ผู้นำแรงงานออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับงบประมาณกว่า 30 ล้านบาท ที่สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ใช้ในการจัดอบรมให้ความรู้แก่แรงงานทั่วประเทศ โดยเรียกร้องให้มีการตรวจสอบความโปร่งใสและกระจายงบประมาณอย่างทั่วถึงผู้นำแรงงานตั้งข้อสังเกตโครงการอบรมแรงงาน สปส.
นายชาลี ลอยสูง ที่ปรึกษาคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) เปิดเผยว่า ได้ติดตามการใช้งบประมาณในโครงการอบรมให้ความรู้ด้านประกันสังคมแก่แรงงาน ซึ่งดำเนินการโดยสภาองค์การลูกจ้างและสหภาพแรงงานต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยมีการจัดอบรมกว่า 1,700 รุ่นต่อปี งบประมาณเฉลี่ยรุ่นละ 20,000 บาท รวมมูลค่ากว่า 34 ล้านบาทต่อปี
นายชาลีระบุว่า ในบางกรณีอาจมีการใช้รายชื่อแรงงานลงทะเบียนล่วงหน้าโดยไม่ระบุวันจัดกิจกรรม พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การเข้าถึงงบประมาณดังกล่าวอาจยังไม่ทั่วถึงทุกกลุ่ม โดยเฉพาะสหภาพแรงงานขนาดเล็กหรือกลุ่มที่อยู่นอกเครือข่ายหลัก
เขาเสนอให้มีการตรวจสอบกระบวนการใช้งบประมาณอย่างละเอียด เพื่อป้องกันความเข้าใจคลาดเคลื่อนและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีสิทธิ์ โดยควรเปิดเผยข้อมูลการพิจารณา การอนุมัติงบ และรายงานผลการดำเนินงานให้สาธารณชนรับทราบ
นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับวิทยากรในกิจกรรมอบรม ซึ่งตามระเบียบต้องมีเจ้าหน้าที่จาก สปส. เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งควรตรวจสอบว่ามีการปฏิบัติตามระเบียบอย่างถูกต้องหรือไม่
อีกหนึ่งประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาคือ งบประมาณการจัดทำปฏิทินปีใหม่ของ สปส. มูลค่า 54 ล้านบาท โดยนายชาลีเสนอให้ทบทวนความคุ้มค่า เนื่องจากปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่นิยมใช้ปฏิทินออนไลน์ เขายังเสนอให้มีการเปิดเผยข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างของโครงการดังกล่าวอย่างโปร่งใส เช่น การเปิดประมูลในทุกปี เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม และป้องกันการผูกขาดในระบบจัดจ้าง
นายชาลีกล่าวทิ้งท้ายว่า งบประมาณภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับแรงงานควรถูกใช้เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์กรแรงงานในระยะยาว ไม่ใช่เป็นเพียงงบสนับสนุนชั่วคราว พร้อมเสนอให้ สปส. และกระทรวงแรงงานทบทวนแนวทางการสนับสนุนให้ตรงจุด และเปิดโอกาสให้แรงงานทุกกลุ่มเข้าถึงสิทธิ์ได้อย่างเท่าเทียม