บช.สอท. แถลงจับกุมต่อเนื่อง 6 คดีอาชญากรรมออนไลน์ รวบผู้ต้องหาเพียบ เงินหมุนเวียน-ความเสียหายรวมหลายสิบล้านบาท
วันที่ 25 มี.ค.68 ที่กองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมด้วยคณะรองผู้บัญชาการและผู้บังคับการในสังกัด ร่วมแถลงผลการจับกุมขบวนการอาชญากรรมออนไลน์ต่อเนื่องรวม 6 คดีสำคัญ
ปฏิบัติการที่ 1: จับ 2 สาวเครือข่ายเว็บพนัน BONUS24HR กองกำกับการ 1 บก.สอท.1 จับกุม น.ส.วาสนา อายุ 44 ปี และ น.ส.ปาริชาติ อายุ 20 ปี ชาว จ.สระบุรี ผู้ต้องหาทำหน้าที่เปิดบัญชีรับโอนเงินให้เว็บพนันออนไลน์ BONUS24HR มีเงินหมุนเวียนกว่า 20 ล้านบาท โดยอ้างว่ารู้จักกับบุคคลในเฟซบุ๊กและได้รับค่าจ้างเปิดบัญชี 1,500 บาท เบื้องต้นถูกแจ้งข้อหาตาม พ.ร.บ.การพนัน และ พ.ร.บ.ฟอกเงิน
ปฏิบัติการที่ 2: หลอกลงทุน สูญเกือบ 2 ล้านบาท กองกำกับการ 3 บก.สอท.1 จับกุม น.ส.วิสุทธินี อายุ 37 ปี ชาว จ.ชลบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ข้อหาหลอกลวงให้ร่วมลงทุนผ่านระบบออนไลน์ ทำให้ผู้เสียหายโอนเงิน 11 ครั้ง รวมเกือบ 2 ล้านบาท โดยผู้ต้องหาอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่ยอมรับว่าเป็นเจ้าของเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ในการติดต่อ
ปฏิบัติการที่ 3: หลอกขายกระเป๋าแบรนด์เนม กองกำกับการ 4 บก.สอท.1 จับกุม น.ส.ลลิตา อายุ 28 ปี ชาว จ.นนทบุรี หลอกขายกระเป๋าแบรนด์เนมผ่านเฟซบุ๊ก มูลค่า 41,000 บาท แต่ไม่ส่งของ ผู้ต้องหาถูกแจ้งข้อหา "ฉ้อโกง" และ "นำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์"
ปฏิบัติการที่ 4: หลอกทำกิจกรรมออนไลน์ เสียหายกว่า 11 ล้านบาท กองกำกับการ 4 บก.สอท.3 จับกุมนายสิทธิโชค หนึ่งในผู้ต้องหาหลอกลวงให้ผู้เสียหายทำกิจกรรมออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊ก พบเชื่อมโยง 26 เคสไอดี รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 11 ล้านบาท ทำหน้าที่เปิดบัญชีม้า รับโอนเงินและฟอกเงิน
ปฏิบัติการที่ 5: เด็ก 14 ปี สั่งซื้อปืนออนไลน์ เจ้าหน้าที่จับกุม นายณัฐพล อายุ 20 ปี จำหน่ายอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ให้เด็กชายวัย 14 ปี ที่ จ.ขอนแก่น โดยติดต่อซื้อขายผ่านเพื่อนชื่อ "เกอร์" ในราคา 4,000 บาท เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นและยึดของกลางได้ภายในบ้าน
ปฏิบัติการที่ 6: หลอกลงทุนผ่านแอป CTWEHPRO ความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 จับกุมนายวัชพล ที่ จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาในขบวนการหลอกลงทุนในหุ้นผ่านแอป CTWEHPRO โดยมีการโอนเงินเข้าบัญชีหลายครั้ง รวมความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท ผู้ต้องหาอ้างว่าเคยเดินทางไปทำงานที่กัมพูชา ถูกหลอกให้ร่วมขบวนการคอลเซ็นเตอร์ และถูกบังคับให้ทำงาน ไม่สามารถหลบหนีได้
บช.สอท. ยืนยันเดินหน้าปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมเร่งขยายผลเชิงลึกถึงตัวการใหญ่และเครือข่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป