ราชบุรี หนุ่มใหญ่บุกชิงทองในห้างดัง ตำรวจใช้เวลา 30 นาทีตามไปรวบได้

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 24 มี.ค.68  ร.ต.ท.ชวลิต  ทับทิมทอง ร้อยเวรสภ.โพธาราม  จ.ราชบุรีได้รับแจ้งเหตุคนร้ายเข้าไปชิงทองในร้านทองที่อยู่ในห้าง สาขาโพธาราม ได้สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 บาท ไป หลังรับแจ้งจึงได้รายงานให้ พล.ต.ต.วชิรพงษ์  อมราพิทักษ์  ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ราชบุรี  พ.ต.อ.ศยาม  อินทร์สุวรรณโณ  รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี  และพ.ต.อ.ภุชงค์  ณรงค์อิน  ผกก.สภ.โพธาราม  ได้รับทราบก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.ท.ศิริสุข คำสุข  รอง ผกก.สส. และพ.ต.ท.พันธ์ฤกษ์ สร้อยทองมูล สว.สส. สภ.โพธาราม

ในที่เกิดเหตุเป็นร้านทอง ตั้งอยู่บริเวณประตูทางออกของห้างฯ ซึ่งร้านทองแห่งนี้เคยถูกคนร้ายเข้ามาก่อเหตุทุบตู้กระจกและชิงทองไปหลายบาทเมื่อปลายปีที่ผ่านมาโดยได้พบกับคุณบี  จิระราชวโร  เจ้าของร้านพร้อมกับพนักงานที่ขายอยู่หน้าร้าน ก็ให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้ายเป็นชายสูงอายุเข้ามาทำทีขอดูสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 บาท 1 เส้น พนักงานจึงหยิบมาให้ดู จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ขอเปลี่ยนสร้อยเส้นใหม่โดยอ้างว่าสร้อยเส้นนี้มีน้ำหนักเบา พนักงานจึงได้หยิบสร้อยอีกเส้นมาให้ดู จากนั้นคนร้ายก็หยิบสร้อยไปพร้อมกับบอกว่า ขอนะ  ก่อนจะวิ่งออกจากห้างฯไป ทางคุณบี (เจ้าของร้าน)ก็พยายามวิ่งตามคนร้ายไป ซึ่งคนร้ายนั้นใช้รถเก๋งยี่ห้อ โตโยต้า วีออส สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน กว-xxx ราชบุรี คุณบี  พยายามวิ่งไปเคาะกระจกเรียกคนร้ายพร้อมกับบอกว่าอย่าทำอย่างนี้เลย แต่คนร้ายก็ยังขับรถหลบหนีไป

หลังได้ข้อมูลคนร้าย พล.ต.ต.วชิรพงษ์  อมราพิทักษ์  ผบก.ภ.จ.ราชบุรี  ได้สั่งการให้ทุกสภ.ในจ.ราชบุรี ได้ดำเนินการออกตรวจสอบตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี  และสุดท้ายไปพบรถของคนร้ายที่บริเวณถนนเพชรเกษม ม.6 ต.บ้านสิงห์  อ.โพธาราม กำลังขับกลับเข้ามาในตัวเมืองราชบุรีและติดไฟแดงอยู่จึงได้นำกำลังเข้าชาร์จ  พบนายเศรษฐพงศ์ อายุ 58 ปี  เป็นชาวอำเภอวัดเพลง จ.ราชบุรี  เป็นคนขับรถเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไว้ตรวจสอบในกระเป๋าสะพายคาดอกพบสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 บาท  ที่ชิงมาจากร้านทองจึงได้นำตัวกลับมาที่ร้านทองภายในห้องดังกล่าว เจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการติดตามตัวคนร้ายรายนี้เพียงแค่ 30 นาที 

เบื้องต้นนายเศรษฐพงศ์ ก็ยอมรับว่าเป็นคนที่มาก่อเหตุชิงทองที่ร้านทองดังกล่าวจริง เนื่องจากมีปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ เพราะบ้านและรถยนต์กำลังจะถูกยึดจึงคิดหาทางออกด้วยการมาชิงทองแต่สุดท้ายก็ไม่รอด ซึ่งปัจจุบันก็มีอาชีพทำขนมส่งขายตามร้านค้าทั่วไปและทำสวนแต่เนื่องจากเป็นหนี้และถูกทางเจ้าหน้าที่เร่งรัดจึงตัดสินใจมาก่อเหตุ  และเป็นครั้งแรกที่มาก่อเหตุแบบนี้ที่ผ่านมาไม่เคยมีประวัติอาญชกรรม สงสารแต่ลูกเมียที่อยู่บ้าน ซึ่งมีลูก 2 คน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ข้อหาวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม

ด้าน พล.ต.ต.วชิรพงษ์  อมราพิทักษ์  ผบก.ภ.จ.ราชบุรี บอกว่า หลังจากได้รับแจ้งเหตุก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกตรวจสอบตามเส้นทาง  ซึ่งโชคดีที่มีพลเมืองดีจำยี่ห้อรถและทะเบียนรถไว้ได้  ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ออกติดตามพร้อมกับตรวจสอบทะเบียนดังกล่าวพบว่าเจ้าของรถคือใคร  และสุดท้ายก็สามารถติดตามจับกุมตัวได้  ซึ่งคนร้ายนั้นเป็นคนสูงวัย ก็ยอมรับว่ามีปัญหาเรื่องของเศรษฐกิจ  แต่ก็ไม่ใช่จะมาก่อเหตุแบบนี้ได้  ซึ่งต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ออกติดตามจับกุมตัวคนร้ายโดยทำแบบมีระบบ  ทำให้ติดตามจับกุมตัวคนร้ายซึ่งใช้เวลาประมาณ 30 นาทีหลังทราบเหตุ  และขอเตือนบุคคลใดที่คิดจะก่อเหตุอะไรก็แล้วแต่ในจ.ราชบุรี รับรองว่าถูกจับได้ทุกรายเพราะทุกพื้นที่รวมทั้งวิวัฒนาการของตำรวจนั้นมีประสิทธิภาพมาก  นอกจากเรื่องของทำเลที่ตั้งของร้านทองของห้างนี้อยู่ใกล้กับประตูทางออกของห้างซึ่งถือเป็นจุดล่อแหลมที่อาจจะถูกคนร้ายเข้ามาก่อเหตุได้  แต่ทั้งนี้ก็ได้มีการประสานการปฎิบัติกับทางเจ้าของร้านแล้ว  โดยเสริมลูกกรงเหล็กและเพิ่มความหนาของกระจกเพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายทุบหรือล้วงลงไปหยิบทรัพย์สินได้  ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ประสานงานไปกับทางห้างแล้ว  แต่เนื่องจากคู่สัญญานั้นมีสัญญาในการเช่าค่อนข้างนาน  ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไม่ไปก้าวล่วงแต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้นำมาตราการในการป้องกันเข้าไปสอดแทรกเพื่อให้เกิดปัองกันและระมัดระวังให้มากขึ้น