที่ 14 ส.ค. เขาซื้อเข็มขัดมาให้ผมด้วย เขาชอบผม

เอ้ :   มั่นมากเลย

คุณยังใส่ไว้อยู่?

ทนายรักษ์ :   ก็มีอยู่เส้นเดียว ตอนนั้นยังไม่ได้คบหากัน เขาเป็นเอฟซีติดตามผม วันที่ 14 ส.ค. 64

คุณรู้ได้ไงว่าเขาชอบคุณ?

ทนายรักษ์ : ผมไปดูแชตเก่า เขาทักตั้งแต่มิถุนา ทักมาปรึกษา มาจีบ

เอ้ : โห่ ไม่เคยจีบเขาก่อนค่ะ เขาทักหนูมาก่อน ทักมาซื้อนาฬิกาโรแล็กซ์ 1.8 แสนค่ะ

ทนายรักษ์ : ผมดูไทม์ไลน์การแชต เขาทักมาถามคดีบ้าง ทักโน่นทักนี่

เอ้ : อย่ามั่วค่ะ คุณทนาย เอาความจริงหน่อยค่ะ

ทนายรักษ์ : คุณกล้าเปิดหน้ามั้ยก่อน เขาทักผมมา

รู้ได้ไงว่าเขาชอบคุณ?

ทนายรักษ์ : 14 ส.ค. เขาซื้อเข็มขัดมาให้ 28 ส.ค. ตกลงคบกัน

คุณรู้ได้ไงว่าเขาชอบคุณ?

ทนายรักษ์ : ทั้งโทรทั้งทัก ผมลบไปหมดแล้ว มันอยู่ในเฟซบุ๊กอันเก่า

เขาจีบคุณเหรอ?

ทนายรักษ์ : ตามสไตล์ ผู้หญิงชอบเรา ก็คุยเยอะ ผมก็ล่อไปเรื่อย เขาทักมา ผมก็ส่งรูปไปเรื่อย ผมคนทักเยอะแต่ละวัน วันที่ 28 ส.ค. ได้ตกลงปลงใจกัน เริ่มสัมพันธ์แค่นี้

ระหว่างนี้ อย่าเพิ่งพิมพ์ คำว่า ค. เพราะอ่านไม่ทัน น้องว่าไง?

เอ้ : เขาพูดว่าหนูจีบเขาก่อน ไม่จริงนะคะ หนูเห็นเขามา เขามีมอเตอร์ไซค์มาคันเดียว แรกๆ เขาทักมาก่อนว่าพี่อยากได้นาฬิกา โรแล็กซ์ เรือนละ 1.8 แสน พอหนูถามว่าเอาจริงมั้ย เมื่อก่อนหนูขายของออนไลน์เป็นสินค้าแบรนด์เนม พอทักไปทักมา มีอะไรถูกๆ มั้ยน้อง หนูเลยบอกว่ามีเข็มขัด แม็กซ์ 600 เขาบอกว่าโอเค แต่ไม่ใช่เส้นนี้ นัดกันอยู่ร้านส้มตำห้างดังห้างนึง หนูเอาเข็มขัดไปให้แต่เขาเหมือนไม่มีเงินจ่าย ก็โอเคงั้นหนูให้ แล้วก็แยกย้ายกัน จากนั้นมามีการคุย เข็มขัดเส้นนี้เขาบอกว่าช่วงวันเกิด อยากได้ของขวัญวันเกิด ไม่มีเงิน ไม่เคยใส่เข็ดขัดแพงเลย ใส่เข็มขัด 200-300 เราใช้ของดี เราเห็นเขาไม่มีก็สงสาร ซื้อให้ ที่บอกว่าหนูตามไปเป็นเอฟซี หนูไม่เคยเป็นเอฟซีค่ะ หนูไปเจอเขาอยู่ออฟฟิศทนายท่านนึงที่หนูรู้จัก เปรียบเสมือนพี่ชายหนู ไม่เคยเจอเขา ไม่เคยติดตามเป็นเอฟซีเขาเลยค่ะ

เข็ดขัดให้เขามั้ย?

เอ้ : ซื้อให้หลังจากคบหาดูใจกันแล้ว เขาขอเป็นของขวัญวันเกิดหนู

ทนายรักษ์ : เขาให้ก่อน ผมจะไปขอของขวัญได้ยังไง

เอ้ : ขอ ขนาดนาฬิกาเรือนแรกที่เขาใส่ ก็ขอ ขอทุกอย่าง

ตอนนั้นรัก?

เอ้ : ความหลง ก็ซื้อให้ เขาพูดดี หว่านล้อมเก่ง หมั่นแชต โทร คุย คอล วิดีโอ ทุกอย่าง ในสิ่งที่เขาพูดมันตรงกันข้ามกันค่ะ

ตกลงคุณขอ?

ทนายรักษ์ : แล้วแต่เขา แต่เขาซื้อให้ ของจริงหรือเปล่ายังไม่รู้เลย ผมก็ใส่ไปงั้นแหละ ไม่ได้สนใจ มีแต่กระเป๋าหลุยส์ที่ผมซื้อให้ เอาเงินไป 7-9 หมื่น เงินผม ซื้อที่เซ็นทรัลใหม่ที่ภูเก็ต ผมไปด้วย แต่ไม่ได้สนใจ เขาอยากได้อะไร ผมซื้อช็อปเปอร์ แต่เขาบอกว่าเขาไม่นั่งถ้าไม่ได้กระเป๋าหลุยส์

เอ้ : โทษนะคะ เป็นน.ส.อัญชลี ซื้อเองนะคะ

ทนายรักษ์ : แต่ผมซื้อให้คุณ

ต้นอ้อ :   มีหลักฐานการโอนเงินมั้ย

ทนายรักษ์ : มีสิครับ

ต้นอ้อ : ขอดูค่ะ

ทนายรักษ์ : เดี๋ยวค่อยดู สเตทเมนต์นี้ยกเลิกบัญชีการใช้ไปแล้ว

เอ้ : อย่าโมเมค่ะ หนูซื้อเองค่ะ

ทนายรักษ์ : เขาเลือกเอง แต่ผมโอนเงินให้เขา

มันเช็กสเตทเมนต์ได้นะ?

ทนายรักษ์ : เรื่องการโอน เนื่องจากบัญชีผมยกเลิกไปแล้ว

เขาเช็กสเตทเมนต์ให้เขาได้นะ ว่าใครโอนให้เขา?

ต้นอ้อ : เอาตามหลักความจริงนะ คุณไปช็อปขนาดนั้น คุณโอนเงินให้ผู้หญิงเลยก็ได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องโอนให้ผู้หญิง เพื่อให้ผู้หญิงโอนต่อ

ทนายรักษ์ : ผมไม่อยากมีชื่อในการโอนไง

ต้นอ้อ : ไม่เกี่ยว ถึงคุณยกเลิกบัญชีไปแล้ว แต่ถ้าน้องเอ้เช็กแล้วไม่มีเงินจากบัญชีคุณมาละคะ เดี๋ยวให้น้องเอ้ไปเช็กก็ได้ว่ามีเงินคุณโอนมาหรือเปล่า

ทนายรักษ์ : ตามสบายเลยครับ

ล้านกว่าบาท คืนเขาหรือยัง?

ทนายรักษ์ : พอเราคบหากัน 28 ส.ค. เราก็ศึกษากันมาเรื่อยๆ พอวันที่ 13 ม.ค. 65 ผมมีคดีอยู่คดีนึง ลูกความไม่มีเงินค่าทนาย แต่ลูกความจะขายบ้าน ผมเลยหานายทุนมาร่วมซื้อบ้าน 3.25 ล้าน ก็ให้น้องเอ้ไปติดต่อเพื่อลดราคา ในหุ้นส่วนจะมีพี่สาวผม ผม 6 แสน ขาดอีก 7.5 แสน น้องเอ้เขาเอาเงินมาลงทุน ก็งงว่าประเด็นนี้เป็นการยืมเงินได้ไง เพราะมันเป็นสัญญาร่วมกันลงทุน 3 คน ไม่ได้มีผมคนเดียว เป็นเงินลงทุนซื้อบ้าน นี่คือโฉนด เรียบร้อย แต่ลูกความเป็นคนขายให้ ก็เลยไม่สะดวกใจมีชื่ออยู่ในบ้านหลังนี้ เลยให้น้องเอ้ ซึ่งเป็นแฟนผมอยู่แล้ว ให้ใช้ชื่อเขาคนเดียว แต่เรา 3 คนรู้กัน เงิน 7.5 แสนก็เอาไปให้เจ้าของบ้าน

เขาบอกเอาเงิน 8 แสนให้คุณ เพราะคุณจะไปวิ่งคดี?

ทนายรักษ์ : วิ่งคดีผิดกฎหมาย ผมจะวิ่งทำไม แต่เป็นเงินไปซื้อบ้านด้วยกัน 3 คน

เอ้ : อันนี้คนละประเด็นค่ะ ถ้าประเด็น 8 แสน ถ้าเขามีสิทธิ์ในบ้านหลังนี้ ทนายถ้าซื้อเงินสดจริงต้องเป็นชื่อทนายแล้ว แต่นี่เป็นชื่อหนู 3 ปีแล้ว ทนายไม่ได้คัดค้าน บ้านหลังนี้ไม่ได้เกี่ยวกับทนาย

ทนายแก้ว  : จะบอกว่าคนละก้อนกัน

เอ้ : ใช่ค่ะ หนูให้เขาไปแล้ว หนูก็ไม่ทราบว่าเขาเอาเงินไปทำอะไร บ้านที่หนูเอาเงินไปซื้อในบ้านหลังนี้ 7 แสนกว่า

เงิน 8 แสนที่ให้เขาไปกับ 7.5 แสน ก้อนเดียวกันหรือเปล่า?

เอ้ : มันก้อนแรกค่ะ เหตุการณ์ซับซ้อน เพราะเขาเอาเงินจากหนูหลายครั้ง หนูจำไม่ได้จริงๆ

เขาบอกว่าเงิน 8 แสนไม่มีอยู่จริง แต่เป็นเงิน 7.5 แสนที่เอาไปซื้อบ้านร่วมกัน คุณจะแย้งมั้ยว่าเงินคนละก้อน หรือยังไง?

เอ้ : ถ้าซื้อบ้านร่วมกับเขา เขาต้องใส่ชื่อเขาอยู่แล้ว เพราะหลักทรัพย์ที่ซื้อด้วยกัน เขาจะใส่ชื่อเขา เงินที่เขาหามาได้ เขาไม่ให้เป็นชื่อหนูอยู่แล้ว

ทนายรักษ์ : ดูสัญญาซื้อบ้านครับ มีผมลงทุน 6 แสน ขายแล้ว 7 ล้านกว่า

เอ้ : ไม่ได้ขายค่ะ

ทนายรักษ์ : ยังไม่ได้ขาย การท่ามาซื้อ 7 ล้าน ผมก็ต้องมีส่วนแบ่ง พอเลิกราคุณก็ต้องแบ่ง ผมซื้อหุ้นของเขาคืน

เอ้ : คุณซื้อหุ้นอะไรคืนคะ ที่ผ่านมาคุณเอาเงินหนูไปตลอด มีพยานนะ ที่คุณไม่ได้เอามาคืนเป็นพี่ชายคุณเอง ในเงินก้อนนี้คุณไม่เคยคืนเงินหนูเลย คุณมีหลักฐานอะไร

ทนายรักษ์ : หลังเอาเงินไปลงทุนให้แก แกเอารถเข้าไฟแนนซ์ เพื่อได้เงิน 7.5 แสน แกไม่มีเงิน เดือนต่อมา ผมผ่อนค่ารถให้ทุกเดือน

ตกลงเงินก้อนเดียวกันหรือคนละก้อน?

เอ้ : คนละก้อนค่ะ เขาพูดในรายการว่าเอาเงินคืนหนูแล้ว แต่อีกเพจที่เขาไปให้สัมภาษณ์ว่าเขาได้โอนเงินให้หนู ก่อนหน้านี้บอกว่าคืนเงินให้หนูด้วยเงินสดค่ะ

ทนายแก้ว : คราวก่อนมีการโฟนอินในรายการบอกว่าได้คืนเป็นเงินสด

ต้นอ้อ : เขาเอารูปที่ผู้หญิงส่งมา บอกว่าเขาเอาเงินคืนเป็นเงินสด

ทนายรักษ์ : ภาพนี้เป็นภาพที่ผมโอนเงินให้เขาผ่านบัญชีธนาคาร ตอนแรกโอนเงิน 1 ล้านบาท เพื่อกดเงินมาถ่ายภาพ เวลาที่ได้รับโอนจากลูกความ ผมโอนให้เขา 1 ล้าน

19.22 น. คุณถอน 1 ล้าน แล้ว 19.30 น. โอนเข้า ห่างกันแค่ 9 นาที วันที่ 21 เดือน 11 2023?

ต้นอ้อ : แล้วเงินอยู่ไหน

ทนายแก้ว : สรุปเป็นเงินคนละก้อน แต่คุณบอกเป็นเงินก้อนเดียวกัน

ทนายรักษ์ : ตอนนั้นผมตัดสินใจว่าจะคบหากับน้องเอ้จริงจังแล้ว น้องเอ้ทำงานเป็นแคดดี้อยู่สนามกอล์ฟ ในภูเก็ต ผมก็สงสารเขา กลับมาทำงานหน้าแดงหน้าดำ มันร้อน ก็สงสารจะเอายังไงดี ผมบอกให้น้องออกจากงานเถอะ น้องบอกว่าน้องยังติดเรื่องรถอยู่ ผ่อนเดือนละ 2 หมื่นถ้าปิดหนี้ได้ ก็จะออกจากงานได้ ผมเลยเอาเงิน 7 แสนปิดรถให้น้องเขา พอปิดรถเสร็จก็โอนเข้า 7 แสน น้องก็ออกจากงานจริงๆ ตามสมประสงค์ที่ผมวางไว้

ต้นอ้อ : ตอบให้ตรงประเด็นก่อน เงิน 7.5 แสนกับเงิน 8 แสนคนละก้อน

ทนายรักษ์ : ก้อนเดียวกันครับ

ต้นอ้อ : แล้วที่คุณให้สัมภาษณ์โฟนอินว่าน้องให้มา 8 แสน แล้วคุณก็คืนเลย มีหลักฐานนะ ‘

คุณพูดเองว่าเป็นเงินที่ให้เขาไปปิดรถ?

ทนายรักษ์ : ก็ใช่ไงครับ โอนให้เขา 7 แสน ผิดตรงไหน

ทนายแก้ว : ถ้าเงิน 8 แสน เป็นเงินร่วมลงทุน ทำไมไม่พูดในรายการ ณ วันนั้น

ทนายรักษ์ : สัญญาณพี่แทบไม่ได้ยินเลย สัญญาณมันไม่ชัด ผมก็เดาไป

ต้นอ้อ : โอ้โห แก้ตัวแบบนี้เลยเหรอ

พี่กรณ์ ยังไง?

กรณ์ : ลึกๆ รายละเอียดเขาผมไม่ทราบ แต่ตอนเขาทะเลาะกัน ทั้งคู่มาคุยกับผม ผมถามว่าต้องการอะไร รักษ์บอกว่าต้องการรถกระบะสีส้มๆ คันนึง น้องเอ้บอกว่าต้องการให้ผมคุยกับรักษ์ ว่าให้โอนบ้าน ทำสัญญาโอนให้เขาเสีย เพราะเขาเป็นคนออกเงิน ส่วนเรื่องการปิดรถ ผมว่าผมฟังไม่ผิด เอ้บอกผมเองว่ารถคันนี้เขาได้มาก่อนอยู่กับทนายรักษ์ และเอารถไปเข้าไฟแนนซ์เพื่อเอาเงินออกมา เอามาให้ทนายรักษ์ ผมมองว่าไปซื้อบ้านหลังนี้แหละ เป็นหลังที่สนามบิน

ทนายแก้ว : วันที่ 13 ม.ค. 65

ทนายรักษ์ : อันนี้คือปิด ปีที่ผมได้ค่าเงินค่าทนายมา 2 ล้าน เขาไปซื้อคืนเลย ผมก็โพสต์ปกติ แล้วก็ไปลงประจำวันไว้ด้วย

อันนั้น 13 ม.ค.65 แต่นี่ 21 พ.ย.66?

ทนายรักษ์ : ไม่ใช่ อันนั้นเป็นวันปิด ตั้งแต่วันทำสัญญาถึงวันปิด ผมผ่อนให้เขาทุกเดือน เดือนละ 2 หมื่น เป็นค่าดูแล

เอ้ : ผ่อนเองนะคะ อัญชลีทั้งหมด ค่าผ่อนรถ หนูเก็บไว้เป็นหลักฐาน หนูผ่อนเองทุกเดือน ทนายรักษ์ไม่เคยผ่อนให้หนูนะคะ หนูแย้งได้ค่ะ

ทนายรักษ์ : เป็นชื่อเขาอยู่แล้วเวลาไปจ่าย แต่เงินใคร ปัญหาอยู่ตรงนั้น

ต้นอ้อ :  มีหลักฐานมั้ย มีหลักฐานการโอนมั้ย

ทนายรักษ์ : มีทุกอย่าง

ต้นอ้อ : เอามาดูสิคะ

ทนายรักษ์ : บางอย่างผมต้องใช้ในคดี ขอโทษด้วย

ต้นอ้อ : คุณอ้างแบบนี้ตลอดเลย

ทนายรักษ์ : นอกจากการโอนเงิน ผมก็มีโอนใช้จ่ายปกติ

เอ้ : อันนี้เยอะกว่านะ หลักฐานที่โอนช่วยคุณพ่อคุณแม่คุณทุกเดือน

ทนายรักษ์ : ผมโอนให้เขา แล้วให้เขาโอนให้พ่อแม่

ทำไมคุณไม่โอนเอง?

ทนายรักษ์ : ผมขี้เกียจ เขาเป็นเลขาฯ มีหน้าที่จัดการ ผมอยากให้เขาสนิทกับพ่อแม่ และต้องโทรบอกด้วย ว่าวันนี้โอนให้แล้วนะ

พ่อแม่จะได้รักผู้หญิงคนนี้?

เอ้ :   หล่อมากเลย

ทนายรักษ์ : เราอยากให้เขามีสายสัมพันธ์ที่ดีกันในครอบครัว

คุณบอกพ่อแม่ได้มั้ยว่าเงินที่เมียหามาให้?

ทนายรักษ์ : ไม่ได้ ให้เมียโอนให้ดีกว่า เขาก็รู้สึกดี ได้รับเงินจากแฟนเรา

ไม่เหนือชั้นไปหน่อยเหรอ?

ทนายรักษ์ : เป็นปกติของผมครับ

ทนายแก้ว : เงิน 8 แสน ถ้าเอาลงมาหุ้นส่วนกันจริงๆ ทำไมวันนั้นที่โฟนอิน ไม่ได้ยินเสียงเลยเหรอ

ทนายรักษ์ : ไม่ได้ยินเลยครับ ผมได้ยินพี่หนุ่มพูดแค่เงิน 8 แสน ผมก็บอกว่าผมคืนเขาไปหมดแล้ว เสียงปลายสายเบามาก แต่พอไปสัมภาษณ์โหดจังที่ภูเก็ต ผมพูดชัดเจนนะว่าตัวนี้เป็นสัญญา แสดงว่าคุณต้องมีเงิน 1.5 ล้าน คุณโชว์บัญชีสิว่ามีเงินในบัญชี 1.5 ล้าน

เอ้ : เอาไปดูเลยค่ะ คัดมาให้แล้วค่ะ

ทนายรักษ์ : ณ วันที่ผมโอนเงินให้คุณดูสิว่ามีเงินถึงหมื่นมั้ย

เอ้ :  ตั้งแต่รู้จักกับคุณ คุณเอาไปดูเลยค่ะ ว่ามีเงินในบัญชีกี่ล้าน

ข้อเท็จจริงต่างกันตรงนี้ ตอนนั้นคุณคบหากัน คุณเอ้อ้างว่าทนายรักษ์ขอเงิน 8 แสนวิ่งคดี เธอเลยเอารถไปจำนอง เพื่อเอาเงินออกมาให้ทนายรักษ์ พอจบกัน เธอมีการทวงเงิน ทนายรักษ์บอกว่าให้โดยเสน่หา คืนไปแล้ว แต่ละครั้งที่พูดมา มันต่างกัน คุณต้องยอมรับอย่างนึงนะ?

ทนายรักษ์ : ไม่ๆ ของผมครั้งที่สัมภาษณ์มันมีความผิดพลาด

ผิดพลาดก็ผิดพลาด แต่ผมพูดในมุมที่ผมได้ยินแล้วกัน ที่บอกว่าคืนแล้วเป็นการผิดพลาด ได้ยินไม่ชัด?

ทนายรักษ์ : คืนแล้ว แต่ยอดเงินไม่ตรงกัน

คุณพูดว่าให้เขาโดยเสน่หา?

ทนายรักษ์ : พูดตอนไหน

เอ้ : พูดตลอด

ทนายรักษ์ : ไม่มีหลักฐาน

ต้นอ้อ : ขนาดมีหลักฐานคุณยังไม่ยอมรับเลย

ทนายรักษ์บอกว่าเงิน 8 แสนกับ 7.5 แสนคือก้อนเดียวกัน แต่เอ้บอกว่าคนละก้อน?

ทนายรักษ์ : มันจะมีคนนึงโกหกแหละครับ

เอ้ : เรามีการทำงานร่วมกัน ทนายรักษ์เป็นทนาย หนูก็เป็นล่าม ประสานงานต่างชาติ ทนายรักษ์เคยพูดในโหดจัง ว่าทนายรักษ์ทำงานกับต่างชาติ แต่ทนายไม่ได้ภาษา หนูเป็นคนติดต่อ มีแชตกับลูกความต่างชาติทุกคน หนูเป็นคนรับงาน คุยงาน ปิดจ๊อบงาน และเป็นล่ามในศาลด้วย มีรายได้ในส่วนนี้ แต่ทนายรักษ์รับเงินไป ขอเอาไปโพสต์โชว์ก่อนนะพี่ซื้อนั่นซื้อนี่แต่หนูไม่เคยได้รับในส่วนนั้นค่ะ บางทีแบ่งเงินกันแล้วเรียบร้อย หนูเอาไปซื้อของ ก็เอาไปโพสต์ว่าซื้อให้หนู ไปบอกคนนั้นคนนี้ ทั้งที่เป็นเงินหนู เป็นเงินที่หนูทำงาน

ทนายแก้ว : ตกลงแบ่งกันยังไงตอนเป็นพาร์ตเนอร์

เอ้ : แบ่งเงินคนละครึ่ง ทีแรกบอกให้หนูเก็บ แต่ตอนหลังบอกคนละครึ่ง ก็โอเค คนละครึ่งก็คนละครึ่ง มันเป็นการทำงานของหนู

คุณคบซ้อน ผู้หญิง 6 คน เขาจับได้ เขาเลยเลิกกับคุณ แต่คุณบอกว่า?

ทนายรักษ์ : มากกว่านั้น 13 คนครับ

มีเขาด้วย เขารับรู้ด้วยมั้ย?

ทนายรักษ์ : รู้ตลอด

เอ้ : ไม่รู้ค่ะ

ทนายรักษ์ : มีสาวๆ ทักแชตมาเต็มเลย

ทักมาบอกว่า?

เอ้ :   เขาทักมาบอกหนูว่าเขาเห็นทนายโพสต์รูปกับหนู เขาถามว่าหนูเป็นใครกับทนาย ก็บอกว่าคบหากัน น้องเขาก็บอกว่าทักมาหาหนูไม่มีแฟน นัดไปกินข้าว ไปสัญญากับเขาด้วย ว่าเป็นแฟนพี่ให้ออกจากงานนะ พี่จะโอนให้ 2 แสน

นอนกันด้วย แล้วผู้หญิงบอกว่าไง?

เอ้ : เขาบอกว่าไม่ยอมใส่ถุงยาง มั่วมากเลย ส่งมาเต็มไปหมดเลยค่ะ

เขาว่าแบบนั้น?

ทนายรักษ์ : ครับ มันมีจริงบ้างและไม่จริงบ้าง

13 เลยเหรอ?

ทนายรักษ์ :   (หัวเราะ)

เป็นทนายดังอยู่ภูเก็ต?

ทนายรักษ์ : คนรู้จักก็เยอะอยู่ครับ ดังมั้ยไม่รู้

เขาบอกเขาเลิกเพราะคุณเจ้าชู้?

ทนายรักษ์ : เขาบอกในรายการว่าเขาเลิกกับผมปี 67 นี่คือแอปฯ ไลน์เขา อ่านเลยครับ

ง่วงนอนมาก ใกล้กลับแล้วค่ะ แวะกินขนมจีนบ้านพี่ศรีก่อน?

ทนายรักษ์ : เขาอยู่กับผมตลอดเวลา เขาอยู่บ้านผมตลอดเวลา

29 ธ.ค. 2024 เขาถ่ายภาพคุณทำไม?

ทนายรักษ์ : เขาคิดว่าผมมาหาเด็ก แต่ไม่มีอะไรหรอก เขาพาผมไปตรวจเอดส์

เขาไม่มั่นใจ?

ทนายรักษ์ : เขาบอกถ้าจะมีอะไรกับเขา เขาไม่มั่นใจ ปีที่แล้ว ก่อนฟ้องร้องคดีกัน

นายวุธ นั่งอยู่กับคุณ รอยสักคุณไปไหน?

ทนายรักษ์ : ของปลอมครับ ผมไม่มีรอยสัก ผมติดรอยสัก (หัวเราะ)

คุณคุยกับเขา 31 ธ.ค. 2024?

เอ้ : ไม่จริงค่ะ หนูไม่ได้อยู่กับเขา

เอาไลน์มาดูสดๆ เลย?

ทนายรักษ์ : เขาอาจเปลี่ยนไลน์แล้ว เพื่อหลบเลี่ยงคดี

เขาต้องการให้เห็นไทม์ไลน์ว่าคุณอยู่กับเขาตลอด?

เอ้ : ไม่ค่ะ

คุณให้แค่หัวมา แต่ผมเลื่อนไปดูข้างล่าง ขอโทษที่เสื-กนะ ผู้หญิงตอบว่าเอาไปเลย ที่ผ่านมาทำงานกับพี่ไมได้อะไรเลย ให้ยังยาก ให้ชู้คนอื่น เปย์ได้ อี ด. ใช้จ่ายอย่างสบายมือ ไม่สนค่ะตอนนี้?

เอ้ : ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว คุยอยากถามเงินคืน

เขาบอกว่าพอเถอะ พี่ทำร้ายร่างกายหนูมีแผลเต็มไปหมด?

ทนายรักษ์ : ดูวันที่

31 ธ.ค. ก็วันเดียวกัน?

ทนายรักษ์ : ตอนค่ำ ดูเวลาสิ

เขาบอกคุณกระทืบท้อง ใส่รองเท้านะ จิตใจทำด้วยอะไร คุณบอกไปแจ้งความสิ?

ทนายรักษ์ : เขาอยู่กับทางทนาย เขาไปพูดในศาลว่าไลน์นี่เป็นไลน์ปลอม แต่ตอนนี้แกรับแล้วนะ ว่าเป็นไลน์แก

ทนายแก้ว : คุณต้องการบอกว่าคุณอยู่ด้วยกัน แต่บทสนทนาต่อๆ มาไม่ได้เป็นแบบนั้นนี่

ทนายรักษ์ : ปัจจุบันนี้ การแจ้งความดำเนินคดีใครก็พอทราบ ว่าแจ้งได้หมด แต่ต้องส่งตัวไปตรวจที่รพ. แพทย์จะยืนยันว่าเป็นบาดแผลที่เกิดจากการทำร้ายมั้ย ถูกต้องมั้ยครับ ปัจจุบันนี้ฟ้องเป็น 10 คดีแล้ว ผมไม่เคยมีถูกฟ้องทำร้ายร่างกายใคร แม้แต่คดีเดียว

ต้นอ้อ : แล้วคุณทำร้ายร่างกายเขาจริงมั้ย

ทนายรักษ์ : ไม่ได้ทำ

ต้นอ้อ : แน่ใจ

ทนายรักษ์ : แน่ใจ

 

ต้นอ้อ : มีพยานยืนยันนะว่าคุณเคยทำร้ายเขา

ทนายรักษ์ : ผมก็มีพยานยืนยันเหมือนกัน ว่าเขาทำร้ายผม

เอ้ : ไม่เคยทำร้ายค่ะ

ทนายรักษ์ : เขาว่าผมเข้าการเมืองได้เพราะเขาใช่มั้ย ผมลงสมัคร สท. พรรคการเมืองนึง วันที่ 10 มี.ค. เป็นวันแรกที่เขาทำกิจกรรมกับผม 11 พ.ย.

เขาฝากคุณเข้าไป?

ทนายรักษ์ : ผมอยู่มาก่อนแล้ว ผมสมัครเลือกตั้งกว่าจะได้ลงตั้งนาน

เอ้ : หนูเป็นคนคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. นี่เป็นพรรคแรก หนูไม่ได้คัด หนูเป็นเหรัญญิกพรรคนี้ เป็นเหรัญญิกให้ส.ส. 2 เขต พอมาคัดเลือกพรรคที่สองค่ะ หนูเป็นคนติดต่อหัวหน้าพรรคค่ะ

ทนายรักษ์ : ผมพาเขาเข้าไปทำงานในพรรค

พรรคที่สองคุณตามเขาไป?

ทนายรักษ์ : ไม่ใช่ ตอนนั้นผมมีพิพาทอยู่ในพรรค ผมฟ้องร้องหัวหน้าพรรคในจังหวัด พอฟ้องร้องเสร็จผมก็ออกมา พอออกมาก็เป็นเรื่องส.ส.ภายใน ไม่อยากพูด ผมย้ายไปอยู่อีกพรรค เขาให้ผมดูแลในจังหวัด เลยบอกว่าเอาแฟนเราเป็นหัวหน้าดีกว่า

เอ้ : ไม่จริงค่ะ เป็นการคัดเลือกจากชุมชน และผู้ใหญ่ค่ะ มีผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่ออีกคนนั่งอยู่ในนี้ด้วย ที่หนูเป็นคนเคาะให้เขาค่ะ

ทนายแก้ว : ขออย่าง คุณตอบให้สิ้นสงสัยทีละเรื่องได้มั้ย

ทนายรักษ์มีคนเดียวที่เอาลง ต้องเรียกทนายธรรมราชมาคุย ผมจะฟ้องทนายธรรมราชให้มาจัดการคุณ?

ทนายรักษ์ : (หัวเราะ)

ทนายความดูหลายคน ทนายเกิดผล ทนายรัชพล ตามติดชีวิตเด็กนิติฯ ก็ดู ทนายเจมส์ก็ดูอยู่ หลายคนเลย ทุกคนชื่นชม?

ทนายรักษ์ : ไม่เป็นไร (หัวเราะ)

ทนายแก้ว : หลักฐานบางอย่าง หรือข้อมูลบางอย่าง คุณรู้อยู่แล้วว่าต้องออกรายการ คุณก็ต้องมาโต้แย้ง หักล้างกันอยู่แล้ว ทำไมไม่เตรียมมา เหมือนสเตทเมนต์ที่คุณจ่ายค่างวดรถให้เขา เงิน 8 แสน

ทนายรักษ์ : เรื่องพวกนี้จะมีคดีในศาลอย่างแน่นอน

ทนายแก้ว : อยากให้หักล้าง ตอบทีละประเด็น มันยังคาอยู่

ทนายรักษ์ : ในศาลเราจะใช้หลักฐานแค่ไหน เราก็ฟ้องแค่นั้น

ทนายแก้ว : คุณบอกเขาอยู่กินกับคุณไม่ได้จดทะเบียน คุณเลี้ยงดูเขา ส่งให้เงินเขา

ทนายรักษ์ : อันนี้เป็นคำพูดที่เพิ่งเกิดขึ้นวันนี้ ไม่เกี่ยวกับประเด็นที่ผมเตรียมมา

ทนายแก้ว : สัปดาห์ที่แล้ว คุณบอกให้เงินค่าทำผม สระผม

ทนายรักษ์ : ยิบย่อย มีเป็นการให้

 ทางนี้เขายืนยันว่าเขาเลิกกับคุณก่อน?

ทนายรักษ์ : เขาบอกต.ค.เลิก แต่มีภาพถ่ายไปช้อปปิ้งกับเขา

2 ต.ค. ยังโอบกอดกันอยู่?

เอ้ : วันที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เอไอดัดแปลงตัดต่อได้หมด

ต้นอ้อ : ขอดูรูปต้นฉบับ มันมีวันที่

คุณจะยืนยันว่าเป็นแฟนเขาอยู่ช่วงต.ค.?

ทนายรักษ์ : ต.ค.-ธ.ค. ส่วน ม.ค.ทะเลาะกันจบ โอนเงินให้หลังม.ค. ไปกินข้าวกับเพื่อนผม น้องไม่มีเงิน มีไม่ถึงพัน ผมเลยโอนให้พันนึง

เอ้ : มีไม่ถึงพันยังไง หนูทำอสังหาฯ เพิ่งได้เงินมา เป็นจำนวนมากพอสมควร ทำไมจะไม่มีเงินหลักพัน อันนี้สร้างข้อมูลเท็จค่ะ แล้วให้ค่าทำผมหนู 1,500 ค่าทำผมหนู 4 พันนะคะ เมื่อกี้ที่พูดว่าวันนี้หนูได้ทะเลาะกัน มีบาดแผล กับวันนี้ตรงกัน

ทนายรักษ์ : สรุปว่าคุณยอมรับว่าไม่เลิกกันไง

เอ้ : ไม่ใช่ค่ะ ไม่ได้ยอมรับ อันนี้เลิกกันไปแล้ว ภาพนี้มาได้ยังไง เอามาจากไหน

ทนายรักษ์ : มีภาพนอนกอดกัน

เอ้ : ไม่ใช่ค่ะ

ทนายรักษ์ :   31 คืนนั้นทะเลาะกัน เขาจะไปกินข้าร้านนี้ ผมจะไปอีกร้าน ทะเลาะกันแค่นั้น

จะบอกว่าหลักฐานที่เอามาปลอม?

เอ้ : หนูอยู่กับน้องค่ะ น้องตกใจมากเลย

ทนายรักษ์ : ดูหลักฐานวิทยาศาสตร์ครับ

เอ้ : หนูอยู่กับน้องสาว ผู้ช่วยพยาบาล อยู่รพ.มิทชั่นค่ะ วันนั้นหนูตอบไม่ชัดเจนในรายการ น้องเขาส่งภาพถ่ายพร้อมวันมาค่ะ เอาเป็นว่าหนูขอยืนยันว่าไม่ได้อยู่ด้วย หนูไปกินข้าวต้มกับรุ่นพี่ด้วยค่ะ

ทนายรักษ์ : อันนันไม่ใช่ปัญหา แต่เวลา 08.26 น. คุณนอนกอดผมอยู่

เอ้ : ไม่จริงค่ะ

ทนายรักษ์ : กล้องถ่ายรูปมันหลอกกันได้ด้วยเหรอ

จะคบก่อนคบหลังมันช่วยอะไร?

ทนายรักษ์ : ที่เขาบอกว่าเลิกผมตอนเดือนต.ค. แต่จริงๆ ผมไม่ได้เลิกเลย

กรณ์ : ตอนต้นม.ค. ผมยังเรียกทั้งคู่ไปกินเหล้าบ้านผม ผมยังนำร่องให้เองว่าตกลงแต่งงานกันซะ จะได้ไม่ทะเลาะกัน ยังตกลงเรียกสินสอด 5 แสน ยังคุยคืนนั้นบ้านผม ต้นม.ค.นี่แหละ ปีนี้ น่าจะราวๆ ก่อน 10 ม.ค. เอ้บอกว่าพี่รักษ์โอนเงินเข้าบัญชีหนู 2 แสนก่อน แต่ไอ้นี่ก็ไม่ได้โอนไป ถามว่าเลิกยัง ก็ทะเลาะกัน แยกกันอยู่ แต่ถ้าให้เลิกจริงๆ ม.ค.68 คงขาดแล้ว

เอ้ : พี่กรณ์นัดหนูไปให้เคลียร์ หนูไม่รู้ว่าพี่กรณ์นัดทนายรักษ์จะมาวันนั้น หนูมีห้องอยู่แล้ว หนูย้ายไปอยู่ห้องนั้นที่เช่าไว้เป็นปี โดยที่ทนายรักษ์ตามคุกคามหนู หนูอยู่ไม่ได้ ช่วงต.ค.ก็ย้ายมาอยู่กับพี่สาวอีกคน พอพ.ย. เขาคุกคามรุนแรงมาก หนูเปลี่ยนเบอร์ บล็อกเบอร์ เขาโทรรังควาน จ้างคนติดตามหนู ที่หนักๆ คือพ.ย. ธ.ค.

แต่ประเด็นหลักคุณทำร้ายร่างกายเขาจริงมั้ย?

ทนายรักษ์ : ผมไม่เคยทำร้ายร่างกายเขาก่อน แต่เขาหยิบมีดไล่ฟันผม ผมไม่ได้ป้องกันตัว ผมชี้หน้าให้หยุดมันก็หยุด ฟันข้าวของเสียหายทั้งบ้าน พยานมีเยอะแยะ กำนันก็เป็นพยานได้ ขณะเขาเอามีดมาไล่แทงผม เขาก็เอามีดไล่แทงคนอื่นอีก เอาขวดไวน์ไล่แทงน้องเขา

เอ้ :   อันนี้เท็จนะคะ หนูจะไปทำอะไรเขาได้ หนูไม่เคยไล่แทงเขา มีแต่เขาติดตามหนู มีนะคะ เป็นการง้อให้หนูกลับไป

น้องกลับมาเถอะนะ จะเอาอะไรยอมทุกอย่าง จะเป็นแฟนที่ดี พี่ได้ทุกอย่างเพราะน้องช่วยส่งเสริมพี่ น้องเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดในชีวิตแล้ว อยู่ใกล้ๆ พี่ก็รุ่งเรืองจนคนอิจฉา พี่ไม่เคยง้อใคร พี่มาเฝ้าทุกวัน?

ทนายรักษ์ : อันนี้ใช้ในศาล เป็นข้อความที่ไม่ระบุชื่อ

กรณ์ : ไอ้นี่ปากไม่ตรงกับใจ ปากบอกว่าเลิก ทะเลาะกัน แต่เอาดอกไม้ไปวางหน้ารถ

ทนายรักษ์ : เขารู้ว่าผมเส้นสายเยอะ คอนโดที่เขาอยู่ ผมก็เคยอยู่ เขาถ่ายมุมเดียวกัน ผมรู้เลยคอนโดไหน

เอ้ : คุณอย่ามั่วค่ะ หนูไม่เคยอยู่กับคุณ

ทนายแก้ว : เหตุการณ์ง้อคือหลังเอาขวดไวน์ไล่แทงหรือยังไง

ทนายรักษ์ : แทงหลายปีแล้วครับ

จริงมั้ยเขาจ้างวุฒิไปตามล่าคุณเอ้?

วุฒิ : จริงครับ จ้างน้องผมครับ

เก่ง : จริงครับ คุณทนายทักมาว่าว่างมั้ย ให้ไปติดตามพี่เอ้ เขาบอกพิกัด สถานที่ ให้ผมไปดูว่าพี่เอ้อยู่ที่นั่นจริงมั้ย สองครั้งแรกผมก็ไม่รู้ว่าเพื่ออะไรครับ พอครั้งที่สาม ก็สั่งแบบนั้นอีกครับ ผมไปที่เขาบอก แกก็บอกว่าถ้าเจอพี่เอ้อยู่กับผู้ชาย ก็ให้ทำร้ายเลย ให้ทำร้ายผู้ชายหรือพี่เอ้ก็ได้ ผมเลยรู้สึกว่าไม่เหมือนที่คุยกัน ก็บอกพี่วุฒิก่อนว่าผมไม่ทำ

วุฒิ : ผมเห็นน้องบอกว่าจะให้อุ้มขึ้นรถยนต์ด้วย ผมก็บอกมันว่าอย่าทำอะไรเด็ดขาด น้องเขาถ่ายรูปแล้วก็กลับมาเลย

เก่ง : ผมเลยบอกทนายว่าไม่เจอพี่เอ้

ทนายไม่พอใจพี่เอ้มากเหรอ?

วุฒิ : พี่เอ้เลิกกับเขาครับ เขาแค้นครับ พี่เอ้รู้ความลับเยอะ เช่นเรื่องคดี ตามโรงแรม ที่ทนายรักษ์มีปัญหาเมื่อก่อน

ทนายให้คุณทำงานให้ไม่ใช่เหรอ?

วุฒิ : ผมทำงานให้เขา แต่เขาไม่ให้เงินผม น้องๆ ผมก็ไม่มีเงินใช้กัน ผมก็ปล่อยไว้ พอมาช่วงพีกสุดคือวันที่ผมไปเอาเหล็กหลังคาเมทัลชีส เขาไม่ให้ เขาน่าจะโกรธที่ผมห้ามน้องไม่ให้อุ้ม ผมระเบิดเลย แยกกับมันเลย

คุณด่าเขามั้ย?

วุฒิ : ด่าครับ แต่ไม่ได้ด่าแบบหยาบๆ ผมพิมพ์ไปก่อนว่าจากนี้เราตัดขาดกัน

มีข้อความอันนึง 22 ธ.ค.ปีที่แล้ว คุณส่งข้อความหาเขามั้ย พี่รักษ์พี่ช่วยผมหน่อยครับ ผมจำได้พี่จะให้ผมตั้งตัวสักก้อน ตอนนี้ผมต้องซื้อวัสดุอุปกรณ์ทำบ้าน ทนายก็บอกว่ารองบ?

ทนายรักษ์ : เขาขอสังกะสีอะไรไม่รู้ เพราะผมเมา ตอนเขามาขอยังเป็นหลังคาบ้านอยู่ บ้านผมยังไม่รื้อสังกะสี ถ้าคุณมาเอาตอนนั้น บ้านผมก็ไม่มีหลังคา

วุฒิ : ผมขอแค่แผ่นสองแผ่น แต่มันไม่ให้

ตอนแรกเรียกพี่ ตอนนี้เรียกมันแล้วเหรอ?

วุฒิ : มันขี้โม้เกิน เจอข้างนอกผมเขกหัวตายเลย เxดแxม

ทนายรักษ์ : นายวุฒิตอนแรกทำงานกับผม แล้วนายวุฒิสังเกตเห็นความผิดปกติ ผมกินเบียร์กระป๋องเดียวก็หลับแล้ว ก็คิดว่าคุณเอ้ วางยาผมหรือเปล่า พอนายวุฒิแจ้งผม ไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก

เหลือเชื่อผู้หญิงคนเดียววางหมากตั้งแต่ต้น ถ้าไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยวพันกัน รุ่งกว่าคนอื่นอีก เพราะมีทีมที่แข็งแกร่ง ไม่มีใครกล้าวัด เริ่มใหม่ไม่สาย น้องๆ ทุกคนรอพี่อยู่  งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ชีวิตย่ำแย่มากแล้ว ขอให้ทุกคนแยกย้ายไปดำเนินชีวิตตัวเอง?

ทนายรักษ์ : ผมเมาหลับ วุฒิมาบอกว่าเมื่อคืนคุณเอ้ออกไปข้างนอกกับผู้ชาย

วุฒิ : มันแต่งเรื่องไอ้ตัวนี้

เอ้ : การละครมากเลย แต่งเรื่องเป็นตุเป็นตะ

ทนายรักษ์ : เขากินส้มตำแล้วท้องเสีย

เอ้ : ไม่เกี่ยวค่ะ แต่งเรื่องค่ะ

ทนายรักษ์ : เขาไปรพ. แม่บ้านส่งมาบอกว่าคุณนายไม่มารพ. แล้วคุณนายไปไหน

เอ้ : อะไรคะ หนูไม่ได้ไปกับแม่บ้าน พ่อบ้านคุณเลยค่ะ มันนอกประเด็นมั้ยคะ

วุฒิ : วันนั้นพี่เอ้แกไปรพ.จริง แกปวดท้อง แต่เรื่องบอกว่าผมไปบอกว่าแกไปข้างนอกไปกับใคร ไอ้นี่ขี้โม

ทนายรักษ์ : สาบานมั้ย ถ้าไม่ได้พูดให้ตายพรุ่งนี้เลย

วุฒิ : สาบานเลย

ทนายรักษ์ : ผมยังปกป้องเต็มที่ ว่าแฟนผมจะวางยาผมทำไม

เอ้ : พอเถอะคุณทนาย

ทนายรักษ์ : เขาโพสต์ด่าแฟนผม

วุฒิ : ผมไม่ได้ด่าพี่เอ้ มันเป็นเพื่อนของผมอีกคนนึง ไอ้นี่คิดว่าผมไปด่าพี่เอ้

ทนายรักษ์ : วันเดียวกัน เขามาเตือนผม

วุฒิ : มันไปเอาอีกเรื่องนึง มารวมอีกเรื่องนึง ผมไม่อยากจะอยู่กับเขาแล้ว มันไม่ให้เงินผม

เจอข้างนอกเขกหัวมั้ย?

วุฒิ : เดี๋ยวสังคมจัดการเอง ไอ้คนแบบนี้

ทนายรักษ์ : เขาจ้างเก่งไปเท่าไหร่ ให้ไปอุ้ม

เก่ง : เที่ยวละ 3 พัน ให้ตามไปดูก่อนตอนแรก เขาให้เงิน ไปกัน 2 คน ไปดูว่าอยู่หรือไม่อยู่แค่นั้น พอรอบหลังเขาบอกให้ทำร้าย หรือฉุดกระชากขึ้นรถเลย

ทนายรักษ์ : เดี๋ยวผมฟ้อง คุณหมิ่นประมาทผม ผมไม่เคยสั่งแบบนี้

เก่ง :  เจอพวกผมที่ศาลวิ่งเหมือนหมา

ทนายรักษ์ : แล้วผมจะไปกลัวอะไรคุณ

วุฒิ : ไปบอกตร.ว่าผมไปถ่ายรูปมัน ตร.เดินมาหาผม

ทนายแก้ว : เขาบอกว่าพอรักษ์เห็นเขา วิ่งหนีเขาขึ้นรถ วิ่งหนีเหมือนหมา

ทนายรักษ์ : ลูกความผมเยอะ เขานั่งรออยู่

 ตกลงคุณเลิกกัน?

ทนายรักษ์ : 19 ม.ค.

เอ้ : 19 ม.ค.อะไรคะ ทางแชตน้องคุณให้น้องไปติดตามตั้งแต่ 13 พ.ค.

ทนายรักษ์ : เป็นเรื่องใหญ่โตแล้วที่จังหวัดภูเก็ต ผมไปร้องเรียนผกก. มีพฤติกรรมคบชู้

คุณบอกว่าเขามีชู้กับตร.?

ทนายรักษ์ : ตร.นั้นมาคบกับเขา ผมมีหลักฐานส่งตร.ภาค 8 เขาดำเนินการแล้ว

ต้นอ้อ : ไม่เอาหลักฐานมาเปิดหน่อยเหรอ คุณบอกว่าคุณออกโหนกระแสแล้วจะเอาหลักฐานมาเปิด คลิปที่คุณบอกว่าเอ้ขึ้นโรงแรมกับรองผกก.

คุณเห็นรถผู้หญิงเปิดอยู่ เห็นแล้วตกใจ เห็นผู้หญิงคนนี้แนบชิดกับพ.ต.ท.ท่านนั้น ก็เดินไปสอบถาม ต่างฝ่ายต่างเดินหนี ก็เลยถ่ายรูปปิดบังใบหน้า ต่อมามีพลเมืองดี ส่งแชตที่ผู้หญิงคนนี้คุยกับพ.ต.ท.คนนี้ ไปหลับนอนด้วยกัน มีเพศสัมพันธ์กัน เวลาที่ห่างกับข้าพเจ้า 1 วัน?

ทนายรักษ์ :   ร้องแล้ว รับเรื่องแล้ว ตั้งกรรมการสอบแล้วด้วย

เอ้ : น้องสองคนนี้ติดตามหนูเดือนพ.ค. ปีที่แล้ว หนูจะไปเป็นชู้กับคุณได้ไง  แล้วคัดสถานะมาให้ดูนะคะ สถานะโสด หนูไม่เคยแต่งงาน หรือมีทะเบียนสมรส หาว่าหนูเป็นชู้ได้ไง

ทนายแก้ว : ถ้าไม่จดทะเบียนสมรสเรียกว่าชู้ไม่ได้

ทนายรักษ์ : ดูคำฟ้องมั้ย เขาฟ้องว่าเขาเป็นเมียผม งงมั้ย

ทนายแก้ว : การฟ้องมันคนละฐานกัน คุณอย่าเอามาโยงเรื่องเดียวกันสิ อันนั้นเขาฟ้องติดตามทรัพย์สิน

ทนายรักษ์ : ในคำฟ้องเขาบรรยายว่าเขาคบกับผม 8 ปี อยู่กินกันมาตลอด

ทนายแก้ว : เวลาคุณจะฟ้องหญิงชู้ ชายชู้ ต้องมีจดทะเบียนสมรส คุณก็ทราบนี่

ทนายรักษ์ : ผมไม่ได้ฟ้องชู้ ผมไปฟ้องข้าราชการที่มายุ่งเกี่ยวกับเขา

เอ้ : แล้วร้องทุกคนค่ะ

เพื่อนเขาที่เป็นครูคุณก็ฟ้อง?

ทนายรักษ์ : มีลูกความมาจ้าง เห็นว่าผมกับคนนี้น่าจะไม่ชอบกัน ก็ส่งเรื่องทุจริตในองค์กรมาให้ผมทำ ผมเลยพิมพ์คำร้องไปที่ปปช. ปปช.เขาสั่งนะครับ  ปปช. ไม่ได้ปัดตกนะ

ทนายแก้ว : คดีอยู่ระหว่างพิจารณาหรือเปล่า อย่าเพิ่งเอาเข้ามาเลย

ทนายรักษ์ : ผมฟ้องให้เขาคืนรถฟอร์ดให้ผม เขาเลยมาฟ้องผมว่ายักยอกทรัพย์ ผมก็ฟ้องกลับ ว่าฟ้องเท็จ เขาตกใจก็มาถอนฟ้องในคดีที่ผมฟ้องกลับ

 

เอ้ : ทนายท่านนี้ชอบโพสต์ว่าชนะคดีหมดแล้ว ให้สังคมเข้าใจผิด แต่คดีอยู่ระหว่างพิจารณา

วุฒิ : เขามีทีม หวาน เปิ้ล ช่วยกันโพสต์ก่อกวน บอกว่าชนะคดีแล้ว

ต้นอ้อ : จะมีผู้หญิงสองคน คอยโพสต์อวยทนาย และโพสต์แซะทางนี้

เอ้ : ทนายหนู ตอนนี้โดนทนายท่านนี้ร้องเรียน ใครเข้ามาช่วยหนู ทนายร้องเรียนหมดเลยค่ะ เช็กได้ทางภูเก็ตค่ะ

ทนายรักษ์ : ด้วยความทนายเก็บอารมณ์ไม่อยู่ พูดหยาบเกินในศาล เขาก็เลยหลุดว่ากูจะยิงมึงให้ตายในศาล ถามว่าศาลจะดำเนินคดีกับคุณมั้ย ตอนนั้นผมเป็นพยาน ศาลเลยสั่งดำเนินฐานละเมิดอำนาจศาล ศาลดำเนินคดีเอง ศาลมีคำสั่งมาแล้ว ตำหนิอย่างร้ายแรง เมื่อวานทนายเขาก็หลุดอีก

เอ้ : ไม่จริงค่ะ

ทนายเอ้ : มีการโวยวายแต่ไม่ถึงขั้นนั้น ที่บอกว่าจะยิงให้ตาย ไม่ใช่คำพูดนั้น

ทนายรักษ์ : ก็ศาลสั่งมาแล้ว

ทนายเอ้ : คัดมาหรือยัง

ทนายแก้ว : ให้พูดตรงๆ มั่วไปหมดแล้ว

ทนายรักษ์ : ทุกอย่างเสนอในศาลหมด เรื่องบ้าน เรื่องรถ เรื่องหมิ่นประมาท ผมก็ฟ้อง แค่ใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย

ทนายแก้ว : ทำไมไม่มองต้นเหตุของมัน

ทนายรักษ์ : รถผมจ่ายซื้อเงินสด ผมบอกว่าให้น้องเอ้ไปโอนรถให้หน่อยนะ รถเขาตาม แต่น้องเอ้บอกว่าไม่ว่างเลย ถ้าโอนก็เสร็จ

เอ้ : หยุดๆ ค่ะ ขอร้องเถอะ ไหว้ล่ะ พูดความจริงมาสักเรื่อง รถเป็นชื่อหนู

ทนายรักษ์ : แล้วคุณซื้อมั้ย

เอ้ : เงินที่ได้ ได้มาจากการทำงานร่วมกัน

ทนายรักษ์ : เมื่อกี้คุณบอกว่าคุณทำงานกับผม แล้วไม่ได้อะไรเลย ได้จากคดีไหน

เอ้ : คดีผู้ใหญ่ที่เอ่ยนามไม่ได้ รถคันนี้ได้มาจากการทำคดีโรงแรมที่นึง ได้มา 3 แสนกว่า รถคันนี้เป็นรถกระบะ หนูทำอสังหาฯ ใช้ในการทำงาน

วันนี้ธงต้องการอะไร?

เอ้ : ต้องการประเด็นที่ว่าหนูถูกทำร้ายมาตลอด ถูกคุกคาม ที่เขาบอกว่าไม่เคยทำร้ายหนู ตีหนู แล้วแผลที่ร่างกายหนู มันเกิดขึ้นได้ยังไง

คุณทำมั้ย?

ทนายรักษ์ : ไม่ได้ทำครับ เขาหกล้ม

เอ้ : หนูล้มแล้วมาเตะหนูซ้ำเพราะหนูไม่ขึ้นรถ มีการต่อสู้กันค่ะ

ทนายรักษ์ : ภาพนี้เขาไปทำจมูก

แต่หัวโนนะ?

พยาน : โห พี่อยู่ในเหตุการณ์ กระชากผม ด่าทอหยาบคายมาก อีนั่นอีนี่ จนเรารับไม่ได้

รักษ์ถือไม้ทำไม?

ทนายรักษ์ : มันตั้งไว้ข้างรถเขา มีตะปู ก็เอาไม้ออก

พยาน : แมนๆ สิ

วุฒิ : เป็นคนแบบนี้ กลับภูเก็ตไม่ได้นะ โดนคนที่ภูเก็ตด่าฉิบหายเลย

ทนายรักษ์ : ผมกลับปกตินั่นแหละ ปัญหาคือไม้อันนี้เขานั่งอยู่ในรถตลอด ผมเข้าถึงตัวเขาไม่ได้

พยาน : คุณเอาไม้ไล่ตีน้องเอ้เลย น้องเอ้เข้าไปในรถ ยังไม่ทันปิดประตู คุณยังเอามือหยุมดึงผมเอ้ พี่เห็นเหตุการณ์ ยังบอกรักษ์ว่าอย่าทำเป็นทนาย ถ้าใครถ่ายคลิปมันจะไม่ดี เสียชื่อเสียง พี่พูดจริงมั้ย

ทนายรักษ์ : ไม่จริงครับ

พยาน : เราไม่เคยมีปัญหากันเลย พี่บอกว่าทำแบบนี้ไม่ได้นะ

พยาน 2 : ทำไมไม่พูดความจริง

พยาน : แล้วบอกว่าถ้าช่วยน้องเอ้ ฟ้องหมดเลย

พยาน 2 : มึงใช้อาชีพทนายความหาแด-แบบนี้เหรอ กูถามหน่อยซิ มึงไม่เป็นลูกผู้ชายเลยนะไอ้รักษ์

ทนายรักษ์ : เดี๋ยวจะโดนอีกคดี

ทนายแก้ว : ตกลงคุณไปทำร้ายเขามั้ย

ทนายรักษ์ : ไม่ เขาเอาไม้ไล่ตีผม

พยาน : พูดความจริงเถอะ

ทนายรักษ์ : ไปดูกล้องที่ราชภัฎได้เลย เขาเอาไม้ไล่ตีผมตอนผมจะกลับ

พยาน : พี่บอกเป็นคนให้ยุติเอง

ทนายแก้ว : ใครเริ่มต้นทำร้ายเอ้

พยาน : รักษ์เลยค่ะ รักษ์รอเอ้เลิกเรียนที่มหา’ลัย เอารถจอดปิดท้ายรถเอ้เลย

เอ้ : หนูเดินออกมาเขาจอดรถแอบๆ ไว้ แล้วกระชากหนู พอหนูล้ม หนูสู้กับเขา หนูขึ้นรถ เขาเอารถกระบะปิดท้ายรถหนู เขาถือไม้จากรถกระบะ บอกให้เปิด ถ้าไม่เปิดจะเอาตะปูเจาะหัวมึง ก็ไม่รู้ทำไง ก็ร้องไห้โทรหา ให้มาช่วยหน่อย หนูออกก็ไม่ได้ เขาเอารถกระบะจอดปิดท้าย หนูได้รับบาดเจ็บแล้ว พี่ที่ช่วยหนู หนูโทรเพราะเขาอยู่ใกล้ พอมาถึงเขาก็ยืนด่าหนู โวยวาย อีสารเลว มึงไม่กลับบ้านกับกู มึงมั่วเหรอ

ทนายรักษ์ : ไม่ใช่นะครับ

เอ้ : เพื่อนเขาเห็นแต่ไม่กล้าเข้ามาช่วย เพราะทนายถือไม้ใหญ่ที่มีตะปู พี่เขาไม่ได้มีมือถือ ก็กลัว บอกว่าถ้าไม่หยุดจะถ่ายคลิป เขาถึงวางไม้ คิดว่าเขาไม่ทำอะไรหนูแล้ว พอหนูลงรถเขาก็วิ่งมาเอากำปั้นต่อยๆ ดึงผมหนู ตีหนู หนูก็ร้อง

พยาน : พี่เลี้ยวรถมาจอด รถรักษ์ปิดรถเอ้ ออกไม่ได้ รักษ์อย่าแถค่ะ

ยังไง?

ทนายรักษ์ : ถ้าผมทำอะไรผิดเกี่ยวกับร่างกาย ไปฟ้องร้องได้เลย วันนี้ผมไม่ได้มาขอความเป็นธรรม แต่มาขอชี้แจงบ้างว่าผมไม่ได้ทำแบบนั้น ตอนนี้คนเข้ามาดู 40 ล้านคน ด่าผมเละ

ป๋อง กพล : แบ่งฟังเดอะช็อกสักล้านคนจะขอบคุณมาก

ทนายรักษ์ : ผมขอโอกาสในการแก้ตัวบ้าง ที่ผมเสนอไทม์ไลน์เรื่องเวลา ผมไม่ได้ให้พี่สนใจเรื่องเวลา แต่คนจะฆ่ากันมันนอนกอดกันได้เหรอ

สิ่งนี้คุณต้องตอบผมนะ คุณเอาภาพผู้หญิงไปโพสต์ นั่งแหกขา?

ทนายรักษ์ : เขาวิดีโอคอลมา ผมก็คิดว่าเป็นคดี เหมือนวิดีโอคอลที่เขาอัดไว้แล้ว ก็คิดว่าเป็นของปลอมนี่หว่า

ทนายแก้ว : แล้วทำไมต้องลงแบบนี้ ทนายความต้องมีศักดิ์ศรี จริยธรรม

ทนายรักษ์ : มิจฉาชีพมันเยอะ

ทนายแก้ว : ก็ไม่ถึงกับต้องลงภาพอ้าขา

คุณบอกใครฟ้องกู กูเล่นทนายก่อน?

ทนายรักษ์ : ผมโดนฟ้องจากทนายเป็นสิบคดี

เคยเอาโหนกระแสไปแอบอ้างมั้ย?

ทนายรักษ์ : ผมไม่เคยพูดถึงโหนกระแส แต่หลายคนที่เขามาหาผม เขารู้ว่าผมเคยไปออกรายการ ผมเป็นทนายความ

แล้วบอกเป็นหนึ่งเดียวของภูเก็ตมาออกโหนกระแส?

ทนายรักษ์ : ผมไม่เคยพูด เขาพูดเอง แต่ที่ใช้เป็นโปรไฟล์เพราะเป็นความภาคภูมิใจของผมที่ครั้งนึงเคยออกมาโหนกระแส

ครั้งนี้ครั้งที่สองแล้ว?

ทนายรักษ์ : เดี๋ยวผมจะเปลี่ยน

เอ้ :   คุณแถไปได้เรื่อยๆ เลย มีลูกความส่งมาบอกว่าคุณบอกว่าคุณเป็นทนายโหนกระแส

ทนายรักษ์ :   อันนั้นเขาอยากดู

เอ้ : ไม่ได้อยากดูค่ะ แล้วคุณก็เรียกเก็บเงินเขาราคาแพง เพราะมาจากทนายดัง

ทนายรักษ์ : ผมไม่เคยทำ

ทนายแก้ว : ให้ข้อคิด กรณีโพสต์คำแรงๆ ว่าอยากรู้ชู้มึงเก่งกาจแค่ไหน อีปอบ มันผิดมรรยาททนายความ

ทนายรักษ์ : ก็ร้องเรียนได้เลย ผมยินดี มันเป็นสไตล์ผมมาหลายปีแล้ว ผมโพสต์มา 4 ปีแล้วถ้าผมจะต้องยุติอาชีพทนายแค่ผมโพสต์ ผมเป็นคนธรรมดานะครับ ที่วันนึงจับได้แฟนผมไปกินข้าวกับผู้ชาย ผมรับไม่ได้

วุฒิ : เขามีแฟนตั้งนานแล้วครับ เคยมีแฟนก่อนคบเอ้

คุณต้องการอะไร?

เอ้ : หนูเหนื่อยค่ะ เขาไปแอบอ้างว่าหนูมีชู้ เล่นชู้อย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ต้องการให้เขามายุ่งเกี่ยว เลิกคุกคาม เลิกใส่ร้ายหนู

ทนายรักษ์ : ตั้งแต่ม.ค. ที่ผมเห็นเขาไปกินข้าวกับพ.ต.ท. ผมไม่เอาเลย เลิกติดต่อเด็ดขาด

เงินคืนเขาได้มั้ย?

ทนายรักษ์ : เงินค่าอะไร ไปฟ้องผมก่อน แล้วผมจะฟ้องกลับมา มีหลักฐานการโอนมั้ย คุณพูดลอยๆ ทุกอย่าง

เอ้ : คุณไม่ยอมรับว่าคุณทำร้ายร่างกายหนู แต่คุณเบี่ยงประเด็นว่าหนูมีชู้ ซึ่งคุณพาผู้หญิงเข้าตั้งแต่พ.ย. โฟนไปหาคนในชุมชนบ้านคุณมั้ยคะ ทนายรักษ์พาผู้หญิงเข้าไปอยู่หลายเดือนแล้ว

ทนายรักษ์ : แต่คุณยังนอนกอดผมอยู่เลยธ.ค.

เอ้ : ก็ไม่ได้ยอมรับไงคะ

ต้นอ้อ : คุณกล่าวหาเขานอกใจ แต่คุณเองก็นอกใจ แค่ผู้หญิงไม่รักแล้ว คุณก็ยังงอแง

ทนายรักษ์ : ผมไม่ได้อะไรเขาเลย อย่าคิดว่าผมสนใจเขานะครับ

ต้นอ้อ : แน่ใจเหรอ

เอ้ : เปิดคลิปล่าสุด พ.ย. ที่ไปเดินวนเลยค่ะ

ทนายรักษ์ : ผมไปสน.ครับ

พยาน : เวลาไปร้านเหล้า ไปกันตลอด ไปร้านเหล้า จะไปกับชู้ได้ไง ถ้าไปกับชู้ไปโรงแรมสิคะ

ทนายรักษ์ : ผมดำเนินคดีไปแล้ว ถ้าจะสู้ไปสู้ในคดี สู้ให้ชนะ ฟ้องมาเลย ผมยินดีทุกเรื่อง ข้อเท็จจริงผมมีอยู่หนึ่งเดียวคือคุณไปกับผู้ชาย แล้วผู้ชายคนนั้นวิดีโอคอล โทรหาตลอดเวลา

ต้นอ้อ : ขอดูหลักฐานหน่อยสิ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ จะสองอาทิตย์แล้ว คุณไม่มีหลักฐานอะไรเลย

ทนายรักษ์ : หลักฐานอยู่ที่กกต.ภาค 8

ต้นอ้อ : มันต้องมีอยู่ที่ตัวคุณบ้างดิ

ทนายรักษ์ : ผมส่งให้นักข่าวแล้ว ส่งให้พี่หนุ่มแล้ว

เอ้ : ไม่จริงค่ะ น่าจะภาพตัดต่อ หนูไม่ได้มีการติดต่อหรือพูดคุยกัน แต่ก่อนหน้านี้หนูไปแจ้งความล่าสุด เขาหาว่าหนูเป็นชู้กับตร.

เขาคุยกันมันแปลกตรงไหน?

ทนายรักษ์ : คนนี้มีการติดต่อกัน มีการโทรกันตลอด ไม่ได้มีภาพเดียวนะ

เอ้ : เอามาทั้งหมดค่ะ

ทนายรักษ์ : อยู่ที่กรรมการตร. เขาตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง คุณรับมั้ยว่าเป็นภาพคุณ

เอ้ : หนูไม่รับค่ะ สถานะไม่เคยเป็นอะไรกับคุณเลย

ทนายรักษ์ : แต่นี่ก่อนเลิกกันนะครับ

คุณเลิกคุกคามเขาได้มั้ย?

ทนายรักษ์ : ผมไม่เคยคุกคามเขา

เงินคืนเขาได้มั้ย?

ทนายรักษ์ : ผมซื้อหุ้นซื้อบ้านเขาไปแล้ว

เอ้ : คุณพูดกลับไปกลับมา ข้อเท็จจริงคุณบิดเบือนตลอดเวลา คุณพูดไม่เคยตรง

ทนายรักษ์ : ไปว่ากันในศาล

วุฒิว่าไง?

วุฒิ : เดี๋ยวสังคมภูเก็ตจัดการเขาเอง

เอ้ : ล่าสุดเดือนพ.ค.ไปคุกคามหนูที่คอนโดค่ะ

ทนายรักษ์ : ผมเอาดอกไม้ไปวาง

เอ้ : ไม่ใช่ค่ะ คนละวัน

ทนายรักษ์ : เขาโพสต์ว่าอยู่คอนโดนี้ ผมเลยไปดูว่าใช่หรือเปล่า

เอ้ : ทำไมคุณไม่ยอมรับความจริงสักอย่าง

ทนายรักษ์ : ก็คุณไปฟ้องผมมา แล้วผมฟ้องคุณกลับ แล้วดูว่าใครติดคุก เพราะทนายคุณบอกว่าถ้าผมไม่ติดคุก เขาจะถอดชุดครุยทิ้ง

เขาพูดคำนี้มั้ย?

ทนายเอ้ : เขาพูดในบัลลังก์ พอกระบวนพิจารณาเสร็จสรรพ ก็ราบรื่นดี สืบจนสิ้นกระแสความ เพราะการพูดไม่ได้เกี่ยวอะไรอยู่แล้ว การสืบพยานเขาก็แถลงให้ปากคำแบบนี้อยู่ตลอด

ทนายรักษ์ : ทำได้มั้ย ทนายบอกว่าถ้าทำผมติดคุกไม่ได้จะถอดชุดครุยทิ้งเลย

ทนายเอ้ : ท่านผู้พิพากษาก็ควบคุมการพิจารณาคดีอยู่แล้ว

เอาไง?

ทนายรักษ์ : ผมก็ดำเนินคดีปกติ ผมได้ไปสู่ขอน้องเขาแล้วด้วยที่ภาคอีสาน

วุฒิ :   ใครอยู่ใกล้เขา เจอความวิบัตินะพี่

ทนายรักษ์ : สองคดีแล้ว

วุฒิ : ทนายกรณ์ผมรักและเคารพ ไม่อยากให้มาสุงสิงกับไอ้นี่เลย

เอ้ : ขอคลิปเสียงที่เขาบอกไม่เคยข่มขู่ คุกคามหน่อยค่ะ (เปิดคลิปเสียง บอกว่าซุ้มมือปืนรู้จักทุกซุ้ม เล่นแบบนี้เล่นกลับ บอกเลย)

ทนายรักษ์ : ไม่เกี่ยวกับเขานะ ผมพูดกับทีมฝั่งตรงข้าม

เอ้ : เขาพูดตลอด เขาบอกไม่เกรงกลัวกฎหมายหรอก กูเป็นทนาย

ทนายแก้ว : นิสัยเขาเป็นยังไง

วุฒิ : เขาดึงคนโน้นคนนี้มาวุ่นวายกับเขาหมดเลย ให้ฉิบหายหมด ถ้าอยู่ใกล้ๆ เขาจบหมด ผมอยากเตะหน้ามันสักที

เขาบอกวุฒิย้ายข้างเพราะเรียกเงินเขา?

วุฒิ : มันจ้างผมเอง 2 แสนไปสืบที่โรงแรม มีพยานพร้อม แต่เขาให้ 1.6 หมื่น

เก่ง : เขาก็ปัดมาเรื่อยๆ

ทำไมไม่จ่ายเขา?

ทนายรักษ์ : จ่ายหมดแล้ว คนละพันเวลาทำงาน

วุฒิ : คนละพันเป็นก้อนแรกที่ให้น้องๆ ไปยึด มันเป็นคนพูด มันให้ผมพันนึง น้องก็พันนึง

ถ้าเจอข้างนอกทำไง?

วุฒิ : เดี๋ยวสังคมจัดการเอง

เขาบอกเขามีมืปืนนะ?

วุฒิ : ก็ช่างเขา ผมไม่กลัว

ครั้งที่แล้วบอกว่าวุฒิเป็นนักเลง?

วุฒิ : หลุดปากครับ มันขี้ดอ (หัวเราะ)

เอ้ : หนูเคยโดนหลอกให้ทำเรื่องที่ผิดกับทนายคนนี้ เงิน 4 แสนให้ทำบ้าน เขาบอกว่าต้องทำบ้านใหม่ข้างล่าง บ้านหลังนี้โดนขายทอดตลาด โดนบังคับคดียึดไปแล้ว ให้น้องช่วยตรงนี้หน่อย ถ้าทำบ้านใหม่จะได้ไปแจ้งบังคับคดีให้หนูเซ็นเป็นผู้รับมอบอำนาจไปคุยว่าเขาทำบ้านใหม่ ซึ่งบ้านหลังนี้ขายทอดตลาดไปแล้ว หลอกให้หนูทำเรื่องที่ผิด

ทนายรักษ์ : (โชว์ภาพทอง) เอาไปจำนำ เพื่อเอาเงินมาทำบ้าน ทำห้องน้ำ กับผนังห้องครัว ก็ไปไถ่มาให้เขา ที่ใส่ที่แขน

เอ้ : ไม่เกี่ยวค่ะ อันนี้ไม่ได้ไถ่ ขายไปเลยค่ะ คุณหลอกให้หนูเอาทองไปขาย ก่อนหน้านี้หนูมีเงินเก็บเยอะมาก

ทนายรักษ์ : คุณเปิดในบัญชีว่าคุณมีเงินกี่บาท คุณมีอยู่ไม่กี่หมื่นบาท

เอ้ : เอาไปเช็กเลยค่ะ หลายเรื่องแล้วที่คุณแต่งเรื่องมา

ทนายรักษ์ : ล่าสุดคุณฟ้องคดีอะไร เขาทำร้ายผม ผมไปฟ้องเขา

พยาน 2 : ไม่จริงค่ะ ผู้ชายคนนี้โกหกที่สุดในโลกแล้ว ที่สำคัญเวลาไลฟ์สด เขาใส่เสื้อสภาทนายความ บอกให้แม่หนูช็อกตายแน่ถ้ารับหมายศาล ข่มขู่ตลอดเลย มีหลักฐานทุกอย่าง  อยากให้สภาทนายความรับรู้พฤติกรรมว่าแบบนี้เหรอที่จะให้เป็นทนายความ ไลฟ์สดข่มขู่ประชาชนงี้เหรอ

ทนายรักษ์ : ผมพูดเรื่องอื่น

พยาน 2 : แล้วคุณสมควรมั้ย ส่งภาพโป๊ไปขู่เอ้ตลอด

ทนายรักษ์ : ภาพโป๊เขาเป็นคนถ่ายเองทั้งนั้น

ต้นอ้อ : ที่หนูเห็นไม่ใช่นะ เมื่อเช้าก็หลอนมาก เป็นภาพที่เขาส่งหาผู้หญิง

คุณถ่ายรูปจู๋ส่งผู้หญิงใช่มั้ย?

ทนายรักษ์ : ถ้ามี ผมถ่ายส่งให้เขาจริง อยู่เป็นผัวเมียกัน

เอ้ : เลิกใช้คำว่าผัวเมีย อับอายมากที่มีแฟนแบบคุณ

ของคุณหรือเปล่า?

ทนายรักษ์ : ไม่ใช่ของผม ถ้าเป็นรูปส่งให้เขา ก็ส่งกันไป สลับกันไปสลับกันมา ล่าสุดคุณนอนกับผมเมื่อไหร่

ต้นอ้อ : คุณอาจไม่หลงเหลือคำว่าทนายความไม่เป็นไร แต่คุณหลงเหลือคำว่าสุภาพบุรุษให้หน่อย คุณสงวนคำบ้าง น้องเขาเป็นผู้หญิง ไม่ใช่จะสบถอะไรก็ได้

ทนายรักษ์ : แล้วทีคุณสบถได้ล่ะ

ต้นอ้อ : สบถได้สิ ก็คุณไม่ให้เกียรติเขาเลย แมนกี่โมงคะ จะแมนกี่โมงคะทนาย

ทนายรักษ์ : คุณบอกว่าไม่ใช่แฟนผม แต่ในคำฟ้องคุณบอกเป็นแฟนผม แค่นี้ก็ผิดแล้ว

ต้นอ้อ : เฮ้อ ตั้งแต่ทำเคสมาไม่เคยเจอใครแถอะไรขนาดนี้มาก่อนเลย

คุณคบ 13 คนจริงเหรอ?

ทนายรักษ์ : จริง เขาคนที่ 13 เขาไปนั่งกินข้าวกับแฟนคนอื่นผมถ่ายรูปตลอด

เอ้ : ไหว้ล่ะ แถมากเลย

ทนายรักษ์ : คุณสาบานมั้ยว่าคุณไม่รู้จัก

ต้นอ้อ : เขารู้จักเพราะเขาจับได้ไงว่าคุณมีคนอื่นไง

เอ้ : เด็กคุณโทรหาหนู

ตรงนี้ไม่มีการฟ้องกันนะ?

ทนายรักษ์ :   ฟ้องข้างหลัง

ฟ้องไม่ได้สิ เซ็นกันหมดแล้ว?

ทนายรักษ์ : เซ็นแล้วมาด่าผมได้เหรอ

คุณก็ด่าเขาได้?

ทนายรักษ์ : ผมไม่เคยด่าเขา ผมรู้ว่ารายการโหนกระแสช่วยสังคม แต่ผมต้องโพสต์แรงๆ เพื่อให้สังคมรับรู้ จริงๆ ผมไม่ใช่คนนิสัยแบบนั้น หลังจากนี้ก็หยุดแล้ว เพราะการออกรายการโหนกระแสมันยากมากสำหรับคนอื่น