“ทวารวดีศรีนครปฐม” บนกำแพงศิลปะ: แรงบันดาลใจจากอดีตสู่อนาคต

ว่าที่ร้อยตรี ดร.ชนะคมศร คงยืน ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคนครปฐม ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม นำคณะนักศึกษาชั้นปีที่ 3 และครู สาขาวิชาศิลปศึกษา มาเขียนภาพศิลปะทวารวดีบนกำแพงวิทยาลัยเทคนิคนครปฐม ตั้งแต่ปากทางเข้าถนนสามกระบือเผือก ถึง เจดีย์จุลประโทน 

นครปฐม เมืองเก่าแก่ที่มีรากฐานทางประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่ยุคทวารวดี กำลังถูกถ่ายทอดผ่านปลายพู่กันของนักศึกษาศิลปะบนกำแพงวิทยาลัยเทคนิคนครปฐม ด้วยโครงการวาดภาพแนวพาโนรามาตลอดแนวกำแพงยาว 77 ช่อง รวมระยะยาวประมาณ 230 เมตร สู่การเป็น "ถนนแห่งศิลปะเมืองนครปฐม" เพื่อเชิดชูความรุ่งเรืองในอดีตให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง

แรงบันดาลใจจากยุคทวารวดี

ยุคทวารวดีเป็นช่วงเวลาที่นครปฐมเจริญรุ่งเรืองทั้งด้านศาสนา ศิลปกรรม และการค้า ภาพวาดบนกำแพงแห่งนี้จึงถ่ายทอดเรื่องราวจากยุคดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น พระปฐมเจดีย์ในอดีต, ศิลปะปูนปั้นและลวดลายเครื่องปั้นดินเผา, พระพุทธรูปสมัยทวารวดี, ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในยุคนั้น ตลอดจนการเชื่อมโยงนครปฐมเข้ากับเส้นทางการค้าโบราณ

นักศึกษาศิลปะกับภารกิจสร้างสรรค์

โครงการนี้ดำเนินการโดยนักศึกษาชั้นปีที่ 3 จากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ซึ่งเป็นพลังหนุ่มสาวที่เต็มเปี่ยมด้วยไอเดียสร้างสรรค์ พวกเขาใช้ฝีมือและจินตนาการในการรังสรรค์งานศิลป์ ไม่เพียงแค่เพื่อความงาม แต่ยังเป็นเครื่องมือบอกเล่าประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นใหม่ได้รับรู้และภาคภูมิใจในรากเหง้าของตน

ถนนแห่งศิลปะ เมืองนครปฐม

กำแพงศิลปะชุดนี้ไม่เพียงเป็นเครื่องประดับเมือง แต่ยังมีเป้าหมายในการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางศิลปะและวัฒนธรรม นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปสามารถมาเยี่ยมชม เรียนรู้เรื่องราวของนครปฐมผ่านศิลปะ และถ่ายภาพเป็นที่ระลึก นับเป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินที่สะท้อนอัตลักษณ์ของเมืองได้อย่างโดดเด่น

ศิลปะที่เชื่อมอดีต ปัจจุบัน และอนาคต

กำแพงแห่งนี้เป็นมากกว่างานศิลปะ แต่เป็น "หน้าต่างสู่อดีต" ที่ทำให้คนรุ่นใหม่เข้าใจและเห็นคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรม การผสมผสานเทคนิคการวาดภาพสมัยใหม่เข้ากับเนื้อหาประวัติศาสตร์ ทำให้เรื่องราวทวารวดีเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่หันมาให้ความสนใจในศิลปะและวัฒนธรรมมากขึ้น

โครงการนี้ไม่เพียงเป็นผลงานศิลปะที่ทรงคุณค่า แต่ยังเป็นก้าวสำคัญในการทำให้ศิลปะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน และทำให้นครปฐมกลายเป็นเมืองแห่งศิลปะที่มีชีวิต ไม่ใช่เพียงแค่ในอดีต แต่รวมถึงอนาคตข้างหน้าด้วย