ตำรวจ สภ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า บุกยึดเครื่องขุดเหรียญบิทคอยน์ พร้อมอุปกรณ์กว่า 20 เครื่อง ของหนุ่มวัย 35 ปี ประกอบอาชีพช่างซ่อมมือถือบังหน้า เผยทำมานานกว่า 3 ปี ขณะเข้าตรวจยึดไม่พบอยู่บ้าน ตำรวจเตรียมออกหมายเรียกทราบข้อกล่าวหา 

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 25 มี.ค.68 พ.ต.อ.ธัชพล ส่องแสง ผกก.สภ.พุทไธสง พร้อมด้วย พ.ต.ท.อภิภู จูประโคนสุข รอง ผกก.สส.สภ.พุทไธสง ชุดสืบสวน สภ.พุทไธสง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.บุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.พุทไธสง เจ้าหน้าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดบุรีรัมย์ และเจ้าหน้าที่จาก สำนักงาน การไฟฟ้าเขต 3 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือนครราชสีมา ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดบุรีรัมย์ เข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 28 ม.2 ต.หายโศก อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ หลังสืบสวนทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวมีการใช้ไฟฟ้าที่ผิดปกติ และยังพบร่องรอยการงัดแงะดวงตราตะกั่วฝาครอบมิเตอร์ และยังพบมีการดัดแปลงวงจรภายในตัวมิเตอร์ จึงเข้าทำการขอตรวจค้น ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นพบ นางอุ่นจิต อายุ 69 ปี เป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว 

จากการตรวจค้นภายในบ้านบริเวณห้องพักของหลานสาวกับหลานเขยของนางอุ่นจิต คือ นายพัฒนกิจ หรือแต็ง อายุ 35 ปี ชาว จ.ลำปาง กับ น.ส.พฤกษา หรือแทน ก็พบเครื่องขุดคริปโทเคอร์เรนซี (เครื่องขุด bitcoin จำนวน 20 เครื่อง) ตรวจพบบริเวณภายในห้องลับชั้นล่าง, เครื่องขุดคริปโทเคอร์เรนซี (เครื่องขุดbitcoin) จำนวน 8 เครื่อง , CPU จำนวน 1 เครื่อง, เครื่องเป่าลมร้อน ยี่ห้อ QUICK 861DW จำนวน 1 เครื่อง ตรวจพบบริเวณห้องโถงชั้นล่าง และมิเตอร์ จำนวน 1 เครื่อง ตรวจพบบริเวณเสาไฟฟ้าหน้าบ้าน 

สอบถามนางอุ่นจิต ให้การรับสารภาพว่า เครื่องมืออุปกรณ์ดังกล่าวที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดเป็นของหลานเขยที่ได้ติดตั้งไว้เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ซึ่งหลานเขยมีอาชีพเป็นช่างซ่อมโทรศัพท์มือถือ แต่ตอนนี้ทั้งหลานเขยและหลานสาวไม่อยู่บ้าน เพราะเดินทางไปงานศพญาติที่ จ.ลำปาง ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเป็นเครื่องมืออะไร เพราะเห็นหลานเขยเป็นช่างซ่อมโทรศัพท์ จึงคาดว่าน่าจะเป็นอุปกรณ์ ที่จำเป็นใช้เกี่ยวข้องกับการซ่อมโทรศัพท์มือถือกระมัง ซึ่งตนเองก็ไม่ได้สนใจอะไร กระทั่งมีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจค้นดังกล่าว จึงทราบว่าเป็นเครื่องที่ใช้ในการขุดเหรียญบิทคอยน์

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมดมาส่งพนักงานสอบสวน สภ.พุทไธสง พร้อมเชิญตัว นางอุ่นจิต มาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.พุทไธสง และเตรียมนำหมายเรียกตัว นายพัฒนกิจ หรือแต็ง พลอยวงศ์ มารับทราบข้อกล่าวหา ดัดแปลงวงจรภายในตัวมิเตอร์ ทำให้มิเตอร์ทำงานคลาดเคลื่อนกว่าความเป็นจริง (มิเตอร์วัดค่าได้น้อยกว่าความเป็นจริง) ทำให้การไฟฟ้าไม่สามารถคิดค่าไฟได้ตามความเป็นจริง ตามระเบียบการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคว่าด้วยวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับมิเตอร์ พ.ศ.2562 และละเมิดการใช้ไฟฟ้า.