เฮลิคอปเตอร์ MI 17 ของกองทัพภาคที่ 3 ที่บินมาสนับสนุนดับไฟป่าพื้นที่ ต.ห้วยโป่ง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ต้องยกเลิกภารกิจหลังประสบปัญหาควันไฟป่าหนาแน่นและแหล่งน้ำไม่เพียงพอ ขณะที่ผวจ.สั่งเข้มให้ระดมกำลังเข้าดับไฟป่าภายในวันที่ 24 มี.ค.2568 ให้แล้วเสร็จ

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2568 ว่าที่พันตรี ยุทธนา เจ้าดูรี นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน/ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน สั่งการให้นายอนุวัตน์  รัตนพงศ์ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานความมั่นคง นายพีรยากร ปุณยาภรณ์  ปลัดอำเภอกลุ่มงานความมั่นคง  นำกำลังพล ชป.เคลื่อนที่เร็ว ร้อย อส.เมือง ที่ 2  ประสานบูรณาการร่วมกับ อบต.ห้วยโป่ง อุทยานน้ำตกแม่สุรินทร์  เตรียมความพร้อมสถานที่ลงจอดและข้อมูลพื้นที่แหล่งน้ำจุดสำคัญเพื่อที่จะสนับสนุนข้อมูลเพื่อประสานการปฏิบัติภารกิจดังกล่าว
    
จากการประชุม หารือร่วมกัน พบว่า 1. พื้นที่ลงจอดคับแคบไม่สามารถประกอบ  bambi (อุปกรณ์ตักน้ำประกอบอากาศยาน) ได้เนื่องจากพื้นที่ไม่อำนวยคับแคบต่อการประกอบ 2. ทัศนวิสัยในการมองเห็นระยะปฏิบัติงานไม่เพียงพอ และ แหล่งน้ำความลึกไม่เพียงพอ ซึ่งได้รวบรวมเป็นข้อมูล จะได้ประสานการปฏิบัติในห้วงต่อไปโดย ชุดบินของกองทัพภาคที่ 3 ได้เดินทางกลับเรียบร้อย

ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้ดำเนินการบริหารจัดการไฟกลุ่มคลัสเตอร์ห้วยโป่ง/ขุนยวม ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 24 มีนาคม 2568 โดยให้ระดมกำลังพลเจ้าหน้าที่จากหน่วยสังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน ร่วมสนับสนุนการดำเนินงาน หลังเฮลิคอปเตอร์กองทัพบกไม่สามารถปฏิบัติบินดับไฟป่าได้เนื่องจากหมอกควันหนาแน่น

ในวันเดียวกัน  22 มีนาคม 2558 เวลา 16.00 น. ที่ ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดแม่ฮ่องสอนศูนย์ warroom  สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน มอบหมายให้ นายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์ไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน  มี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ทั้งในรูปแบบระบบไซต์และรูปแบบระบบออนไลน์ ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ ในรูปแบบออนไลน์อีกด้วย

โดยที่ประชุมได้ติดตามการรายงานผลจุดความร้อนในช่วงวันที่ 1 มกราคม 2568 – 21 มีนาคม 2568 ซึ่งมีจุดความร้อนสะสมจำนวน 1,373 จุด น้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่าน ในปี 2567 ซึ่งเกิดขึ้นจำนวน 6,142 จุด ขณะที่ปัจจุบันจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีค่า PM2.5 เกินเกณฑ์มาตรฐานสะสม 21 วัน โดยในปีนี้จังหวัดแม่ฮ่องสอนตั้งค่าเป้าหมายไว้ไม่เกิน 74 วัน 

โดยผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้กล่าวขอบคุณและส่งกำลังใจ ให้กับทุกภาคส่วนที่ร่วมแรงร่วมใจในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง  และขอให้ควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมตั้งแต่เดือนมีนาคมไปจนถึงเดือนเมษายน  รวมถึงเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนยึดถือปฏิบัติและดำเนินการตามข้อสั่งการของนายบุญลือ ธรรมธรานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ดังนี้

1) ให้ดำเนินการบริหารจัดการไฟกลุ่มคลัสเตอร์ห้วยโป่ง/ขุนยวม ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 24 มีนาคม 2568 โดยให้ระดมกำลังพลเจ้าหน้าที่จากหน่วยสังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน ร่วมสนับสนุนการดำเนินงาน

2) ให้อำเภอทุกอำเภอ จัดทำแผนปฏิบัติการลาดตระเวนพื้นที่ริมทางหลวงหมายเลข 1095 และหมายเลข 108 ตลอด 24 ชั่วโมง โดยจัดส่งให้ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ระดับจังหวัดแม่ฮ่องสอน (Warroom จังหวัด) ภายในวันจันทร์ที่ 24 มีนาคม 2568 โดยให้เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป

3) ให้อำเภอทุกอำเภอดำเนินการจัดส่งข้อมูลให้ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ระดับจังหวัดแม่ฮ่องสอน (Warroom จังหวัด) ดังนี้
   - ให้จัดส่งข้อมูลการสำรวจพื้นที่ไร่หมุนเวียนในภาพรวม ภายในวันจันทร์ที่ 24 มีนาคม 2568
   - ให้จัดส่งข้อมูลการบริหารจัดการเชื้อเพลิงพื้นที่ไร่หมุนเวียน (เพิ่มเติม) โดยระบุจำนวนแปลง วันที่ดำเนินการเผา ชื่อผู้ควบคุม และหมายเลขโทรศัพท์

4) ให้ทุกพื้นที่ดำเนินการใช้มาตรการป้องกันไฟขั้นสูงสุด โดยการรณรงค์เคาะประตูบ้าน ประชุมหมู่บ้านร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาสัมพันธ์เสียงตามสาย เพื่อขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ร่วมกันยับยั้งการเกิดไฟกองใหม่ ตั้งแต่ห้วงวันที่ 22 มีนาคม – 30 เมษายน 2568

5) ให้นายอำเภอทุกอำเภอ ดำเนินการตรวจสอบคำขออนุมัติบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่เกษตร
ผ่านระบบสนับสนุนการตัดสินใจในการบริหารจัดการเชื้อเพลิงชีวมวล (FireD) โดยให้ดำเนินการอนุมัติคำขอตามที่เห็นสมควร ซึ่งในพื้นที่ที่ได้รับอนุมัติจะต้องมีการจัดทำแนวกันไฟในระยะ 10 เมตร และดำเนินการเผาในห้วงเวลา 14.30 – 17.00 น. เท่านั้น ซึ่งมีนายอำเภอเป็นผู้รับผิดชอบ

6) ให้ทุกพื้นที่ดำเนินการยกระดับการดูแลสุขภาพประชาชนระดับสูงสุด โดยการแจกหน้ากากอนามัย มุ้งสู่ฝุ่น จัดอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ลงพื้นที่ใกล้ชิดกลุ่มเปราะบาง ใช้กลไกกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน และอสม. ในการสื่อสารสร้างความเข้าใจการทำงานของภาครัฐ และหน่วยงานต่าง ๆ ในการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน

7) ให้ทุกพื้นที่ ทุกอำเภอยกระดับการประชาสัมพันธ์ โดยเน้นการประชาสัมพันธ์การทำงานของเจ้าหน้าที่และทุกหน่วยงานในการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน สื่อสารให้สาธารณชนได้รับรู้ และเข้าใจถึงการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่ ผ่านทุกช่องทาง เช่น tiktok facebook เป็นต้น พร้อมทั้งร่วมกันนำเสนอข้อมูล และเรื่องราวดี ๆ ที่เกิดขึ้นจากการทำงานด้านการป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันของจังหวัดแม่ฮ่องสอน
นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนดำเนินการบริหารจัดการไฟในพื้นที่รอยต่อพื้นที่ห้วยโป่ง/ขุนยวม ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 24 มีนาคม 2568 และขอให้เฝ้าระวังไฟจากพื้นที่ไร่หมุนเวียนที่จะเกิดขึ้นด้วย