ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จับกุมขบวนการลักลอบทำไม้ในเขตอุทยานแห่งชาติป่าพุน้ำเค็ม (พื้นที่นิคมสหกรณ์บางสะพานรับมาจัดสรรให้ประชาชน)เนื้อที่ 145 ไร่
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส., พ.ต.อ.มงคล พรานสูงเนิน รอง ผบก.ปทส., พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยารอง ผบก.ปทส., พ.ต.อ.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ ผกก.5 บก.ปทส.,พ.ต.ท.พรเทพ ชุมแสง รอง ผกก.5 บก.ปทส.,พ.ต.ท.ปฐมพงศ์ ทองจำรูญ รอง ผกก.5 บก.ปทส.เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตำรวจ กก.5 บก.ปทส. นำโดย พ.ต.ท.บรรลพ สมพงษ์ สว.กก.5 บก.ปทส., ร.ต.อ.สุรศักดิ์ศิวะกุล รอง สว.กก.5 บก.ปทส., ร.ต.ท.นเรศ ฉิมพุกรอง สว.(ป) กก.5 บก.ปทส., ร.ต.ท.ทนงศักดิ์ ทองแก้วรอง สว.(ป) กก.5 บก.ปทส., ด.ต. สุมิตร บุมี ผบ.หมู่ กก.1 ปรก.กก.5 บก.ปทส. ได้ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรบางสะพาน จนท.ฝ่ายปกครอง อ.บางสะพานจ. ประจวบคีรีขันธ์ร่วมกันจับกุม1. นายณรงค์ศักดิ์ฯ อายุ 35 ปี (คนขับรถสิบล้อพร้อมลากพ่วง)2. นายมนตรีฯ อายุ41 ปี (คนขับรถบรรทุก12ล้อ)พร้อมผู้ต้องหาชาวเมียนมาร์ อีก 19 คนโดยกล่าวหาว่าประทำความผิดฐาน ทำไม้ หรือกระทำการด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติพ.ศ.2507 (ฉบับที่ 4 ) พ.ศ.2559 ประกอบมาตรา 33ของกลาง 1.เครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 5 เครื่อง2.รถแบ็คโฮ จำนวน 2 คัน รถสิบล้อพร้อมลากพ่วง จำนวน 1 คัน3.รถบรรทุก 12 ล้อ จำนวน 1 คัน4.รถแทรกเตอร์ (ล้อยาง) จำนวน 4 คัน5.แกลลอนน้ำมันเชื้อเพลิงพร้อมน้ำมันเบนซิน จำนวน 2 แกลลอน6.แกลอนน้ำมันเครื่องพร้อมน้ำมันเครื่องสำหรับเลี้ยงเลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 1 แกลลอน และลังเครื่องมือ จำนวน 1 ลัง สถานที่จับกุม บ้านห้วยแก้ว ม.6 ต.พงศ์ประศาสน์ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์
พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปทส.ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางสะพาน จนท.ฝ่ายปกครอง เข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ร้องเรียน ว่ามีการลักลอบทำไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต พื้นที่ บ้านห้วยแก้ว หมู่ที่ 6 ตำบลพงศ์ประศาสน์ อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติป่าพุน้ำเค็ม(พื้นที่นิคมสหกรณ์บางสะพานรับมาจัดสรรให้ประชาชน) พบว่ามีการตัดไม้ยางพาราเป็นบริเวณกว้างและพบกลุ่มบุคคลกำลังใช้เครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ตัดไม้ยางพารา และช่วยกันเคลื่อนย้ายไม้ยางพาราที่ถูกตัดเป็นท่อนขึ้นรถบรรทุก คณะเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย เข้าทำการตรวจสอบกลุ่มบุคคลดังกล่าว พบว่า เป็นการกระทำผิดตาม ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 (ฉบับที่ 4 ) พ.ศ.2559 ประกอบมาตรา 33 ฐาน ทำไม้ หรือกระทำการด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ จึงได้ร่วมกันจับกุมพร้อมนำตัวส่ง พงส.สภ.บางสะพาน จว.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพ
