เปิดศึกกลางห้างชาวบ้านหนีตาย

ระทึกกลางห้างดังย่านปทุมวัน “นักศึกษา” 2 สถาบัน ยกพวกตะลุมบอน 5 นศ.ถูกแทงบาดเจ็บ “ตร.” บุกรวบทันควัน 4 ราย  หิ้วตัวสอบปากคำ ด้าน “ศุภมาส” ฮึ่ม! สั่งสอบ “ปทุมวัน – อุเทนฯ” ชี้อุกอาจ ยอมรับไม่ได้ ทำปชช.เดือดร้อน

จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. เมื่อวันที่ 22 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุนักศึกษา 2 สถาบันชื่อดังย่านปทุมวัน ยกพวกรุมทำร้ายกัน ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านปทุมวัน ที่ชั้น 6 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวนักศึกษาที่ก่อเหตุได้ 4 ราย ถูกแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดฐาน "ร่วมกันทะเลาะกันอย่างอื้ออึงในทางสาธารณะหรือสาธารณสถาน" พร้อมแจ้งสิทธิผู้ต้องหาและควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายนอกจากนี้ ยังพลผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 5 ราย เป็นนักศึกษาจากสถาบันอุเทนถวาย ประกอบด้วยนาย ปราชกร อาการบาดเจ็บสาหัสถูกอาวุธมีดแทงเข้าบริเวณหน้าอก นายภาณุพงษ์ ถูกแทงเข้าที่บริเวณแผ่นหลัง ส่วนอีก 3 รายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่นำตัวส่งรพ.ตำรวจ และอีก 1 ราย เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้าง

ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 มี.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางห้างสรรพสินค้าดังกล่าว ได้โพสต์ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า ตามที่เกิดเหตุการณ์นักศึกษาจากสองสถาบันทะเลาะวิวาท เมื่อวันเสาร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2568 เวลา 19.15 น. ทางศูนย์การค้าฯ ได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที เพื่อควบคุมสถานการณ์จนสงบลงอย่างรวดเร็ว โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 ราย และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 1 ราย ได้รับการนำส่งโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษาเรียบร้อยแล้ว และพนักงานร้านค้าและผู้ใช้บริการท่านอื่น ๆ ทุกท่านปลอดภัย

ศูนย์การค้าฯ ขอยืนยันว่าจากกรณีที่มีข่าวว่ามีเสียงดังคล้ายอาวุธนั้นไม่เป็นความจริง โดยเสียงดังกล่าวเกิดจากป้ายโฆษณาโครงเหล็กกระทบพื้น ทางศูนย์การค้าฯ ขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น โดยทั้งนี้ ศูนย์การค้าฯ ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ

ด้าน  น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวายและสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันภายในศูนย์การค้ามาบุญครอง ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนในพื้นที่ ตนจึงได้สั่งการให้สำนักงานปลัดกระทรวง อว. ประสานงานกับผู้บริหารของทั้งสองสถาบันเพื่อเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการทางวินัยกับนักศึกษาที่เกี่ยวข้องโดยไม่มีข้อยกเว้น รวมถึงให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสอบสวนดำเนินคดีทางกฎหมาย

“เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ เพราะเป็นการกระทำที่อุกอาจ ทำให้ประชาชนต้องเดือดร้อน แน่นอนว่าจากนี้ต้องมีการยกระดับการดำเนินมาตรการที่เข้มงวดทั้งในด้านการป้องกัน และการลงโทษผู้กระทำผิด ไม่ใช่เฉพาะสองสถาบันนี้แต่จะครอบคลุมไปทุกสถาบันอุดมศึกษา เพื่อให้สถาบันการศึกษาเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ ไม่ใช่เวทีความรุนแรง ยืนยันว่าจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อให้ปัญหานี้ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังและยั่งยืน” น.ส.ศุภมาส กล่าว