เจ้าหน้าที่คุมตัวหนุ่มจี้สาว เหตุเดือนเดียว 3 รายซ้อนทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เหยื่อสาวต้องก้มกราบเท้าคนร้ายเพื่อขอชีวิตกลับไปหาลูกที่รออยู่บ้าน
จากกรณีมีผู้ลงโพสต์เตือนภัยคนร้ายดักถีบรถจักรยานยนต์ - ชักปืนจี้เหยื่อผู้หญิงที่เดินทางผ่านถนนสมอทอง-ตลาดใหม่ หมู่ที่ 4 บ้านกลาง ต.ทองหลาง อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี เดือนเดียวก่อเหตุถึง 3 รายซ้อน ผู้เสียหายแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยคตแล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้า จนท.ยังไม่สามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้นั้น ทำให้ชาวบ้านในเขตอำเภอห้วยคตอยู่กันอย่างหวาดผวาไม่กล้าออกจากบ้าน
ต่อมาเมื่อ เย็น วันที่ 22 มีนาคม 2568 พ.ต.อ.ดร.สมนึก นวลคำ ผกก.สภ.ห้วยคต พ.ต.ท.ปพน โสพัตน์ รอง สวป.สภ.ห้วยคต ร.ต.ท.อภิสิทธิ์ จองคำมา ร้อยเวร สภ.ห้วยคต พร้อมชุดสืบสวน สภ.ห้วยคต ชุดสืบสวนตำรวจภูธรอุทัยธานี สนธิกำลัง พร้อมนายอดิเรก ศิลป์ประสม นายก อบต.ห้วยคต นำตัวนายลิขิต อายุ 30 ปี หมู่ 10 บ้านบ่อทราย ต.ห้วยคต จ.อุทัยธานี ไปทำแผนประกอบการรับสารภาพทีก่อเหตุ 2 ราย พร้อมรถ จยย.ยีห้อฮอนด้าเอ็มเอสเอ็กซ์ 125 สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน คันก่อเหตุ พร้อมกุญแจรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายรายที่ 3 ของกลาง
ซึ่งเป็นราย 2 ก่อเหตุในวันที่ 14 มีนาคม 2568 ช่วงเวลา 23.00 น.บนถนนเส้นนาไทย หมู่ 2 ต.สุขฤทัย อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี ว่าใช้ใช้อาวุธปืนจี้หญิงสาว เป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อ เพื่อชิงทรัพย์ หลังจากหญิงเลิกงานจากร้านสะดวกซื้อกลับบ้านกลางดึก
รายที่ 3 วันที่ 16 มีนาคม 2568 เวลา22.06 น. ผู้เสียหายเป็นหญิง อายุ 15 ปี โดนนายลิขิต คนร้ายขับรถ จยย.ดับไฟหน้ารถ แล้วประกบข้างรถก่อนแล้วถีบรถ จยย จนล้มคว่ำ ในขณะหญิงสาวขับรถ จยย.กลับบ้าน จนรถ จยย.ล้มคว่ำลง แล้วเข้าทำร้ายชกต่อยร่างกาย พร้อมกับยิงปืนขู่ขึ้นฟ้า 1 นัด และใช้อาวุธปืนจี้ศีรษะ เพื่อบังคับให้หญิงสาวซ้อนท้าย รถ จยย.ให้ไปด้วย ก่อนที่ทางหญิงสาวจะฮึดสู้สุดกำลัง จนหนีเอาตัวรอด โดยเหตุการณ์ ทั้ง 2 ครั้ง นายลิขิต ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ พร้อมกับทำแผน
ส่วนเหตุครั้งที่ 1 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 บริเวณถนนเส้นสายบ้านป่าบัว หมู่ 6 ต.ทองหลาง อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี โดยผู้เสียหายเป็นหญิงทำงานอยู่ที่ร้านสะดวกซื้อ คนร้ายได้ขับรถประชิดตัว ก่อนทีกระชากแขนผู้เสียหายในขณะขับรถ จยย. ถึง 2 ครั้ง ก่อนที่จะถีบรถซ้ำอีกครั้ง เพื่อหวังจะให้รถ จยย ล้มแต่หญิงสาวได้ประคองรถเอาไว้ และรีบขับรถ จยย หลบหนีอย่างรวดเร็ว ซึ่งนายลิขิต ยังให้การปฏิเสธ
โดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายลิขิต ไปทำแผนประกอบการรับสารภาพก่อเหตุ ครั้งที่ 1บนถนนเส้นนาไทย หมู่ 2 ต.สุขฤทัย โดยมีเจ้าทุกข์ น.ส.ขนิษฐา อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 119 หมู่ 3 ต.สุขฤทัย อ.ห้วยคต ทำแผน ระหว่างที่ น.ส.ขนิฐา เลิกจากงาน ในเวลา 22.00น.เพื่อกลับบ้าน ในระหว่างที่ขับ จยย.กลับบ้าน ได้มีนายลิขิต ขับขี่ จยย.ยีห้อฮอนด้าเอ็มเอสเอ็กซ์ 125 สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตามหลัง พอมาถึงจุดเกิดเหตุ นายลิขิต ได้ขี่ จยย.ประกบ แล้วดึงแขน เพื่อให้หยุดรถ จนมทำให้ของ น.ส.ขนิฐา เสียหลักล้มลง และ น.ส.ขนิฐา ได้วิ่งลงไปข้างทางป่าอ้อยทีตัดแล้ว และนายลิขิตได้วิ่งตาม จนไปทัน และนายลิขิตก็ดึงเสื้อ เพื่อให้หยุดแต้ น.ส.ขนิฐา ได้วิ่งหนีมาทีรถ นายลิขิต ก็ตามขึ้นไปบนถนน โดยที่ น.ส.ขนิฐา หนีไม่พ้น และได้นั่งคุกเข่า พร้อมกับนำเงินทีมีจำนวน 200บาท พร้อมกับโทรศัพท์ มือถือ 1 เครื่อง มาวางไว้ เพื่อให้นายลิขิต พร้อมกับก้มกราบเท้านายลิขิต เพื่อขอชีวิต กลับไปหาลูกทึ่รออยู่ที่บ้าน หลังจากนั้นนายลิขิต ก็ไม่เอา ก็หยิบเงินสด และโทรศัพท์ส่งคืนให้ตนเอง และก็ขับรถรถ จยย.ของตนเองไปแบบไม่รีบร้อน ดังกล่าว โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างมายืนดูกันเป็นจำนวนมากในการทำแผนประกอบคดี
โดย น.ส.จอย ซึ่งเป็นพี่สาวของ น.ส ขนิฐา ได้ให้สัมภาษณ์ ในคืนที่เกิดเหตุ ให้ผู้สื่อข่าว พร้อมกับชาวบ้านได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยคต และ ชุดสืบสวน ภจ.ว.อุทัยธานี รายมาได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับรับสารภาพ จนทำชาวบ้านไม่ต้องอยู่กันอย่างหวาดผวาต่อไป
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สอบปากคำนายลิขิต ผู้ต้องหาที่ให้การรับสารภาพ ที่เกิดเหตุ ในคดีของวันที่ 1 ก.พ.68 เพิ่ม โดยเจ้าหน้าที่นั้นไม่เชื่ออว่านายลิขิต ให้การปฎิเสธว่าไม่ก่อเหตุ หลังจากนั้นเวลา 15.00 น ได้นำหมายศาลของจังหวัดอุทัยธานี พร้อมกับนำตัวนายลิขิต ไปตรวจค้นที่บ้านใน โดยไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย พร้อมกับควบคุมมยัง สภ.ห้วยคต เพื่อสอบปากคำ แจ้งข้อกล่าวหา และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป