ตำรวจทลายแหล่งผลิตปืนแบลงค์กันดัดแปลงขาย ทางอินเตอร์เน็ต 3 ราย มีหนึ่งรายสารภาพหาเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการการฟอกไต

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม พ.ต.อ.วสันต์ เกศะรักษ์ รองผบก.ภ.มหาสารคามพ.ต.อ.ไกรทอง ชัยสิงห์ ผกก.สภ.เมืองมหาสารคาม พ.ต.ท.กฤษฎา นิติพจน์ รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พ.ต.ท.สมพงษ์ สามสี รอง ผกก.ป. สภ.เมืองมหาสารคาม และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กองกำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 4 ร่วมกันแถลงผลตรวจค้นเป้าหมายยาเสพติด อาวุธปืน และสิ่งผิดกฎหมาย จากที่ได้มีการสืบทราบมีการดัดแปลงปืนขายในกลุ่มไลน์ ทางเจ้าหน้าทีจึงได้เข้าไปในกลุ่มและได้ทำการสืบจนสามารถจับกุมได้ 3 ราย  

รายแรก ได้เข้าตรวจค้นบ้านในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม จับกุม นายสุริยะ หรือยะ อายุ 51 ปี พร้อมของกลาง อาวุธปืนสั้นยี่ห้อซิกซาวเออร์ P.365 พร้อมแม็กกาซีน, เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 4 นัด, ปืนยาว ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก, เครื่องกระสุนปืน ขนาด .22 จำนวน 23 นัด และยาบ้า จำนวน 9 เม็ด โดยผู้ต้องหามีพฤติการณ์ปล่อยเงินกู้และรับจำนำอาวุธปืน

รายที่สอง ได้เข้าตรวจค้นบ้านใน ต.เกิ้ง อ.เมือง จ.มหาสารคาม จับกุม นายกิตติพงษ์ อายุ 32 ปี พร้อมของกลาง อาวุธปืนพกสั้น 1 กระบอก, เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 15 นัด, แม็กกาซีน 1 อัน และอาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ 2 กระบอก

และรายที่สาม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กองกำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 4 ได้นำหมายศาลจังหวัดมหาสารคาม ที่ 187/2568 เข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมาย ใน ต.บรบือ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม จับกุมนายโยธิน อายุ 28 ปี พร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืนแบลงค์กัน ดัดแปลง จำนวน 2 กระบอก ใช้กับกระสุนปืน ขนาด .38 และพบเครื่องกระสุนปืน 30 นัด นอกจากนี้ยังได้ตรวจค้นพบอุปกรณ์ที่ใช้ในการดัดแปลงทำอาวุธปืน อาทิ เครื่องกลึง เครื่องเจีย เพื่อใช้ประกอบอาวุธปืนให้สามารถยิงกระสุนจริงได้ โดยผู้ต้องหาได้โพสต์ขายในอินเตอร์เน็ต เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามและรวบรวมพยานหลักฐานจนทราบที่อยู่แน่ชัด จึงได้ขออนุมัติหมายศาลเข้าตรวจค้น นำไปสู่การจับกุมในที่สุด

จากการสอบสวน นายโยธิน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเองทำงานเป็นพนักงานส่งอาหาร รายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ประกอบกับตนเองเป็นโรคไตตั้งแต่อายุ 2 ขวบ และตอนนี้ต้องฟอกไตสัปดาห์ละ 3 วัน ทำให้ต้องหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรักษา  แต่ตนเองชื่นชอบอาวุธปืนมานานแล้ว แต่ปืนจริงมีราคาแพงจึงได้ทำการศึกษา  ดัดแปลงอาวุธปืนแบลงค์กัน จากยูทูบ โดยสั่งซื้ออาวุธปืนแบลงค์กัน มาจากอินเตอร์เน็ตมาเริ่มดัดแปลงใช้เอง โดยสั่งอุปกรณ์ เครื่องเจีย เครื่องกลึง มาทดลองทำ จากนั้นก็จะนำไปทำการทดสอบยิงถ้าปืนแตกก็ไม่สามารถใช้ได้ จนดัดแปลงสำเร็จก็เริ่มนำมาขายได้ประมาณ 3 เดือน ในราคากระบอกละ 6,000 บาท เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บรบือ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป