สกลนคร ชาวบ้านเดือดร้อนไม่มีไฟฟ้าร้องขอให้ช่วย ทั้งที่อยู่ห่างที่ว่าการอำเภอไม่มาก
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบและสอบถามปัญหาไม่มีไฟฟ้าใช้ของชาวบ้าน โพนงามโคก ต.บ้านแป้น อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร หลังชาวบ้านประมาณ 33 หลังคาเรือน ประสบปัญหาไม่มีไฟฟ้าใช้มานานหลายปี แม้หน่วยงานท้องถิ่นจะพยายามขยายเขตไฟฟ้าแต่ติดงบประมาณ จึงประสานไปยังไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ทราบว่าเข้าแผนงบประมาณแต่เรื่องยังเงียบ
วันที่ 22 มีนาคม 2568 เวลา 11.00 น.ชาว บ.โพนงามโคก บ.นาแก้ว ต.บ้านแป้น อ.โพนนาแก้ว สกลนครจ.สกลนคร ประมาณ 33 หลังคาเรือน ร้องเรียนต่อ นายปัณณพัฒน์ เตชสิทธิ์ธนภร สมาชิคพรรคประชาชน ว่าที่ รต.หญิง ปัณณฑารีย์ เตชสิทธิ์ธนภร ผู้ประสานงานรับเรื่องร้องเรียนพรรคประชาชน และสื่อมวลชน ภายหลังชาวบ้านส่วนที่อยู่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างบ้านโพนงามโคก-โพนงามท่า และเป็นถนนดินลูกรังเชื่อมต่อไปยัง รพ.และที่ว่าการ อ.โพนนาแก้ว โดยบอกว่าชาวบ้านกลุ่มนี้ต้องการไฟฟ้าใช้ เนื่องจากเดือดร้อน เพราะเป็นที่อยู่อาศัย ทำเกษตรและปศุสัตว์ ก่อนหน้านี้ได้ร้องเรียนไปยัง อบต.บ้านแป้นแล้ว แต่ทาง อบต.อ้างติดขัดเรื่องงบประมาณเนื่องจากพบว่าการขยายเขตไฟฟ้ามีค่าใช่จ่ายสูง กว่า 2 ล้านบาท
นางจีระวรรณ วงค์รีพันธ์ อายุ 40 ปี ชาวบ้านโพนงามโคก กล่าวว่า พวกตนอยู่อาศัยที่นี่มานานกง่า 40 ปี จนเกิดเป็นชุมชน ไม่เคยใช้ไฟฟ้า แต่เมื่อปี 64 พวกตน ได้ทำหนังสือไปยังการไฟฟ้าส่วนกลาง กทม.จนมีหนังสือตอบกลับมาและประสานมายัง กฟภ.สกลนคร กฟภ.โพนนาแก้ว และ อบต.บ้านแป้น จนมีการออกมาสำรวจสอบถามความเดือดร้อนว่าเป็นอย่างไรบ้างคืบหน้าไปพอสมควร ที่ผ่านมาชาวบ้านก็เข้าใจว่าระเบียบทางราชการขั้นตอนเยอะ แต่ว่าตอนนี้ปี 68 แล้ว ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหา ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ก็ต้องลงทุนใช้โซล่าเซลล์ไปก่อนแต่ค่อนข้างมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงเยอะเนื่องจากอุปกรณ์โซล่าเซลล์เสื่อมสภาพเร็ว พวกเราทำการเกษตรต้องใช้น้ำ และไฟฟ้าเป็นสิ่งจำเป็นจึงอยากวิงวอนให้ทางราชการที่รับผิดชอบช่วยชาวบ้านด้วย
นายตรีทศ เพ็งสว่าง นายก อบต.บ้านแป้น กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รับปัญหาของชาวบ้านและดำเนินการตรวจสอบแล้วและพยายามจะหางบประมาณ มาช่วยเหลือชาวบ้านเพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้แต่ด้วยว่าติดขัดปัญหาเรื่องงบประมาณที่จะต้องบริหารอย่างทั่วถึง จึงดำเนินการไม่ได้ จึงประสานไปยังการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแล้ว เพื่อออกมาสำรวจดำเนินการ ทราบว่า จากการสำรวจนั้นต้องใช้งบประมาณ 2.7 ล้านบาท อย่างไรก็ตามทาง อบต.จะได้สอบถามความคืบหน้าหรือติดขัดประการใดจะได้แจ้งความคืบหน้าให้ชาวบ้านทราบ.