วันที่ 20 มี.ค. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายนิติศักดิ์ มีขวด หรือทนายเอี้ยง ทนายความของดิว อริสรา ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ว่า หลังจากที่เมื่อวานนี้ (19 มี.ค.68) คุณดิว อริสรา ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงในรายการโหนกระแสและรับทราบเมื่อวานนี้ว่า ทางฝั่งของเมย์ วาสนา อินทะแสง ได้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามแล้ว จึงได้พูดคุยกับตนและได้ข้อเท็จจริงยืนยันว่า การเดินทางไปไต้หวันไม่ใช่การหลบหนีตามที่มีกระแสข่าว ซึ่งได้เดินทางไปก่อนหน้านี้หลายวันแล้ว ทั้งนี้ดิว ไม่ทราบมาก่อนว่าถูกแจ้งความเมื่อทราบเรื่องก็ได้รีบประสานให้ตัวเองดำเนินการยื่นหนังสือกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและยืนยันว่า ที่ไปต่างประเทศ เพราะต้องการที่จะไปดูแลลูก ไม่มีเจตนาที่จะหลบหนีคดี รวมทั้งยืนยันว่า หลังจากนี้ยินดีที่จะเข้ามาพบพนักงานสอบสวนและให้ความร่วมมือทุกประการ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม
ส่วนข้อเท็จจริงเบื้องต้นจากการที่พูดคุยเป็นไปตามที่ได้ชี้แจ้งในรายการคือ ทางดิวต้องการยืมทรัพย์สิน ตามที่ตกลงกันก็คือให้นำทรัพย์สินดังกล่าวไปใช้แก้ปัญหาหนี้สินที่เกิดขึ้น แต่เกิดข้อผิดพลาดเนื่องจากเจ้าหนี้ของคุณดิวต้องการเงินสด ไม่ได้ต้องการทรัพย์สิน จึงจำเป็นต้องนำทรัพย์สินไปจำนำเพื่อให้ได้เงินสด แต่ยืนยันว่าประเด็นดังกล่าวอยู่ในเงื่อนไขที่ทางผู้เสียหายให้ทรัพย์สินยืมไป และทางคุณเมย์ก็รับทราบเรื่องที่มีการนำทรัพย์สินไปจำนำแล้ว โดยทั้งสองฝ่ายได้มีการพูดคุยกันมาโดยตลอด แต่จะรับทราบก่อนหรือหลังรับจำนำ เรื่องนี้ส่วนตัวไม่ทราบ
ทางดิวไม่มีเจตนาที่จะฉ้อโกงและทำให้ทรัพย์สินสูญหาย เพียงแต่ว่าต้องการจะแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด อีกทั้งร้านรับจำนำก็รับจำนำอย่างถูกต้อง ไม่มีเจตนาที่จะเบียดบังทรัพย์สินแต่อย่างใด ส่วนที่ว่าทำไมทรัพย์สินบางรายการมีมูลค่าสูงถึง 20 ล้านบาท แต่ทำไมนำมาจำนำในราคาแค่ 8 ล้านบาท ก็เป็นเพราะคุณดิวต้องการจะจำนำในราคาที่มาทบกับหนี้ที่มีอยู่ 21 ล้านบาทเท่านั้น ยอมรับว่า เนื่องจากทั้งสองฝ่ายไม่มีเงินสด จึงต้องให้ของมายืมแทน ซึ่งเชื่อว่าหากให้ยืมเงินสดแต่แรก ก็จะไม่เกิดปัญหานี้
ทนายเอี้ยง ยืนยันว่า ทางคุณดิวพร้อมที่จะรับผิดชอบและชดใช้ในหนี้สินและเงินที่ได้รับจากการจำนำทั้งหมด รวมทั้งพร้อมที่จะพูดคุยทั้ง 3 ฝ่าย เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และต้องการที่จะเคลียร์ปัญหานี้ให้จบโดยเร็ว ขณะนี้ก็กำลังพูดคุยหารือกับผู้ใหญ่เพื่อให้ได้เงินมาชดใช้หนี้ ส่วนเรื่องรัฐมนตรีที่มามีส่วนเกี่ยวข้องนั้น เรื่องนี้ไม่ทราบและยังไม่ได้พูดคุยกับคุณดิว
สำหรับเรื่องทางคดีนั้นต้องขึ้นอยู่กับทางพนักงานสอบสวนว่าจะพิจารณาว่าเป็นเพียงแค่เรื่องแพ่งหรือเป็นเรื่องการดำเนินคดีทางอาญา ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ยืนยันว่าจะไม่มีการนำข้อกฎหมายมาต่อสู้เพื่อเอาชนะ แต่มุ่งเน้นที่จะพูดคุย เพื่อแก้ปัญหานี้โดยให้จบเร็วๆ เพราะคุณดิวเอง ก็เครียดและเสียใจที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน รวมทั้งอยากให้ได้รับของคืนโดยเร็ว เชื่อว่าจะจบด้วยดีเร็วๆ นี้
ต่อมาภายหลังจากนายอรรถชัย แจ้งอรุณ ทนายความของ มาดามเมนี่ หรือ "เมย์ วาสนา อินทะแสง" นักธุรกิจสาวพันล้าน ได้เข้าพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามเสร็จสิ้น ได้เปิดเผยว่า วันนี้มาพบกับตำรวจเป็นการให้ปากคำเพิ่มเติมในการนำข้อเท็จจริงมานำเสนอ โดยเฉพาะในเรื่องที่ว่าอาจจะมีบุคคลอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องและร่วมมือในการกระทำดังกล่าว ซึ่งมองว่าอาจพัฒนาไปเป็นการเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงได้
นายอรรถชัย กล่าวว่า อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ ขอให้เป็นหน้าที่ของทางพนักงานสอบสวนและศาลในการดำเนินการทางคดีว่ามีพฤติการณ์เข้าข่ายเป็นการฉ้อโกงหรือไม่ ส่วนตัวขอไม่ให้ความเห็นอะไรเพิ่มเติม ซึ่งทางคดีนั้นยังคงยืนพื้นการแจ้งความร้องทุกข์ที่การยักยอกทรัพย์ ซึ่งมั่นใจในพยานหลักฐานทั้งเอกสารและพยานบุคคล พร้อมเน้นย้ำว่า ประเด็นในคดีนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าใครพูดอะไร แต่ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน
สำหรับเรื่องของทรัพย์สินนั้นมีหลายคนติดต่ออ้างว่ามีทรัพย์สินของคุณเมย์อยู่ในมือ แต่ส่วนตัวยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะยังไม่เห็นทรัพย์สินที่แท้จริง ขอใช้เวลาในการตรวจสอบ เช่นเดียวกับประเด็นเรื่องของทรัพย์สินของคุณเมย์ที่อยู่ในมือรัฐมนตรีนั้น เมื่อวานนี้ก็มีนักการเมืองโทรมาเช่นเดียวกัน แต่ขอไม่เปิดเผยว่าเป็นใคร
ส่วนเรื่องการถอนคดีนั้น นายอรรถชัย กล่าวว่าหากว่ายังเป็นคดียักยอกและฝั่งคุณดิวให้ความร่วมมือและได้นำทรัพย์สินมาคืนจนครบก็พร้อมที่จะถอนคดี เพราะยืนยันว่าฝั่งคุณเมย์ก็ไม่อยากที่จะเอาผิดและยังอยากให้โอกาส แต่เกรงว่าจะหมดอายุความ จึงต้องแจ้งความดำเนินคดีไว้ก่อน พร้อมทั้งที่จะยินดีเจรจาทั้ง 3 ฝ่าย บนหลักการพื้นฐานง่ายๆ ว่า ใครที่เอาของใครไปก็แค่เอามาคืนเท่านั้น
หลังจากให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น นายอรรถชัยได้พบกับทนายเอี้ยง ทนายความของดิว อริสรา โดยบังเอิญ จากนั้นทนายเอี้ยงก็ได้เดินเข้ามาขอจับมือนายอรรถชัย ก่อนที่ทนายเอี้ยงบอกว่า แจ้งความแล้วก็ไม่เป็นไร เรามาแสดงความบริสุทธิ์ใจ จากนั้นนายอรรถชัย พูดขึ้นทันทีว่า "รบกวนเอาของมาคืนเร็ว ๆ" ทนายเอี้ยงจึงบอกไปว่า เมื่อคืนคุณดิว เขาคุยกับคนที่เอาของไปไว้แล้ว เดี๋ยวจะเอามาคืนอยู่บางส่วน ส่วนตัวจะพยายามรวบรวม คาดว่าจะจบในเร็วๆ นี้